30 พ.ค. 2020 เวลา 22:01 • ปรัชญา
"กฏแห่งกรรม"
ธรรมะรุ่งอรุณ ☀️
๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๓
บุญกับบาปที่เราทำไว้นี้แหละ ที่เราสามารถเอาติดตัวไปได้ แต่ของอย่างอื่นเช่นสามี ภรรยา บุตรธิดา ทรัพย์สมบัติข้าวของเงินทองต่างๆ ความสุขในรูปแบบต่างๆ ที่มีอยู่ในโลกนี้ เราจะไม่สามารถเอาติดตัวไปได้ บุญนี้จะเป็นเหมือนกับข้าวของเงินทองต่างๆ ที่เราใช้อยู่ในโลกนี้ บุญนี้จะเป็นข้าวของเงินทองที่เราจะเอาไปใช้ในโลกทิพย์ ทำให้เราไปสวรรค์ได้ แต่ถ้าเราไม่ได้ทำบุญ เราทำแต่บาป เวลาร่างกายตายไปเราจะไม่มีทรัพย์สมบัติข้าวของเงินทองติดตัวไป ก็จะไปแบบขอทาน
ที่พวกเรามาทำบุญแล้วเราอุทิศบุญให้แก่ผู้ที่ตายไป ก็เพราะเราคิดเผื่อไว้ว่าบางทีคนที่เรารักคนที่เขาตายไปเขาอาจจะไปเป็นขอทานทางโลกทิพย์ก็ได้ เพราะว่าถ้าเขาทำบาปแล้วเขาไม่ทำบุญ หรือทำก็น้อย ทำบุญน้อย ทำบาปมากกว่าบุญ เวลาตายไปโอกาสที่เขาจะไปเป็นขอทานในโลกทิพย์ก็มีอยู่สูง ผู้ที่เราอุทิศบุญให้ก็คือพวกนี้แหละ พวกที่เป็นขอทานในโลกทิพย์ ภาษาพระท่านเรียกว่า "เปรต" พวกเปรตนี้เป็นพวกที่จะมารอรับส่วนบุญ ส่วนพวกอื่นนี้เขาไม่มารอรับกัน มาไม่ได้ เดรัจฉานเขาก็มีร่างกายของเดรัจฉาน เขาก็ไปหากินตามประสาของเดรัจฉาน พวกที่ไปตกนรกก็ออกมาจากนรกไม่ได้ เพราะเหมือนกับพวกที่ไปติดคุกติดตะราง เขาไม่ปล่อยให้ออกมาขอทาน ต้องถูกขังอยู่ในคุกในตาราง มีพวกที่เป็นขอทานคือพวกเปรตนี้ ที่จะมารอรับส่วนบุญของพวกเรา
ทุกครั้งที่เราทำบุญแล้วเราอุทิศบุญนี้ ก็ไม่ได้หมายความว่าผู้ที่ล่วงลับไปแล้วนี้เขาจะมารอรับ เพราะว่าเขาอาจจะเป็นเศรษฐีก็ได้ เขาอาจจะเป็นเศรษฐีบุญ มีบุญติดตัวไป เขาก็มีเงินทองที่ไปใช้ในโลกทิพย์ เขาเป็นเศรษฐีในโลกทิพย์เขาก็ไปเป็นเทวดากัน เขาไม่ต้องมารอรับส่วนบุญของพวกเรา แต่ถ้าเขาทราบว่าเราได้อุทิศบุญนี้ให้กับเขา เขาก็จะอนุโมทนา เขาก็จะขอบคุณ เขาจะซาบซึ้งในน้ำใจของพวกเราที่เรายังคิดถึงเขา ยังรักเขาอยู่ ยังเป็นห่วงเป็นใยเขาอยู่ ทุกครั้งที่เราทำบุญเราก็อุทิศไปกัน เพราะเรื่องของบุญของบาปนี้มันไม่มีใครรู้ว่าเราทำกันมากน้อยเพียงไร
ฉะนั้น เราอย่าประมาทในขณะที่เรามีชีวิตอยู่นี้พยายามทำบุญกันให้มากๆ ทำให้มันมากกว่าทำบาป เพราะว่าเวลา ตายไปนี้ บุญกับบาปจะมาแย่งกายทิพย์ของเราไปทางใดทางหนึ่ง ถ้าบุญมีกำลังมากกว่าบาป บุญก็จะดึงเราไปสวรรค์กัน ถ้าบาปมีกำลังมากกว่าบุญ บาปก็จะดึงเราไปอบายกัน นี่คือเรื่องกฎแห่งกรรม
ธรรมะในศาลา
วันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ จังหวัดชลบุรี
ณ จุลศาลา เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาชีโอน
โฆษณา