10 มิ.ย. 2020 เวลา 03:25
คู่แข่งที่ดี
 
ผมเริ่มวิ่งมาหลายปี บางเดือนก็วิ่งมาก บางเดือนก็วิ่งน้อย แต่มีอยู่หนึ่งเดือนเมื่อสามปีก่อนที่เป็นเดือนที่ผมวิ่งได้มากที่สุด ปกติผมจะวิ่งอยู่ประมาณแปดสิบกิโลในรอบเดือน แต่เดือนนั้นผมวิ่งไปเกือบร้อยสามสิบโล รวมถึงวิ่งระยะทางสิบกิโลได้ต่ำกว่าหนึ่งชั่วโมง ซึ่งผมทำไม่ได้มาหลายปีแล้ว
เหตุผลหลักๆเลยก็คือว่ามีน้องคนหนึ่งมาท้าผมวิ่ง น้องคนนั้นก็คือนักเขียนเจ้าเสน่ห์แห่งยุคสมัยนามนิ้วกลมนั่นเอง เขาเพิ่งเริ่มวิ่งเดือนแรกและท้าผมผ่านแอพพลิเคชั่นไนกี้พลัสที่จะเห็นระยะทางซึ่งกันและกันทุกวัน แถมเอ๋ นิ้วกลมก็จะโพสต์เฟสบุ๊คทุกครั้งที่วิ่ง ทำให้แรงกดดันเข้ามาหาผมทุกช่องทาง
เอ๋ นิ้วกลม เป็นคนที่มุ่งมั่นอย่างมาก แค่เดือนแรกเขาก็วิ่งทุกวันและวิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ ในตอนเริ่มต้น ด้วยความที่วิ่งมานาน ผมก็นำเอ๋อยู่พอสมควร แต่ผ่านไปซักพัก ผมวิ่งบ้างหยุดบ้างก็โดนเอ๋แซงไป ด้วยความไม่อยากเสียฟอร์มของคนที่วิ่งมาหลายปี ก็เลยต้องฮึดออกไปวิ่งมากวันขึ้น และวิ่งแต่ละครั้งต้องเพิ่มระยะทางให้นานขึ้นเพื่ออยากที่จะเอาชนะเอ๋ในตอนแรกๆ แต่ช่วงปลายเดือนก็ขอแค่อย่าแพ้ห่างมากนักก็พอ
การที่ต้องฮึดขึ้น วิ่งมากขึ้น ทำให้สภาพร่างกายก็ดีขึ้นมาก ทำให้ผมไปวิ่งมินิมาราธอนแล้วทำเวลาได้ดีมาก ถ้าไม่มีคู่แข่งดีๆที่คอยไล่กดดัน และคอยหาจังหวะทิ้งห่างเรา ก็คงจะไม่ฮึดและไม่พยายามขนาดนี้ ไม่ว่าจะแพ้เอ๋หรือไม่ก็ตาม แต่ร่างกายผมชนะตัวเองมามากจากเดือนที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด เอ๋ โพสต์ในความเห็นบนเฟสบุ๊คท่อนหนึ่งบอกว่า มีคู่แข่งดีๆ (ซึ่งเขาหมายถึงอีกหลายคนที่ร่วมอยู่ในกลุ่มไนกี้พลัส) นี้ดีอย่างนี้นี่เอง ผมก็เห็นจริงตามนั้น
……
การแข่งวิ่งกับคู่แข่งดีๆในเดือนนั้น ทำให้ผมนึกถึงคู่แข่งผมอีกรายหนึ่งที่ต่อกร ห้ำหั่น จนหลายๆครั้งดูเหมือนจะเป็นศัตรูกันด้วยซ้ำเมื่อมองจากภายนอก แต่คู่แข่งทางธุรกิจรายนี้ก็ทำให้ผมและทีมงานแข็งแรงขึ้นมาก นอกจากการชิงไหวชิงพริบ การแข่งขันอย่างดุเดือดทางการตลาดแล้ว การแข่งขันกับเอไอเอสในช่วงที่ผมอยู่ดีแทค ก็เป็นการแข่งขันที่นึกถึงทีไรก็รู้สึกดีทุกครั้ง และยิ่งรู้สึกเมื่อได้ฟังบทสัมภาษณ์ของคุณสมชัย ซีอีโอ ปัจจุบันของเอไอเอส
1
ผมคิดว่าการที่มีคู่แข่งที่ดีนั้นจะต้องเริ่มจากการให้เกียรติซึ่งกันและกันก่อน และไม่เล่นนอกเกมส์ นอกกติกา หรือมองคู่แข่งเป็นศัตรู ในช่วงที่แข่งกับเอไอเอส มีคนหลายคนถามผมว่าเคยถูกเอไอเอสใช้อำนาจพิเศษใดๆมาเล่นงานหรือไม่ ซึ่งผมบอกได้เลยว่าไม่เคยมีกรณีไหนที่ถูกแทรกแซงหรือถูกอำนาจใดๆมาทำให้เอไอเอสได้เปรียบในเกมการตลาดเลย ในทางกลับกัน ทางดีแทคก็ไม่เคยใช้ความได้เปรียบในบางช่วงที่เกิดกระแสทางการเมืองมาเล่นนอกเกมส์ด้วยเช่นกัน พอต่างคนต่างเคารพกติกากันแล้ว ความยอมรับนับถือกันและต่อด้วยการแข่งขันกันอย่างเป็นคู่แข่งจริงๆก็เกิดขึ้น
การแข่งขันกันอย่างเข้มข้น ทำให้ต่างคนต่างต้องปรับปรุงตัวในส่วนที่ตัวเองแพ้หรือด้อยกว่าและต้องพยายามหาทางเปลี่ยนแปลงตัวเองอยู่ตลอดเวลาเพื่อแย่งกันบริการลูกค้าให้ดีขึ้น แข่งกันเรื่องนวัตกรรมใหม่ๆเพื่อชิงจังหวะกันอยู่ตลอด ทำให้เมื่อเวลาผ่านไปหลายปี พอมองย้อนกลับไป ผมคิดว่านอกจากทีมผมจะแข็งแรงขึ้นมากแล้ว ผมก็คิดว่าเราก็มีส่วนที่ทำให้เอไอเอสแข็งแกร่งและพัฒนาขึ้นมากเหมือนกัน
การที่มีคู่แข่งเคารพกติกาและแข่งกันอย่างสร้างสรรค์ นับเป็นโชคดีอย่างหนึ่งของชีวิตผม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวิ่งหรือเรื่องธุรกิจ ในขณะที่หลายๆอุตสาหกรรมนั้นมองคู่แข่งเป็นศัตรูกันแบบผีไม่เผา เงาไม่เหยียบเลยด้วยซ้ำ ความสุขของการมีคู่แข่งที่ดีอีกประการหนึ่งก็คือพอแข่งเสร็จ ก็หันมาจับมือกันด้วยความยอมรับนับถือกันและชื่นชมซึ่งกันและกันบนน้ำใจนักกีฬา จะมีคำชมไหนจะทำให้หัวใจชุ่มชื้นเท่ากับคำชมของคู่แข่งที่พูดถึงอีกฝั่งอย่างให้เกียรติและจริงใจ ซึ่ง คุณสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ ซีอีโอ เอไอเอส ตอนไปออกรายการฟาสต์ฟู้ตธุรกิจ และกล่าวชมถึงผมและทีมงานในช่วงที่แข่งกันเมื่อหลายปีก่อนไว้ในบทสัมภาษณ์นั้นด้วย นอกจากจะฟังด้วยหัวใจที่พองโตแล้ว ก็ยังรู้สึกเคารพ นับถือ คุณสมชัย อดีตคู่แข่งตัวกลั่น ในความสามารถและความเป็นสุภาพบุรุษ อย่างแท้จริง
คนที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่กำลังห้ำหั่นกันเหมือนศัตรูถึงจะรู้ซึ้งถึงความโชคดีที่ผมว่านี้ เพราะหลังจากรายการจบ คุณชลากรณ์ ปัญญาโฉม ผู้อำนวยการช่องเวิอร์คพอยท์ก็ทวีตข้อความว่า “วันนี้ คุณสมชัยceo AIS มาออกทีวีพูดถึง อดีตผู้บริหาร DTAC ในสมัยที่แข่งขันกันอย่างชื่นชม, อยากเห็นอุตสาหกรรมทีวีชื่นชมกันแบบนี้บ้าง”
นอกจากคุณสมชัยแล้ว ทีมงานของเอไอเอสเองก็เป็นมิตรกับผมมาก มีหลายคนที่พอผมออกจากดีแทคแล้วมาเปิดหลักสูตรของตัวเองร่วมกับพี่ตุ้มหนุ่มเมืองจันท์ก็ตามมาเรียน พี่แอ๋ว วิลาสินีที่เป็นมือหนึ่งด้านการบริการลูกค้าของเอไอเอสปัจจุบันก็มาช่วยงานผมที่บริษัท มีความสัมพันธ์ มีมิตรภาพที่ดีงามต่อกันมากๆด้วยความเคารพซึ่งกันและกันจากตอนที่สู้กันอย่างเต็มที่และได้เห็นธาตุแท้กันเป็นอย่างมากด้วยในสถานการณ์แบบนั้น
 
มีคู่แข่งที่ดีนี่โชคดีจริงๆนะครับ และเหตุผลนั้นก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมเป็นลูกค้าเอไอเอสมาหกปีแล้ว และอยากจะชวนทุกท่านที่มีคู่แข่งให้ทำตัวเป็นคู่แข่งในเกมส์ ตรงไปตรงมา ไม่ได้มองคู่แข่งเป็นศัตรู แข่งกันในการสร้างสรรค์ เพราะนอกจากเราจะเก่งขึ้นและอาจจะได้มิตรภาพเหมือนที่ผมได้แล้ว ยังฝึกการขัดเกลาจิตใจ ไม่ให้ตกอยู่ในด้านมืดของการแข่งขันซึ่งไม่รู้ว่าพอเราถอดหมวกสมมติออกแล้วมันจะมาตามหลอกหลอนอะไรเราอีกด้วย
…..
ที่เขียนเรื่องนี้ด้วยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเพราะผมเคยเป็นคู่แข่งที่ไม่ดีมาก่อน ตอนหนุ่มๆห้าวๆ ทำการตลาดใหม่ๆก็ให้ข่าวท้าตีท้าต่อย แขวะคู่แข่งก็บ่อย เขาทำอะไรดีๆก็จะพยายามดิสเครดิตเขา เวทีไหนมีให้ไปโต้เถียงก็ลุย เคยเกือบขึ้นโรงขึ้นศาลก็มี แต่วันเวลาผ่านไปถึงค่อยๆเรียนรู้ว่า ทำแบบนั้นไม่มีประโยชน์กับทั้งบริษัทเพราะเวลามีอะไรต้องร่วมมือกันของอุตสาหกรรมก็ทำได้ยาก และเป็นโทษกับตัวเองที่หลายคนก็เหม็นขี้หน้าจนวันนี้ บางคนอาจจะไม่เผาผีกัน ถ้าผมไปสมัครงานก็คงไม่รับ ไม่เห็นว่าจะมีข้อดีอะไรทั้งสิ้นในการทรีตคู่แข่งเป็นศัตรูเลย ก็เลยอยากเขียนเรื่องนี้ไว้เป็นอุทาหรณ์ของความผิดพลาดของตัวเองในอดีต มา ณ ที่นี้ด้วยครับ..
โฆษณา