13 พ.ค. 2020 เวลา 12:04 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
กลุ่มดาววัว จากตำนานสู่กลุ่มดาวยามค่ำคืน
กลุ่มดาววัว (Taurus) ถือเป็น 1 ใน 13 กลุ่มดาวจักรราศีที่เป็นกลุ่มดาวทางผ่านของดวงอาทิตย์ โดยกลุ่มดาวนี้มีความน่าสนใจหลายอย่างคือ เป็นกลุ่มดาวที่มีดาวสว่างที่สุดในบรรดาจักรราศี มีกระจุกดาวลูกไก่ที่คนไทยรู้จักกันดี รวมถึงยังเป็นส่วนหนึ่งของ “หกเหลี่ยมฤดูหนาว” ที่นักดูดาวมือใหม่ใช้ฝึกหากลุ่มดาวอีกด้วย
รูปวาดจำลองกลุ่มดาววัว ที่มา - https://spaceth.co/taurus-constellation/
ตำนานที่ถูกส่งต่อปากต่อปากเรื่องเล่าเริ่มจากว่านาง Europa กำลังเดินเก็บดอกไม้ลั้นลาอยู่ริมทะเล ด้วยหน้าตาที่อ่อนหวานเอวบางร่างน้อย ซุสเข้ามาเห็นก็โดนตกทันที แต่ด้วยความเป็นเทพสูงสุดอยากทำอะไรก็ต้องได้ อยากเอายูโรป้าเป็นเมีย ดังนั้นซุสเลยจำแลงกายเป็นวัวเผือกเข้ามายั่ว ยูโรปาเห็นวัวสีขาวก็ลองเข้าไปเล่น ลูบ ๆ คลำ ๆ พอติดใจทีเด็ดของวัวซุสแล้ว เลยตบท้ายด้วยการขึ้นขี่ ซุสหัวเราะในใจว่า เสร็จข้า
ว่าแล้ววัวเผือกก็วิ่งแล่นไปทั่วทวีป พร้อมทั้งข้ามน้ำข้ามทะเลมาปล่อยในเกาะครีต และอยู่กินจนมีลูกด้วยกัน 3 คน พร้อมทั้งแต่ตั้งให้เป็นราชินีแห่งเกาะครีตให้ด้วย และเมื่อถึงเวลาที่จะต้องไป ซุสได้มอบของขวัญ 3 อย่าง และสร้างกลุ่มดาววัวบนท้องฟ้าให้ยูโรปาดูเล่น เพื่อให้นางระลึกถึงสามีที่กำลังจะกลับไป
จากเหตุการณ์ครั้งนี้จึงเป็นต้นกำเนิดของ Taurus หรือกลุ่มดาววัวที่เราเห็นบนฟ้านี่เอง อย่างไรก็ตามก็มีความแปลกอยู่อย่างหนึ่งคือ เป็นวัวที่มีแค่ครึ่งตัว! ใช่ โดยปกติแล้วกลุ่มดาวรูปสัตว์มักจะวาดกันครบทั้งตัว มีหัวมีหาง แต่กลุ่มดาววัวดันมีแค่ครึ่งตัว คือแค่ส่วนหัวกับขาหน้า นับว่าเป็นความแปลกอีกอย่างหนึ่งของกลุ่มดาวนี้
นอกจากนี้ จากที่ซุสพายูโรปาทัวร์ทั้งทวีป ทำให้ทวีปนั้นได้ชื่อว่า Europe แบบที่เราเรียนกัน นอกจากนี้กาลิเลโอยังเอาชื่อ Europa ไปตั้งเป็นชื่อดวงจันทร์ของดาวพฤหัสที่เขาค้นพบในปี 1610 ด้วย เพราะว่า Jupiter คือชื่อโรมันของ Zeus นั่นเอง และปัจจุบันนักดาราศาสตร์คาดหมายว่าดวงจันทร์ยูโรปาจะเอื้อต่อสิ่งมีชีวิต เพราะค้นพบน้ำในรูปน้ำแข็งในปริมาณมหาศาล
โดยปกติแล้ว คนที่ฝึกดูดาวจะเริ่มดูจากกลุ่มดาวนายพราน (Orion) เพราะถือเป็นกลุ่มดาวที่มีดาวสว่างจำนวนมาก หากรู้ตำแหน่งและทิศทางของดาวในกลุ่มดาวนี้แล้ว กลุ่มดาววัวจะอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งจะมีจุดเด่นคือดาว 5 ดวงเรียงกันเป็นรูปตัว V โดยจะมีดาวสว่างที่สุดอยู่ที่ปลาย ดาวนั้นคือ Aldebaran ซึ่งถือเป็นดาวที่สว่างที่สุดในกลุ่มดาววัว
เมื่อรู้ตำแหน่งของมันแล้ว ลองหากลุ่มดาวอื่นรอบๆ ซึ่งด้านขวาเป็นกลุ่มดาวแกะ (Aries) และด้านซ้ายจะเป็นกลุ่มดาวคนคู่ (Gemini) ซึ่งทั้งสองเป็นกลุ่มดาวจักรราศีทั้งคู่ และทิศเหนือมีกลุ่มดาวสารถี (Auriga) กับดาว Capella ที่สว่างลำดับที่ 7 บนท้องฟ้า
กลุ่มดาววัวอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของนายพราน ที่มา – Stellarium
เนื่องจากเป็นกลุ่มดาวจักรราศี ทำให้ดวงอาทิตย์เข้ามาสถิตในกลุ่มดาวนี้ตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม – 19 มิถุนายน (39 วัน) ทำให้ในช่วงเวลาดังกล่าวไม่สามารถเห็นกลุ่มดาวนี้ได้ และจะเห็นได้ตลอดคืนในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม
และแน่นอนว่ากลุ่มดาวจะต้องประกอบไปด้วยดวงดาวสุกสว่างต่าง ๆ ซึ่งดวงดาวเหล่านั้นที่ประกอบออกมาเป็นกลุ่มดาววัวมีดังนี้
1 Aldebaran
เป็นดาวที่เห็นได้ชัดเจนมากเพราะอยู่ตำแหน่งตาวัว มีสถานะเป็นดาวยักษ์แดง อยู่ห่างจากโลก 65 ปีแสง มีความสว่างปรากฏ 0.86 เป็นดาวสว่างลำดับที่ 15 บนท้องฟ้า และเป็นดาวสว่างที่สุดในกลุ่มดาวจักรราศีทั้งหมด
ชื่อดาวนี้เป็นภาษาอาหรับ الدبران แปลว่าผู้ติดตาม เพราะดาวนี้จะวิ่งตามกระจุกดาวลูกไก่ที่ขึ้นมาก่อนนั่นเอง ซึ่งดาวนี้มีชื่อไทย ๆ ด้วย (ที่ยืมมาจากสันสกฤตอีกที) คือ “โรหิณี रोहिणी” แปลว่าสีแดง ซึ่งตรงกับสเปกตรัมดาวที่เห็นอยู่ในช่วงสีแดง
2 กระจุกดาว Hyades
อ่านว่าไฮยาเดส คือดาวต่าง ๆ ที่ประกอบกันเป็นหัววัว (ยกเว้น Aldebaran) เป็นกระจุกดาวเปิดอยู่ห่างจากโลก 153 ปีแสง โดยจะสังเกตได้ว่าจะมีมันเรียงกันเป็นรูปตัว V และง่ายต่อการระบุว่าคุณมองเห็นกลุ่มดาววัวเรียบร้อย ขณะที่ชื่อ Hyades มาจากตำนานเทพกรีก เป็นกลุ่มพรายให้กำเนิดฝน (The Rainmaker)
3 กระจุกดาวลูกไก่ (Pleiades)
ภาษาอังกฤษอ่านว่า ไพล-อะ-เดส หรือ Messier 45 เป็นกระจุกดาวเปิดที่มีดาวฤกษ์อายุน้อยจำนวนมาก อยู่ห่างจากโลก 136 ปีแสง ซึ่งกระจุกดาวลูกไก่นี้มักจะเป็นบททดสอบความตาดีของมนุษย์ว่า มีกี่ดวง โดยปกติจะเห็น 7 ดวง แต่ที่จริงแล้วมันมีดาวอีกมากมายในกระจุกนั้น โดยทั้งหมดเป็นดาวสีฟ้าขนาดใหญ่ ที่ร้อนกว่าดวงอาทิตย์เสียอีก เรียกได้ว่าเป็นกระจุกดาวที่มีความร้อนแรงมากเลยทีเดียว
4 เนบิวลาปู (Crab Nebula)
หรือ Messier 1 เป็นเศษซากซุเปอร์โนวา หรือวาระสุดท้ายของดาวฤกษ์ ที่ระเบิดอย่างรุนแรงเมื่อปี 1054 หรือเกือบ 1000 ปีที่แล้ว โดยมีหลักฐานจากบันทึกของชาวจีนและอาหรับในสมัยนั้น และมีความสว่างมากกว่าดาวศุกร์ถึง 6 เท่าในช่วง 23 วันแรก และมองเห็นได้ด้วยตาเปล่านานถึง 2 ปีเลยทีเดียว
ต่อมาในปี 1731 John Bevis นักดาราศาสตร์ชาวอังกฤษเข้ามาศึกษาเนบิวลานี้ และตั้งชื่อว่า Crab Nebula เพราะตอนส่องกล้องเห็นลักษณะคล้ายปู ก่อนที่ปี 1758 Charles Messier จะจัดเข้าในแคตาล็อกของวัตถุท้องฟ้าในชื่อ M1
ถ้าอยากจะดูเนบิวลาปู ต้องหากล้องโทรทรรศน์ดี ๆ ส่องในท้องฟ้าที่มืดสนิทไร้แสงรบกวน เพราะมีความสว่างแค่ 8.4 โดยมันจะอยู่ใกล้ ๆ กับดาว Zeta Tauri ที่อยู่ในตำแหน่งเขาวัว
5 ดาวอื่น ๆ
ดาวที่น่าสนใจดวงอื่น ๆ ในกลุ่มดาววัว เช่น Beta และ Zeta Tauri เป็นดาวในตำแหน่งเขาวัว Xi และ Omicron Tauri เป็นดาวในตำแหน่งขาหน้า อย่างไรก็ตามกลุ่มดาววัวนี้เป็นวัวแค่ครึ่งตัว มีแค่ส่วนหน้าเท่านั้น ไม่มีส่วนหลังหรือหางแบบกลุ่มดาวรูปสัตว์อื่น ๆ
สุดท้ายนี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับผู้ที่กำลังฝึกดูดาว หรือถ้าดูดาวเป็นแล้วก็จะได้เล่าเนื้อหาในบทความนี้ให้คนข้าง ๆ ได้ฟัง ไม่ว่าจะเป็นตำนานเรื่องเหล่าหรือดาวแต่ละดวงที่ประกอบออกมาเป็นกลุ่มดาววัว
อ้างอิง
โฆษณา