10 มิ.ย. 2020 เวลา 16:24 • ธุรกิจ
⚠️ ด่วนนนน ⚠️ หุ้น Tesla พุ่งทะยานต่อเนื่องกลายเป็นบริษัทรถยนต์ที่มูลค่ามากสุดในโลก ! แซงหน้า Toyota ผู้ครองแชมป์มานานไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ! แต่... ใครที่คิดว่า Tesla เป็นแค่บริษัทรถยนต์นั้น... #คงต้องทำความเข้าใจใหม่แล้วครับ !
3
คืนนี้หุ้น Telsa บวกต่อเนื่องอีก +6% ทะลุระดับ 1,000 เหรียญไปแล้ว ตามไปกับตลาดหุ้น Technology ของสหรัฐอย่างดัชนี Nasdaq ก็ทะลุระดับ 10,000 จุดเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ! โดยมูลค่า Market Cap ล่าสุดของ Tesla นั้นอยู่ที่ 1.8 แสนล้านเหรียญ แซงหน้ามูลค่าบริษัท Toyota ที่ 1.78 แสนล้านเหรียญและขึ้นยืนแท่นบริษัทรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
1
โดยเหตุผลที่ทำให้หุ้น Tesla ขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้นมีหลายอย่างมาก ผู้อ่านท่านใดที่ติดตามเพจเราเป็นประจำคงเข้าใจอยู่แล้วเพราะ Tesla เป็นบริษัทเดียวที่ทางเราเขียนบทวิเคราะห์ออกมาอย่างละเอียด แต่เหตุผลหลักๆในคืนนี้นั้นเพราะยอดขายในจีนพุ่งสูงกว่าที่คาดและมีการเปิดตัวแบตเตอรี่ใหม่ "Game-Changing" battery ซึ่งตามชื่อเลย #แบตเตอรี่นี้จะมีอายุการใช้งานทำให้รถวิ่งได้ 1 ล้านไมล์ ! ซึ่งจะออกมาเปลี่ยนโฉมธุรกิจวงการรถยนต์อย่างแน่นอน
2
#ท่านใดคอยติดตามบทความเรื่องของ Tesla จากเพจเรา ผมขอเสียงในคอมเม้นท์กันหน่อยนะครับ 😊
1
อย่างไรก็ตาม อย่าเข้าใจผิดว่าเหตุผลที่ Tesla โตอย่างก้าวกระโดดขนาดนี้เพราะเป็นแค่บริษัทรถยนต์นะครับ
เพราะอย่างที่เราได้เคยแชร์ไปแล้วเลยว่าจริงๆแล้ว Tesla เป็นมากกว่าแค่บริษัทรถยนต์ และ Elon Musk นั้นมีแผนที่จะ Disrupt 2 ธุรกิจที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกในแบบที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน ! หากทำได้สำเร็จ Tesla จะเป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกแบบทิ้งห่างไม่เห็นฝุ่น !
2
📌#เปิดโปงแผนDisruptionที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ครั้งที่แล้วทางเพจได้เล่าว่าช่วง #สงครามราคาน้ำมัน นี้เป็นจังหวะที่น่าสนใจจะลงทุนในธุรกิจ #หุ้นกลุ่มรถยนต์ EV มากกว่าหุ้นในกลุ่มพลังงานเพราะอะไร โดยเฉพาะหุ้น Tesla โดยในครั้งก่อนเราได้อธิบายถึงความแข็งแกร่งและได้เปรียบทางปัจจุบันของ Tesla ให้ฟัง แต่เรายังไม่ได้อธิบายถึง #แผนในอนาคต ของ Elon Musk ซึ่งจะทำให้ความได้เปรียบของ Tesla ในวันนี้นั้นกลายเป็นแค่ส่วนเล็กๆเท่านั้นเอง !
ทุกๆท่านคงได้ยินเรื่อง Disruption ของธุรกิจต่างๆมามากแล้ว ว่าไม่มีธุรกิจไหนในโลกนี้ที่จะปลอดภัยไปจากการโดน Disrupt หรือการเข้ามาทดแทนด้วย Technology สมัยใหม่ ที่ทำให้ธุรกิจที่เคลื่อนตัวช้าต้องล้มละลายไปนักต่อนักแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นเคสที่โด่งดังที่สุดของโลกที่เกิดขึ้นกับบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Nokia ผู้ซึ่งเคยเป็นผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่อันดับ 1 ของโลก และมองไม่ออกเลยว่าจะมีใครขึ้นมานำได้บ้าง แต่การกำเนิดของ I-Phone จาก Apple นั้นก็ได้เปลี่ยนธุรกิจมือถือไปตลอดการ ทำให้ Nokia ต้องหายไปจากตลาด และยังไป Disrupt กระทบต่อธุรกิจอื่นๆอย่างกล้องถ่ายรูปดิจิตอล หรือแม้แต่ธุรกิจเล็กๆอย่างไฟฉายด้วย แบบที่ไม่มีใครคาดคิดถึง !
2
ธุรกิจ Streaming ในวันนี้ได้ทำให้ร้านเช่า VDO ต้องหายไปและทุกๆคนก็กำลังให้ความสนใจว่าเทคโนโลยี Blockchain นั้นจะเข้ามา Disrupt วงการธนาคารหรือ Traditional Banking ได้หรือไม่
แต่...
การ Disruption ที่เราพูดถึงเหล่านี้นั้นยังเทียบขนาดกับแผนที่ Tesla พยายามจะทำโดยตัวคนเดียวไม่ได้เลย Elon Musk นั้นมีแผนการที่ใหญ่กว่านั้นเยอะ
📌 Elon Musk ไม่ได้ต้องการจะแค่ Disrupt ธุรกิจธรรมดาธุรกิจไหนเพียงธุรกิจเดียว แต่ Musk กำลังตั้งเป้าที่จะทำลายกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกมาตลอดกาลอยู่ถึง 2 กลุ่มด้วยกัน นั้นก็คือ
1️⃣ อุตสาหกรรมพลังงาน
อุตสาหกรรมพลังงานนั้นเป็นธุรกิจที่แทบจะ #ใหญ่ที่สุดในโลกแบบไม่มีข้อคัดค้าน บริษัท Saudi Aramco บริษัทน้ำมันแห่งชาติของซาอุเพียงบริษัทเดียวนั้นก็เป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว และบริษัทน้ำมันแห่งชาติอื่นๆทั่วโลกก็ล้วนจะเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในประเทศของตัวเอง (เช่น ปตท. ในบ้านเรา) นี่ยังไม่รวมถึงบริษัทน้ำมันเอกชนใหญ่ๆ อย่าง Exxon Mobil, Shell , Chevron , BP หรือ Total ที่ต่างก็แฝงตัวเข้าไปติดอยู่ในบริษัทที่ใหญ่ที่สุด 30 อันดับแรกของโลกกันไปหมด
3
ธุรกิจพลังงานนั้นเป็นธุรกิจที่ใหญ่และมีความสำคัญที่สุดต่อเศรษฐกิจโลก เป็นพลังงานที่ขับเคลื่อนการเจริญเติบโตของโลก นอกจากบริษัทยักษ์ใหญ่และเรื่องการเมืองระหว่างประเทศที่ต้องมีเรื่องพลังงานเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่เสมอแล้ว ธุรกิจพลังงานนั้นยังมีกลุ่มโอเปกซึ่งเป็นกลุ่มประเทศ Cartel ที่ใหญ่ที่สุดในโลกนั้นหนุนหลังอยู่ หลังจากอ่านบทความนี้จบแล้วหลายๆท่านอาจจะพอเดาได้ว่าทำไมทางซาอุถึงต้องออกมาทำ #สงครามราคาน้ำมัน และรีบออกมาขายหุ้นบริษัทน้ำมันแห่งชาติอย่าง Saudi Aramco ออกมาสู่ตลาด
2️⃣ อุตสาหกรรมรถยนต์
อุตสาหกรรมรถยนต์นั้นก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจยักษ์ใหญ่ของโลกที่อยู่มานานกว่า 140 ปีแล้ว แต่ไม่เคยมีช่วงไหนเลยที่การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นเร็วและน่ากลัวขนาดนี้ ในช่วงเดือน ก.พ.63 ก่อนหน้านี้นั้น Tesla ใช้เวลาเพียงไม่กี่อาทิตย์ที่จะทำให้ราคาหุ้นของบริษัทนั้นโตขึ้น 4-5 เท่าจนแซง General Motor (GM) ขึ้นเป็นบริษัทรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐไปแล้ว และหากไม่เกิดสงครามราคาน้ำมันขึ้นมาก่อน Tesla ก็คงจะกำลังขึ้นแซง Toyota ขึ้นเป็นบริษัทรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างแน่นอน แต่เพราะอย่างที่เราได้เขียนไว้ในบทความชวนคุยเรื่องลงทุนตอนที่ 1 ว่าการที่ราคาน้ำมันลดลงนั้นทำให้มูลค่าของบริษัทรถยนต์ไฟฟ้า EV ต้องลดลงมามากกว่าบริษัทรถยนต์อื่นๆ จนทำให้ Tesla ยังต้องรอจังหวะนี้ไปก่อน
หากพูดถึงธุรกิจรถยนต์นั้นแต่ละบริษัทยักษ์ใหญ่ไม่ว่าจะเป็น Toyota, GM, Ford , Chrysler, Volkswagen , BMW และ Honda นั้นก็ต่างติดอยู่ในบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุด 100 อันดับแรกของโลก และแต่ละบริษัทนั้นก็อยู่กันมานานมากกว่า 100 ปีแล้ว ไม่ว่าจะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจอะไรขึ้นมาบริษัทเหล่านี้ซึ่งจะโดนกระทบหนักที่สุดก็สามารถเอาตัวรอดมาได้โดยตลอด ด้วยประสบการณ์ที่ยาวนานทำให้ยากที่จะเดาออกว่า Elon Musk จะเอาอะไรมาต่อสู้กับบริษัทเหล่านี้
2
📌 วันนี้ทางเพจจึงอยากมาเล่าถึงแผนการที่ Elon Musk และ Tesla วางเป้าที่จะมา Disrupt ทั้ง 2 ธุรกิจนี้ไปพร้อมๆกันครับ
Tesla นั้นไม่ได้แค่ลงทนแต่ในธุรกิจรถยนต์ EV เพียงอย่างเดียว แต่กำลัง #ลงทุนสร้างโซลาร์เซลล์ จำนวนมากเพื่อรวบรวมพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานไฟฟ้าทั้งหมดไปพร้อมๆกันด้วย
1
โดย Elon Musk นั้นมีเป้าหมายที่จะปฏิวัติอุตสาหกรรมพลังงานและยานยนต์ไปพร้อมๆกัน เนื่องจากรถยนต์ทุกวันนี้ยังต้องใช้น้ำมันเป็นหลัก ในขณะที่ธุรกิจพลังงานนั้นส่วนใหญ่รายได้ก็ยังมาจากการขายน้ำมัน หาก Elon Musk สามารถทำลายความเชื่อนต่อนี้ได้สำเร็จและสร้างระบบนิเวศ (Eco System) ขึ้นมาใหม่ได้เอง ทั้ง 2 ธุรกิจนี้ก็จะอยู่ต่อไปไม่ได้
1
#หรือพูดง่ายๆว่า "พยายามจะทำให้รถยนต์ส่วนใหญ่ไม่ใช้น้ำมัน และพยายามทำให้พลังงานหลักของโลกไม่ได้เป็นน้ำมันอีกต่อไป"
Tesla นั้นพยายามจะสร้างให้รถยนต์ทุกคันนี้ให้ใช้พลังงานไฟฟ้าเพื่อตัดคู่แข่งด้านธุรกิจพลังงานที่เน้นการลงทุนด้านการใช้น้ำมันออกไปและพยายามพัฒนาต้นทุนทางพลังงานของทางบริษัทเองให้ต่ำที่สุด หากทำต้นทุนได้ต่ำมากเท่าไร มีแบตเตอรี่พลังงานที่ทันสมัยที่สุดมากเท่าไร ก็จะสามารถตัดคู่แข่งรถยนต์อื่นๆที่ยังพัฒนาไม่ทันออกไปด้วยและตัดรถยนต์ที่ยังใช้พลังงานน้ำมัน (ซึ่งเป็นพลังงานที่แพงกว่า) ออกไปด้วย
1
นี่เป็นการตัดทั้งคู่แข่งและพ่อค้าคนกลางทั้งหมดออกไปทั้งหมดในเวลาเดียวกัน เพราะ Tesla นั้นต้องการจะเป็นผู้จ่ายพลังงานไฟฟ้าให้กับลูกค้าด้วย ลูกค้าไม่ต้องไปเติมพลังงานจากปั้มหรือจากคนอื่น Tesla นั้นจะดูแลให้หมดและเก็บกำไรของทั้ง 2 ธุรกิจไว้คนเดียว
2
นี่เป็นกลยุทธ์ที่คล้ายๆกับที่ Steve Jobs และ Tim Cook พยายามวางแผนให้กับ Apple มาเป็นเวลาหลายปี โดยการสร้างระบบนิเวศสำหรับลูกค้า ให้ใช้ App และซื้อสินค้าในกลุ่มของ Apple แต่เพียงอย่างเดียว #แตกที่ต่างกัน นั้นคือขนาดธุรกิจของที่ Tesla วางไว้นั้นจะใหญ่กว่า Apple หลายเท่า !
📌 นี่เป็นเพียงแผนในช่วงเริ่มต้นของทาง Elon Musk เท่านั้นที่จะ Disrupt สองกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมนี้ แต่ในระยะยาวแล้ว แผนของ Tesla ยังไปไกลมากกว่านั้น
1
Tesla ยังลงทุนในเรื่องของการพัฒนาระบบขับอัตโนมัติที่ปลอดภัยกว่าการขับเอง 10 เท่า ผ่านระบบเรียนรู้ด้วยตัวเอง (รถสอนรถ) นี่ก็อาจจะมา Disrupt ธุรกิจทางเทคโนโลยี (Technology) หุ่นยนต์ (Robotic) ปัญญาประดิษฐ์ (Atificial Intelligent) อื่นๆได้อีก และมีแผนที่จะนำรถที่วิ่งเองได้ออกไปทำงานหารายได้อื่นๆเองอีก นึกไม่ออกเลยว่าธุรกิจบริการนี้จะโดนกระทบไปมากเพียงใดหากทำสำเร็จ
หากในโลกนี้จะมี Stark Industry ขึ้นมาจริงๆอย่างของ Tony Stark ใน Iron Man ทางเราก็เชื่อว่า Elon Musk นี่แหละครับที่จะเป็นผู้สร้างบริษัทนี้ได้สำเร็จ เพราะด้วยวิสัยทัศน์และบุคลิกของเขา ประกอบกับเหล่าวิศวกรหัวกะทิรุ่นใหม่ของโลกนั้นก็โดน Musk จ้างไปร่วมงานหมดแล้ว
📌ด้วยแผนการทั้งหมดนี้ทำให้ทางเพจเชื่อว่า มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญเลยที่ทางซาอุดิอาระเบีย จู่ๆจะพยายามมาเริ่มสงครามน้ำมันเพื่อทำร้ายตัวเองและกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันอื่นๆเพียงเพราะแค่การทะเลาะกับรัสเซีย แต่ทางซาอุคงมองเห็นแล้วว่าถ้าไม่รีบขุดน้ำมันออกมาขาย ภายในอีก 10-20 ปีข้างหน้านี้ อาจจะไม่มีโอกาสได้ขุดมันออกมาขายแล้ว หากแผนการอันยิ่งใหญ่ของ Tesla นั้นสำเร็จขึ้นมา
1
เช่นเดียวกันกับบริษัทรถยนต์ชั้นนำของโลกทั้งหลายที่พยายามเร่งลงทุนกันในรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อแข่งกับ Tesla กันอย่างสุดความสามารถ แต่ในบทความตอนที่ 1 และ 2 เราก็ได้อธิบายไปแล้วนะครับ ว่าความสามารถในการแข่งขันของ Tesla นั้นยังมีมากกว่าเยอะ (ลองอ่านดูได้ในคอมเม้นท์นะครับ)
#สรุป นี่ก็คือเหตุผลที่ทางเราเชื่อว่า Tesla #จะกลายเป็นบริษัทที่มีค่ามากที่สุดในโลก ในอนาคตที่อาจอยู่ไม่ไกลนี้
🙏 ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกดไลค์และแชร์ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์นะครับ ขอบคุณมากๆครับ 😊
#ทันโลกกับTraderKP
โฆษณา