11 มิ.ย. 2020 เวลา 05:49 • ไลฟ์สไตล์
มื้อค่ำเคี้ยวเพลิน
เย็นวันหนึ่ง ณ บ้านสวน บรรยากาศหลังฝนตกก็จะชื้นแฉะหน่อย ผม นั่งฟังเรื่องของ “คุณไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม” จากช่องยูทูป มีอยู่ตอนหนึ่งที่เค้าต้องไปพักแรมที่ อ.ศรีมหาโพธิ์ อาศัยเพียง “เนื้อเค็ม” และ “ข้าวเหนียว” ประทังชีวิต
พอกล่าวมาถึงตรงนี้ มันทำให้ผมอยากลองบ้าง จึงจัดแจงก่อไฟไว้ แล้วปั่นจักรยานไปตลาด แต่ก็ไม่มีเนื้อเค็มขาย ผมเลยหยิบเอาหนังเค็มมาแทน คงพอไปกันได้
หนังเค็ม คือ หนังวัว หนังควาย บ้านเรา เป็นกรรมวิธีถนอมอาหารของคนอีสาน หลักๆ ก็จะนำมาคลุกกับรำข้าว และ เกลือเล็กน้อย จากนั้นตากแดด เป็นอันจบ
พอกลับมาถึง ถ่านแดงกำลังดี
ก็ไม่ต้องทำอะไรมาก แกะหนังยางที่รัด “หนังเค็ม” ออก จากนั้นม่วนลงไฟเลย พอหนังเค็มโดนไฟ มันก็เริ่มคลายตัว ยาวออกๆ พร้อมกับไฟที่ลุกท่วม จะว่าไปแล้วก็น่ากลัวเหมือนกันนะ พอไหม้ดำได้ที่แล้ว ก็ถือว่าเป็นอันจบ สุกได้ที่
ใช้เหล็กคีบ คีบหนังเค็มที่ดำเป็นตอตะโกขึ้นมา จากนั้น ก็บรรจงใช้ไม้ตีพริกนี่ล่ะ ทุบๆๆๆ ให้ส่วนที่ไหม้ไฟ สีดำๆ หลุดออก เราจะเห็น “หนังเค็ม” ที่สุกแล้วสีเหลืองๆ อยู่ข้างใน
จัดการหั่นพอคำ แนะนำว่าไม่ควรชิ้นใหญ่มากนะครับ เพราะจะกินลำบาก
ส่วนน้ำจิ้ม ก็ทำแบบง่ายๆ ประกอบด้วย พริกป่น ข้าวคั่ว น้ำปลา มะนาว ชิมดูให้เปรี้ยวหน่อยเป็นอันใช้ได้ ปิดงานด้วยต้นหอมผักชีหั่นเป็นอันจบ
เป็นไงครับ เมนูของ “สิงห์โตหิน” (ฉายาของคุณไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม) หยิบหนังเค็ม จิ้มลงในน้ำจิ้ม แล้วส่งเข้าปาก พร้อมด้วยผักสดๆ
เคียวไปเคียวมา ผักหมดก่อน หนังเค็มยังคงเดิม ฮาฮาฮา แต่ก็ไม่เป็นไร เค็มๆ มันๆ ดีครับ ตบท้ายด้วย น้ำลำใยเย็นๆ แหม่เข้ากันดียิ่งนัก
สวัสดีครับ
พิลา
โฆษณา