20 มิ.ย. 2020 เวลา 12:28 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
ทำไมที่ไหนๆ ก็มีแต่การเมือง
1.
เคยสงสัยไหมครับว่าทำไมที่ไหนๆก็มีแต่การเมือง
คำว่าเล่นการเมือง เมื่อนำไปใช้ที่ไหนก็ตามมีแนวโน้มจะมีความหมายในทางลบ และมักจะเกี่ยวข้องกับคำว่า คอรัปชั่น ใช้เส้นสายช่วยลูกหลาน เล่นพรรคเล่นพวก หักหลังแย่งชิงอำนาจ ตักตวงผลประโยชน์เข้าตัวเองและพวกพ้อง แล้วยังมีเรื่องของการใช้เซ็กส์เป็นเครื่องมือต่อรอง
การเมืองยังไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในวงการปกครอง แต่ยังแทรกซึมไปในทุกอณูของสังคม ไม่ว่าจะเป็นวงการข้าราชการ วงการทหาร วงการสงฆ์หรือแม้แต่การเมืองในออฟฟิศเล็กๆทั่วไป
ก็เลยเกิดคำถามขึ้นมาว่า ทำไมมนุษย์ถึงขยันเล่นการเมืองกันจัง?
มนุษย์เราจะเป็นคนดี มีคุณธรรม ทำหน้าที่ของเราอย่างที่ควรจะเป็น แล้วเลิกเล่นการเมืองกันไม่ได้เชียวหรือ?
ถ้าทำได้แค่นี้สังคมในฝันของทุกคนก็เกิดขึ้นได้แล้ว
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่คิดเช่นนี้นะครับ ผมอยากจะเล่าอะไรให้ฟังสักเรื่อง
แล้วคุณอาจจะมีมุมมองต่อการเมืองในวงการต่างๆที่ต่างไปจากเดิม
เรื่องราวที่จะเล่านี้เกิดขึ้นเมื่อมีลิงวอกเกิดขึ้นมาในโลกครั้งแรก
กะเวลาคร่าวๆก็ประมาณสัก 35 ล้านปีที่แล้วครับ
2.
ลิงวอกเป็นลิงขนาดเล็ก หางยาว อาศัยอยู่ในฝูงที่มีลิงอยู่ร่วมกันประมาณสัก 50 ตัว
สังคมของลิงวอกมีความซับซ้อนสูง เล่าอย่างย่อๆคือ
ความสัมพันธ์ภายในฝูงจะมีลักษณะเป็นลำดับชั้น
มีตัวผู้ตัวหนึ่งเป็นหัวหน้าฝูงหรือที่เรียกว่า alpha male ซึ่งมีสิทธิพิเศษเหนือลิงอื่นในฝูง
ทางฝั่งตัวเมียก็จะมีตัวเมียที่เป็นหัวหน้าของตัวเมียหนึ่งตัว ซึ่งมักจะเป็นคู่ผสมพันธุ์ของ alpha male
อย่างไรก็ตาม สายอำนาจทางฝั่งตัวเมียและตัวผู้ก็ไม่ได้แยกขาดกันสนิท แต่มีการทับซ้อนกันพอสมควร เช่น
ตัวผู้หลายตัวก็อยู่ในลำดับที่ต่ำกว่าตัวเมียได้
ลำดับชั้นในฝูงของลิงวอกจะสะท้อนความสัมพันธ์ในอดีตของลิงต่างๆในฝูง เช่น
ถ้าลิง a เคยต่อสู้แย่งชิงอาหารกับลิง b และลิง a ชนะบ่อยๆ
ลิง a จะอยู่ในสถานะที่สูง(ไฮโซ)กว่าลิง b
แต่ไม่ได้หมายความว่าลิงทั้งฝูงต้องเคยสู้กันมาแล้วทั้งหมดจึงจะรู้ลำดับ เพราะ ลำดับสามารถถ่ายทอดระหว่างกันได้ เช่น
ถ้าลิง b เคยสู้กับลิง c แล้วลิง b ชนะซ้ำๆ ลิง b ก็จะอยู่ในสถานะที่สูง(ไฮโซ)กว่าลิง c และนั่นก็ทำให้ ลิง a ไฮโซกว่าลิง c ไปโดยอัตโนมัติ
ลิงวอกเป็นลิงที่มีสมองดีพอจะจำได้ว่าใครเคยชนะเรา ใครเคยชนะคนที่ชนะเรา โดยที่ไม่ต้องไปทดลองสู้เองให้เจ็บตัวหรือพิการ
คำถามที่น่าสนใจคือ ลิงอยากจะมีสถานะที่สูงขึ้นเพื่ออะไร?
คำตอบคือโอกาสในชีวิตที่ดีกว่าครับ
ลิงที่สถานะดีกว่าจะได้เข้าถึงอาหารก่อน มีโอกาสได้ผสมพันธุ์มากกว่า
กลางคืนจะนอนก็ได้ในที่ซึ่งปลอดภัยกว่า
ส่วนลิงโลโซก็ต้องนอนในที่ซึ่งเสี่ยงจะโดนผู้ล่าอื่นจับกินง่ายกว่า เป็นต้น
หรือพูดสั้นคือ สถานะที่สูงกว่าจะนำมาซึ่งอำนาจ ความร่ำรวย เซ็กส์ และความสะดวกสบายสารพัดอย่าง
ฟังดูก็ตรงไปตรงมาใช่ไหมครับ ใครตัวใหญ่กว่า แข็งแรงกว่า สู้กับลิงตัวอื่นก็ชนะแล้วก็คงได้ขึ้นเป็นจ่าฝูง
แต่สังคมลิงวอกซับซ้อนกว่านั้นครับ เพราะในชีวิตจริงเมื่อมีความขัดแย้งและการต่อสู้เกิดขึ้น เกือบทั้งหมดจะไม่ใช่การต่อสู้แบบตัวต่อตัวเหมือนสัตว์อื่นๆ แต่เป็นการใช้พรรคพวกและการเมืองเข้าร่วมต่อสู้
ความขัดแย้งภายในฝูงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแทบจะตลอดเวลา
ที่เป็นเช่นนั้นเพราะลิงทุกตัวมีความต้องการของตัวเอง ต้องการอาหาร ต้องการคู่ผสมพันธุ์ ต้องการพื้นที่ปลอดภัย
แต่ทรัพยากรเหล่านี้มีจำกัด ความขัดแย้งเพื่อแย่งสิ่งเหล่านี้จึงเกิดตามมาอย่างเลี่ยงไม่ได้
ความขัดแย้งอีกอย่างที่พบได้บ่อยคือ การที่ลิงที่ไฮโซชอบไปหาเรื่องหรือไปแย่งของจากลิงที่โลโซกว่า เพราะการไปหาเรื่องนี้เหมือนเป็นวิธีการหนึ่งที่ลิงไฮโซย้ำให้ลิงโลโซรู้จัก “ที่ต่ำที่สูง”
ไม่ใช่ทุกการขัดแย้งจะจบลงด้วยการต่อสู้ เพราะความที่ลิงแต่ละตัวรู้ลำดับของตัวเองในฝูงอยู่แล้ว ลิงทั้งหลายจึงเลี่ยงการต่อสู้ที่มีโอกาสจะชนะน้อยแล้วปล่อยให้ลิงสถานะที่สูงกว่าได้สิ่งที่ต้องการไป
แต่ก็มีบางครั้งเช่น ถ้าสถานะของลิงทั้งสองไม่ต่างกันมากนัก ลิงที่โลโซกว่าก็อาจจะไม่ยอมแล้วหันมาแยกเขี้ยวใส่กัน ขู่กัน ลิงทั้งสองจะไม่กระโจนเข้าใส่กันในทันที แต่ทั้งคู่จะกรีดร้อยโวยวายให้ลิงรอบข้างได้ยินแล้วหันมาสนใจก่อน
โดยทั่วไปลิงตัวอื่นจะไม่อยากมาเกี่ยวข้องกับการต่อสู้ ซึ่งไม่นาแปลกใจเพราะอยู่ดีๆคงไม่มีใครอยากเจ็บตัว ดีไม่ได้ดีอาจจะบาดเจ็บหรือพิการไป ซึ่งอาจจะมีผลให้สถานะในฝูงยิ่งตกต่ำลงไปอีก
แต่ถ้าลิงอื่นจะยื่นมือเข้ามาช่วยส่วนใหญ่มักเป็นจาก
1. ความสัมพันธ์ทางสายเลือด หมายความว่า ลิงที่เป็นคู่ขัดแย้งเป็นญาติของตัวเอง (โดยเฉพาะญาติทางฝั่งแม่) และ
2. เป็นการเข้าช่วยเพื่อหวังผลทางการเมือง
ขยายความได้ดังนี้ครับ
ถ้าเราสมมติให้ลิงคู่กรณีฝ่ายที่ไฮโซกว่าชื่อ a และลิงคู่กรณีฝ่ายโลโซกว่าชื่อ b
ปกติก่อนที่ลิง a และ b จะเริ่มสู้กัน ทั้ง a และ b จะเริ่มเรียกพรรคพวกเข้ามาช่วยเหลือก่อน
แน่นอนครับถ้าเป็นไปได้ใครๆก็อยากได้ลิงไฮโซที่แข็งแรงมาช่วยเหลือ ยิ่งได้จ่าฝูงมาเป็นพวกก็ยิ่งดี
เราจะเห็นพฤติกรรมนี้ได้จากท่าทางของลิงที่บางครั้งนอกจากจะหันหน้าประจันคู่ต่อสู้แล้ว มันจะยืนหันหลังให้กับลิงจ่าฝูงแล้วหันกลับมาจ้องตาอ้อนเป็นพักๆ
การยืนในลักษณะนี้จะทำให้เหมือนกับว่า "ยืนฝั่งเดียวกับจ่าฝูง" หรือ "ยืนหันหน้าไปทางเดียวกัน”
ทำให้ลิงอื่นๆมองดูเหมือนว่าเป็นพวกเดียวกันและกำลังเผชิญหน้ากับลิงคู่ต่อสู้ร่วมกัน
อย่างไรก็ตามการจะขอให้ลิงไฮโซมาช่วยเหลือก็มีความเสี่ยง เพราะถ้าคุณเป็นลิงชั้นต่ำมากๆและกล้าไปขอให้ลิงจ่าฝูงมาช่วย เป็นไปได้ที่ลิงจ่าฝูงจะไม่สนใจ(เพราะไม่คิดว่าจะมีผลประโยชน์อะไรตอบแทน) และเลวร้ายกว่านั้น ลิงจ่าฝูงอาจจะรำคาญแล้วแทนที่จะช่วยเหลือกลับเข้ามาทำร้ายคุณ
ดังนั้นการจะขอความช่วยเหลือจากจ่าฝูงคุณต้องชั่งน้ำหนักให้ดีว่าจะคุ้มเสี่ยงหรือเปล่า
คราวนี้มาถึงกรณีของ ลิงที่แม้จะไม่ใช่ญาติแต่ก็ตัดสินใจเข้าร่วมความขัดแย้งนี้
ลิงที่กระโจนเข้ามานี้ มักจะเลือกเข้าข้างฝ่ายที่มีแนวโน้มจะชนะอยู่แล้ว หรือพูดง่ายๆคือ เข้าช่วยเหลือฝ่ายที่ไม่จำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือ
เพราะเมื่อมันชนะการต่อสู้ นอกเหนือจากการได้เป็นเพื่อนกับลิงไฮโซ a แล้ว
ถ้าสถานะเดิมของมันโลโซกว่า b มันก็จะได้รับเลื่อนสถานะขึ้นมาสูงกว่า b
ถ้าเดิมมันสถานะสูงกว่า b อยู่แล้ว สถานะของมันก็ยิ่งมั่นคงมากขึ้น และ
ถ้าเดิมสถานะมันสูงกว่าทั้ง a และ b อยู่แล้วพันธมิตรทางการเมืองของมันและไฮโซ a ก็ยิ่งแนบแน่นขึ้น
กลยุทธ์ที่น่าสนใจอีกแบบหนึ่งที่ลิงวอกใช้บ้างคือ “การหาแพะ”ที่จะเบี่ยงเบนความสนใจ เช่น
เมื่อลิง b ซึ่งโลโซกว่าเริ่มโดนไฮโซ a ก่อกวนหรือทำร้าย
บางครั้งมันจะมองหาแพะแล้วมันไปหาเรื่องแพะต่ออีกทอด
แพะที่ b เลือกมักจะเป็นลิงระดับล่างๆที่ไม่ค่อยมีพรรคพวกหรือมาจากครอบครัวชั้นต่ำที่ญาติๆไม่แข็งแรง
จากนั้นมันก็จะชักชวนเพื่อนๆรวมถึง a ให้ไปรุมแพะ
วิธีการนี้นอกเหนือจากจะดึงความสนใจจาก a ที่มาเกเรให้หันเหไปหาแพะแล้ว
ยังอาจทำให้ b ได้กลายเป็นเพื่อนกับไฮโซ a อีกด้วย
แต่ก็มีบางครั้งแพะที่ b ชวนเพื่อนๆไปรุมอาจจะเป็นญาติที่ยังเด็กของ a
ในกรณีนี้การหาแพะจึงเท่ากับเป็นการแก้แค้นและส่งข้อความให้รู้ว่า “ถึงฉันจะสู้นายไม่ได้ แต่ถ้าฉันเจ็บ ญาตินายจะเจ็บยิ่งกว่า”
จากตัวอย่างที่เล่าไป ฟังดูเหมือนกับว่าการไต่เต้าจากลิงโลโซขึ้นไปเป็นลิงไฮโซน่าจะเป็นเรื่องยากใช่ไหมครับ? มีเรื่องกันทีไรลิงไฮโซไม่เคยโดนลงโทษ ลิงไฮโซมีญาติแข็งแรงใหญ่โต ใครๆก็เข้าข้างลิงไฮโซ
จริงครับส่วนใหญ่เป็นเช่นนั้น แต่ก็มีบ้างเหมือนกันที่บางครั้งความขัดแย้งเล็กๆสุดท้ายนำไปสู่การปฏิวัติ คือลิงโลโซจำนวนมากพร้อมใจกันลุกฮือขึ้นมาและรุมทำร้ายหรือฆ่าลิงจ่าฝูงพร้อมครอบครัวญาติมิตรทั้งหมด
ซึ่งการปฏิวัติเช่นนี้แม้ว่าจะเกิดไม่บ่อย แต่เกิดขึ้นครั้งใดขั้วอำนาจในฝูงก็จะเปลี่ยนแปลงกลับทิศทางไปอย่างสิ้นเชิง
3.
เซ็กส์เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ลิงตัวเมียใช้เพื่อไต่เต้าทางสังคม
สมมติว่ามีลิงสาวตัวหนึ่งชื่อ s (ย่อมาจาก sexy)
โดยทั่วไปลิงสาวจะชอบลิงไฮโซมากกว่าลิงโลโซ ยิ่งจ่าฝูงจะยิ่งชอบมาก
ลิง s จึงพยายามอ่อยและหาโอกาสผสมพันธุ์กับลิงจ่าฝูงให้บ่อยครั้งที่สุดเท่าที่จะทำได้
เพราะยิ่งผสมพันธุ์บ่อยด้วยแค่ไหน โอกาสที่ลิงจ่าฝูงจะปกป้องลิง s และลูกๆในอนาคตก็มากขึ้น (เพราะลิงจะไม่รู้ว่าลูกเป็นของใคร แต่จะมีสัญชาติญานที่จะปกป้องลูกลิงจากแม่ที่มันผสมพันธุ์ด้วยบ่อยๆ)
แต่เมื่อใดที่จ่าฝูงเผลอ ลิง s จะลอบไปผสมพันธุ์กับลิงไฮโซอื่นๆด้วย
พฤติกรรมเช่นนั้นจึงเหมือนเป็นการรับประกันว่า
ถ้าวันใดจ่าฝูงเกิดพลาด ตกอันดับ ตายไปหรือเป็นหมัน เธอและลูกๆก็ยังได้รับการคุ้มครองดูแลจากลิงไฮโซตัวผู้อื่นๆ
4.
ลำดับชั้นในฝูงเป็นสภาวะปกติของลิงวอก
แต่ความเป็นลำดับชั้นภายในฝูงก็สามารถที่จะสลายไปอย่างสิ้นเชิงในสถานการณ์พิเศษสถานการณ์หนึ่ง นั่นคือ เมื่อมีสงครามระหว่างฝูงลิงขึ้น
เมื่อใดก็ตามที่สมาชิกในฝูงรับรู้ถึงอันตรายจากการโดนลิงฝูงอื่นรุกราน
ลิงทั้งหลายในฝูงจะหยุดการกดขี่ หยุดเอาเปรียบหรือกลั่นแกล้งกันเองในฝูง
เลือดรักฝูงภายในกายจะร้อนระอุ
สมาชิกทุกตัวจะไม่ว่าจะเป็นไฮโซหรือโลโซก็พร้อมใจต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่เพื่อปกป้องอธิปไตยของฝูง
แต่เมื่อภยันตรายผ่านพ้นไป ชีวิตกลับเข้าปกติสุข การแบ่งลำดับชั้น และการเอาเปรียบ รังแก กดขี่ ก็จะกลับมาดำเนินไปเช่นที่แล้วมา
5.
ทั้งหมดที่คุยมานี้มาจากพื้นฐานว่า ลิงวอกแต่ละตัวมีความต้องการของตัวเอง มีสัญชาตญานที่จะรักลูกและญาติ มีความต้องการอำนาจเพื่อเพิ่มโอกาสที่จะเข้าถึงทรัพยากรและโอกาสสืบพันธุ์ที่มีอยู่จำกัด
แต่ขณะเดียวกันลิงก็ต้องอยู่ร่วมกันเป็นสังคมเพราะการอยู่ร่วมเป็นสังคมมีประโยชน์ในแง่การหาอาหารและป้องกันผู้ล่า
ความขัดแย้งนี้ทำให้ลิงต้อง ต่อสู้แย่งอำนาจ เล่นพรรคเล่นพวก ใช้เซ็กส์เป็นเครื่องมือ หักหลัง ปฏิวัติ หรืออาจพูดว่าลิงทั้งหลายต้องเล่นการเมือง
แต่ที่เล่ามาทั้งหมดไม่ใช่ลักษณะของลิงสายพันธุ์ใดสายพันธุ์หนึ่งเท่านั้น
แต่ลิงอื่นๆ เช่น ลิงแสม ลิงชิมแปนซี ลิงบาบูน ลิงกอริลล่า ฯลฯ ก็มีลักษณะเช่นนี้ไม่มากก็น้อย
แม้ว่าลิงแต่ละสปีชีส์จะมีสังคมที่ต่างกัน
แต่ลิงทั้งหลายล้วนแล้วแต่มีการเมืองในแบบของตัวเองทั้งสิ้น
เมื่อเราเห็นสังคมของลิงทั้งหลายมาพอสมควรแล้ว
ก็ได้เวลาย้อนกลับมามองลิง Homo sapiens อย่างเราๆกันบ้าง
6.
แม้ว่าลิงโฮโม เซเปียนส์จะมีสมองที่ใหญ่กว่าลิงอื่นๆมาก
แต่ปัจจัยชีววิทยาพื้นฐานอื่นๆของลิงโฮโม เซเปียนส์ก็ไม่ได้ต่างไปจากลิงอื่นๆ
ลิงโฮโม เซเปียนส์รักลูก รักญาติ รักพวกพ้อง
ลิงโฮโม เซเปียนส์ มีลำดับชั้นในสังคม (แม้แต่ในเด็กอนุบาลยังมีหัวโจก)
ลิงโฮโม เซเปียนส์ มีทรัพยากรต่างๆจำกัด
ด้วยเหตุนี้ลิงโฮโม เซเปียนส์ จึงไม่ต่างไปจากลิงอื่นๆคือ
โฮโม เซเปียนส์ก็ต้องเล่นการเมืองเช่นเดียวกัน
ถ้าจะต่างก็คงจะเป็นที่ขนาดของการเมืองเราใหญและซับซ้อนกว่ามาก
การเมืองในลิงวอกเป็นเรื่องระดับลิง 50 ตัว แต่การเมืองของโฮโม เซเปียนส์ เป็นเรื่องของลิงหลายสิบล้านถึงพันล้านตัว
ดังนั้นทุกวันนี้ที่เราเห็นในข่าว ไม่ว่าจะเป็นข่าวโดนัล ทรัมป์ สี จิ้นผิง คิม จองอึน รวมไปถึงนักการเมืองคนอื่นๆที่เล่นเกมกันไม่เลิก
มันก็ไม่ได้มีอะไรมากครับ
แค่ลิงที่เล่นการเมืองเหมือนที่ลิงอื่นๆทำกันมาแล้วสามสิบล้านกว่าปีแค่นั้นเอง
ปล.
เนื้อหาสรุปย่อมาคร่าวๆจากหนังสือสองเล่ม
1. Games Primates Play: An Undercover Investigation of the Evolution and Economics of Human Relationships และ
2. Macachiavellian Intelligence: How Rhesus Macaques and Humans Have Conquered the World
โดย Dario Maestripieri
ถ้าไม่อยากพลาดเรื่องที่ผมจะโพสต์จะแอดไลน์ Line ไว้เลยก็ได้ครับ
เมื่อผมเขียนบทความ ทำpodcast หรือคลิปวีดีโอ ที่ไหนจะไลน์ไปแจ้งเตือนให้ครับ
คลิกที่นี่เลยครับ https://lin.ee/3ZtoH06 หรือ
add line ID:@Chatchapol
(ปิดท้ายด้วยโฆษณา)
ถ้าชอบวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับร่างกายหรือจิตวิทยาแบบนี้
แนะนำอ่านเพิ่มเติมได้จากหนังสือ Best seller เรื่องเล่าจากร่างกายและ 500 ล้านปีของความรัก
อ่านบทความแนวประวัติศาสตร์ได้ที่
คลิปวีดีโอเกี่ยวกับประวัติศาสตร์
โฆษณา