21 พ.ค. 2020 เวลา 23:00 • การศึกษา
หนุ่มโคลัมเบีย กับเมียสี่ขา
ก่อนจะตัดสินท่านชาย สายโคลัมเบียว่าเป็นขาหื่น ขาโหด ที่ยัดเยียดความกระเหียน แก่หมู่ลาตัวเมีย อยากให้อ่านบทความนี้ให้จบ เราจะพบว่าเรื่องทุกอย่าง มันมีเหตุผลอยู่ในตัวเองเสมอ เหตุผลแบบไหน เหตุผลอะไร ตามผู้เขียนมาครับ เราจะไปจูงลาเล่นกัน
เรื่องเหลือเชื่อ ที่แทบไม่อยากจะเชื่อ กับแรงปราถนาต่อเจ้าลา กลายเป็นเรื่องปกติทั่วไป ที่ไม่ได้ผิดแปลกอะไร รับรู้และรับฟังกันมาหลายร้อยปีแล้วด้วย ความหฤหรรษ์นี้ พบได้เฉพาะกลุ่มชาย ชาวโคลัมเบียเท่านั้น
หนุ่มวัยนมแตกพาน สิบห้าหยก ๆ สิบหกหย่อน ๆ ล้วนเป็นที่เข้าใจกันดี ว่านี่คือวิถีแห่งธรรมชาติ ซึ่งลาตัวเมีย จะเป็นตัวช่วยชั้นดี เป็นสิ่งระบายความใคร่ ที่กำลังจุกอก หนุ่ม ๆ วัยรุ่น วัยที่โลกนิยามไว้ว่า มีความอยากรู้ อยากเห็นเป็นที่สุด
ทำไมต้องเป็นลา อาจเป็นคำถามที่หลายท่านสงสัย นั่นก็เพราะเจ้าลา มันมักจะเชื่อง ๆ นิ่ง ๆ กว่าสัตว์ประเภทอื่น อีกทั้งหากมีเทคนิคเฉพาะตัว เจ้าลาจะยินยอมพร้อมใจอย่างเป็นที่สุด ซึ่งเทคนิคที่ว่านี้ ก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรนัก
นอกจากลา ก็ยังมีม้าด้วยนะครับ ม้า.. ฮี่ ฮี่ กรึ๊บ ๆ นั่นแหละ แล้วก็ยังมีตัวล่อ หรือสัตว์ที่เกิดจากพ่อลา แม่ม้านั่นเอง ยังไม่หมดนะ สำหรับบางคน ลาหรือม้าตัวผู้ ก็โดนหางเลขไปกับเค้าด้วย ช่างทำกันได้ลงคอ
วัฒนธรรมนี้ หาชมได้ไม่ยากนัก แถบบริเวณชายฝั่งทางตอนเหนือ บนคาบสมุทรทะเลแคริเบียน ของประเทศโคลัมเบีย บริเวณนี้ มีชนชาวพื้นเมือง ที่ค่อนข้างโหวกเหวก โวยวาย ล้าหลัง และมีความดิบเถื่อน กว่าคนที่อยู่ในเขตเมืองของประเทศ
เมืองที่ขึ้นชื่อ ถึงเรื่องการสังวาสกับลา ที่หากไปเยือน จะต้องได้พบเจอแน่นอน ได้แก่ เมืองบารานควิลล่า เมืองซาบานาลาก้า และเมืองลูรอคโค เป็นดินแดนที่ต้อนรับ นักถ่ายทำสารคดีที่สุด เรียกได้ว่าถ้าเข้าไปเพื่อศึกษาการนี้ จะได้รับเคล็ดวิชา มาเพียบเลย
1
ชนพื้นเมืองเหล่านี้ ถูกเรียกว่าชาวคอสตีโนส (Costenos) ซึ่งเดิมที เมื่อหลายร้อยปีก่อน ในยุคสมัยที่สเปนครองดินแดน ช่วงประมาณศตวรรษที่ 15 ชาวสเปนได้นำทาสนิโกร เข้ามาใช้แรงงาน ในดินแดนแถบนี้ นานวันเข้า จึงเกิดเป็นเชื้อสาย คอสตีโนส ผู้คร่ำหวอดในวงการนั่นเอง
ส่วนในเมืองใหญ่ ๆ ของประเทศโคลัมเบีย ที่เต็มไปด้วยชนชั้นสูง สายเลือดสเปน จึงมักตั้งข้อรังเกียจ ชนพื้นเมืองกลุ่มนี้เสมอมา แม้แต่การเมือง ผู้นำเชื้อสาย คอสตีโนส ก็มักจะไม่มีตำแหน่งที่สูงทางการเมืองแต่อย่างใด ส่วนหนึ่ง ก็อาจเป็นเหตุผลมาจากเรื่องลานี้
หนุ่มน้อยคอสตีโนส ในวัยอยากรู้ อยากเห็นมักพุ่งเป้าไปที่เจ้าลา ด้วยการถ่ายทอดจากรุ่นพี่ และวัฒนธรรมที่ปฎิบัติกันมาอย่างนาน ต่างจากหนุ่มน้อยในถิ่นเมือง ที่เลือกควงแขนแฟนสาว หรือไม่ก็ใช้นางทั้งห้า แทนภาระกิจบ้าบิ่น เยี่ยงชาวคอสตีโนส
เหตุผลหนึ่ง ซึ่งเป็นที่มา ของความสัมพันธ์ระหว่างคนกับลา ก็คือ เมื่อครั้งอดีตกาล ทาสที่ถูกนำไปใช้แรงงาน มักจะเปลี่ยนไปนับถือ ศาสนาคริสตร์ตามผู้เป็นนาย ซึ่งในยุคก่อนนั้น ถือว่ามีความเคร่งครัดในจารีตอย่างมาก การที่ชายหญิงจะร่วมหลับนอนกันได้ ต้องผ่านประเภณีสู่ขอต่าง ๆ มากมาย เป็นสาเหตุให้คนกลุ่มนี้ เลือกที่จะใช้ลา เป็นทางออกของปัญหา แน่นอนว่า มันไม่ได้กระทบต่อศีลธรรมข้อใด
สิ่งที่เหลือเชื่อที่สุดก็คือ หญิงสาวชาวคอสตีโนส ในยุคปัจจุบันนั้น สามารถรักษาพรหมจรรย์ได้จนถึงวันแต่งงาน ออกเหย้า ออกเรื่อนกันเลยทีเดียว ซึ่งถือว่าเป็นผลพลอยได้ จากวัฒนธรรมเสพสมพิศดารนี้
ด้วยความที่สังวาสเชิงนี้ เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก มันจึงมักไม่ได้รับการเปิดเผยซักเท่าไหร่ แต่ทว่า นายอัลวาโร อาวีร่า กลับเขียนหนังสือชื่อ El Hombrey La Burra แปลว่า ผู้ชายกับลา ออกมาสู่สาธารณะ จนเป็นที่รู้จักไปทั่ว
ทั้งนี้เจ้าตัวยังยอมรับอย่างชื่นมื่น ว่าตัวเองนั้น สมัยเป็นวัยรุ่น ก็เคยมีสัมพันธ์กับลา เฉกเช่นชายหนุ่มทั่วไป สำหรับภายในหนังสือที่เค้าเขียน เนื้อหาครอบคลุมแทบจะทุกอย่าง เกี่ยวกับคนและลา ที่เป็นไคลแม็กของเรื่อง คงเป็นเทคนิคดี ๆ ที่ทำให้ลาไม่ตื่นกลัวนั่นเอง
หลังจากเขาแต่งงานไปแล้ว พฤติกรรมเช่นนั้น ก็ได้หายไปจากชีวิตนักเรียนคนเก่ง ผู้แฉชีวิตตัวเอง .. เราคงมีมารยาทพอ ที่จะไม่ถามว่า เค้าเคยแวะเวียนกลับไปหาเจ้าลาบ้างหรือไม่ เพราะผู้ถามเอง ใจมันไม่กล้าพอ
สุดท้าย ท้ายสุด ลาที แต่ไม่ได้ลาจาก แม้จะทิ้งลาของชาวคอสตีโนส ไว้เบื้องหลังก็ตาม .. สำหรับประเทศไทย อย่างน้อยตอนนี้ก็มี กฎหมายคุมครองสัตว์ เป็นกำแพงอยู่ ใครอย่าได้เผลอเลียนแบบ ถูกจับปรับ แล้วจะมาโทษผู้เขียนไม่ได้นะครับ
หากข้อมูลผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ครับ
สัมผัสเบา ๆ จากปลายนิ้วท่าน สามารถให้กำลังใจผู้เขียนได้ง่าย ๆ
กดไลค์ = ชอบ
กดแชร์ = เห็นว่ามีประโยชน์
คอมเม้นต์ = เพื่อติชม และเป็นกำลังใจ
แหล่งข้อมูล ภาพ และสื่อประกอบ
หนังสือ Sex File X พิศวงโลกสยิว

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา