4 ก.ค. 2020 เวลา 14:00 • กีฬา
FAKER : พระเจ้าแห่งโลกอีสปอร์ต...มีค่าแค่ไหนถึงทำเงินได้ 80 ล้านบาทต่อปี?
ทุกศาสตร์ทุกวงการบนโลกนี้มียอดฝีมือซ่อนอยู่เสมอ ... ในวงการอีสปอร์ต LEAGUE OF LEGENDS หรือ LOL คือเกมสุดฮิตจากค่ายดังอย่าง RIOT GAMES ที่พัฒนาทุกปีทั้งในรูปแบบของเกมและเงินรางวัล โดยเฉพาะอย่างหลังที่ทำให้เหล่าเกมเมอร์มีมูลค่ามากขึ้น
หากมองว่าเกมๆ หนึ่งจะไปต่างกันอะไรมากมายก็แค่ เคาะคีย์บอร์ด, คลิกเม้าส์ หรือจับจอย ก็คงไม่มีเกมเมอร์ที่มีรายได้เท่ากับนักกีฬาอาชีพอย่างแน่นอน โดยเฉพาะเหล่า "คีย์เพลเยอร์" หรือดาวเด่นประจำทีมนั้นแทบไม่ต่างอะไรกับซูเปอร์สตาร์คนหนึ่งเลย และไอค่อนหนึ่งเดียวที่มีทั้งความเก่ง, ภาพลักษณ์ดี, คาแร็คเตอร์โดดเด่น จนได้ฉายาว่า "พระเจ้าของ LoL" ก็คือ Lee "Faker" Sang-hyeok ที่มีรายได้ปีละ 82 ล้านบาท ถ้าคุณสงสัยว่าเงินขนาดนี้เหมาะสมเเล้วหรือสำหรับการจ้างเด็กคนหนึ่งมานั่งเล่นเกม...เราอยากให้คุณรู้จัก Faker หนุ่มวัย 22 ปี ไปพร้อมๆ กับเราก่อนที่จะหาคำตอบนี้
หมอนี่คือใคร?
Faker เป็นผู้เล่นของทีม T1 (SK Telecom T1 เดิม) และอย่างที่กล่าวไปในตอนแรก เขาถูกขนานนามให้เป็นพระเจ้าของ LoL ถึงกระนั้นพระเจ้าองค์นี้ก็ไม่ได้ไร้เทียมทานเสียทีเดียว เขาแพ้เป็น ไม่ว่าจะในฐานะทีมและในฐานะโซโล่เพลย์ (แพ้ในการดวลตัวต่อตัว) ซึ่งแน่นอน หมอนี่ต้องมีอะไรมากกว่านั้น เพราะความเก่ง, ภาพลักษณ์ดี, คาแร็คเตอร์โดดเด่น ได้กลายเป็น 3 สิ่งที่รวมกันทำให้เขาอยู่ในจุดที่เป็นอยู่
Photo : www.invenglobal.com
ชื่อเสียงของนักเล่นเกมชาวเกาหลีใต้วัย 22 ปีรายนี้กระฉ่อนวงการในฐานะอันดับหนึ่งแห่งมิดเลน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่สำคัญที่สุดในหมากของแต่ละทีมและมีโอกาสที่จะชี้ขาดชัยชนะในแต่ละแมตช์ ความเก่งกาจของ Faker เหนือชั้นจนขนาดที่มีการแซวกันขำๆ ว่าหาก Faker จับตัวไหนก็ตาม ตัวละครนั้นจะโดนเนิฟ (ตัวเกมปรับสมดุลให้เก่งน้อยลง) เสมอ
อันที่จริง Faker ถือเป็นเกมเมอร์ตัวยงแต่ไหนแต่ไร เพราะเขาเล่นเกมดังที่ถือว่าเป็นบิดาของเกมแนว MOBA (Multiplayer Online Battle Arena) อย่าง Warcraft III ตั้งแต่เด็ก ทว่าการเปิดเซิฟเวอร์เกม LoL ในประเทศเกาหลีใต้ช่วงปลายปี 2011 คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาได้หัดเล่นแบบมืออาชีพอย่างจริงจัง
สไตล์การเล่นที่แตกต่างจากคนอื่นๆ ของ Faker ได้สร้างความตื่นเต้นให้กับกลุ่มเกมเมอร์ LoL ในเกาหลีใต้ ณ เวลานั้น ในช่วงแรกๆ ที่ยังไม่มีใครเคยเห็นหน้าเห็นตาของเขา มีเสียงซุบซิบว่าเขาคือนักกีฬาต่างชาติที่มาฝึกอยู่ที่เกาหลีใต้ ทว่าเมื่อถึงวันเปิดตัวความจริงก็เปิดเผยว่าเขาเป็นเพียงเด็กหนุ่มวัย 17 ปี
เท่านั้นแหละก็เกิดกระแสต่างๆ มากมาย เหมือนกับโลกฟุตบอลค้นพบ ลิโอเนล เมสซี่ ตอนอายุ 17 ปีอย่างไรอย่างนั้น
"เด็ก ม. ปลายทำไมถึงเก่งได้ขนาดนั้น?" นี่คือคำถามที่เกิดขึ้นหลังจากการออกสื่อของ Faker
Photo : www.riftherald.com
อย่างไรก็ตาม ช่วงปลายปี 2012 ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดของการแข่งขัน LoL ซีซั่น 2 Faker กลับทำผลงานในการเก็บแรงกิ้งออนไลน์ได้เพียงอันดับ 2 ของประเทศเท่านั้น สาเหตุสำคัญก็เนื่องจากเจ้าตัวยังเป็นนักเรียนอยู่จึงไม่สามารถเล่นได้เต็มที่ ความแค้นที่สุมอกทำให้เมื่อเปิดซีซั่น 3 ปุ๊บ เขาก็ลงแรงค์รัวๆ จนขึ้นเป็นอันดับ 1 ของประเทศเพียงชั่วพริบตา
ช่วงเวลาดังกล่าว Faker ลงเเข่งขันในระดับสมัครเล่นภายใต้นามแฝง "GoJeonPa" โดยมีสมาชิกในทีมอีก 2 คนได้แก่ "Bengi" และ "Ssumday" แต่ลีลาการเล่นที่มีความยอดเยี่ยมในการเล่นแบบโซโล่ ทำให้เขาถูกแมวมองทีมอาชีพตามตัวทันทีหลังจากที่อายุถึงกำหนด ที่สุดแล้ว เขาตัดสินใจจบชีวิตการเรียนเพื่อเทิร์นโปรอย่างเต็มตัวกับทีมดังอย่าง T1 และหลังจากนั้นชื่อก็กระฉ่อนมากขึ้นเรื่อยๆ
Faker คือผู้นำเทรนด์ในการใช้ตัวละครกลุ่ม Assassin เล่นเลนกลางได้อย่างเฉียบขาด ในปี 2013 เขาเปลี่ยนจากเด็กหนุ่มที่สวมแค่เสื้อยืดบนชีวิตเเสนเรียบง่ายกลายเป็นที่รู้จักของคอเกมทั่วโลกได้ด้วยสเต็ปการเล่นที่หากใครได้ชมเกมต้องยอมรับในไหวพริบและการตัดสินใจ
การเเข่งขัน LoL Season 3 Faker กลายเป็นที่จดจำมาก เขาเล่นตัว Zed และมีเลือดเหลือเพียง 50% ในขณะที่ถูกทีมคู่แข่งไล่ต้อนจนร่อแร่ ทว่าพริบตาเดียวเท่านั้น Faker ใช้สเต็ปเทพส่งให้เสียงเฮลั่นฮอลล์ เพราะเขาพลิกกลับมาเป็นผู้ชนะและทำให้ทีม T1 คว้าแชมป์โลกไปครองเป็นสมัยแรก และกลายเป็นสเต็ปแห่งตำนานที่เหล่าคอเกมไม่มีวันลืมเลือน
กว่าที่เขาจะเก่งกาจเเละถูกขัดเกลาทักษะรอบด้านให้เฉียบคมขนาดนี้เขาผ่านอะไรมาบ้าง และอะไรที่ทำให้เขามีค่าเหนื่อยถึงปีละ 82 ล้านบาท?
อย่างแรกเลย T1 ยอมจ่ายขนาดนั้นก็เพราะว่าเขาคือผู้พา T1 เข้าปะทะความยิ่งใหญ่และได้ลิ้มรสคำว่าแชมป์โลกเป็นครั้งแรก
การเล่นมิดเลนที่ดุดันและเเค่เห็นชื่อก็ข่มขวัญคู่แข่งได้แล้ว ทำให้ T1 ที่ ณ ปี 2013 ไม่ใช่ทีมซึ่งเก่งกาจจนถึงขั้นไร้เทียมทานมากมายนัก ขึ้นสู่จุดสูงสุดของวงการ LoL ได้อย่างยิ่งใหญ่ด้วยสองมือของเขา
Photo : esportsobserver.com
แม้เกมนี้จะเป็นเกมที่ต้องเล่นเป็นทีม แต่ไม่มีใครปฎิเสธได้ว่าการมี Faker ในทีม ทำให้ T1 ได้เปรียบทีมอื่นๆ แบบขาดลอย เขามักจะเล่นตัวละครสไตล์ Assassin และทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างเพอร์เฟ็กต์ การตัดสินใจของเขาถือว่ารอบคอบเป็นอย่างมาก และยังมีตำแหน่งยืนที่ทำให้ตัวละครของเขาปลอดภัยอยู่เสมอ
เขามีหมากในหัวเป็นร้อยๆ แบบ เรียกได้ว่าความหลากหลายนี้ทำให้เขาเป็นผู้เล่นที่ใครก็ยากจะรับมือด้วย แม้แต่ผู้คลุกคลีกับวงการอีสปอร์ตอย่าง แฟรงค์ ฟิลด์ส ผู้จัดการด้านการจัดแข่งขันอีสปอร์ต ยังยอมรับว่าผู้เล่นอย่าง Faker คือเกมเมอร์ที่เก่งกาจระดับเจอใครก็ได้ ใช้ตัวไหนก็ได้
"Faker เอาชนะคู่แข่งได้ทุกคนไม่ว่าเขาจะเลือกเเชมเปี้ยนตัวไหนและเมื่อไหร่ก็ตาม" ฟิลด์สพูดถึง "พระเจ้าแห่ง LoL"
ส่วนจะจริงหรือไม่นั้น การคว้าแชมป์โลก LoL ถึง 3 สมัยติดต่อกันคือสิ่งที่ยืนยันได้เป็นอย่างดี
ความเก่งกาจทั้งหมดถูกแลกมากับการอุทิศชีวิตให้กับเกมอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู ชีวิตของเด็กหนุ่มคนนี้ไม่มีสิ่งใดสำคัญกว่าการซ้อมอีกเเล้ว เขาเคยบอกว่าในเวลา 1 วันเขาใช้เวลาถึง 80% เพื่อเล่น LoL และอีก 20% นั้นเป็นการแบ่งช่วงเวลาระหว่างการดูแลร่างกายตัวเองและการนอน เห็นได้ชัดว่าเขาคือมืออาชีพอย่างแท้จริง
ตัวทำเงิน
2.5 ล้านดอลล่าร์ หรือ 82 ล้านบาทต่อปี คือสัญญาที่ T1 มอบให้ หลายคนมองว่าแพง แต่แท้จริงแล้วมันใช่แบบนั้นจริงหรือ?
อย่างที่กล่าวไปข้างต้น Faker พาทีมคว้าแชมป์โลกถึง 3 สมัย ดังนั้นชื่อเสียงของ T1 ก็กลายเป็นทีมรู้จักและยอมรับมากขึ้น โดยเฉพาะในปี 2017 ที่ผ่านมา Faker จัดการทำเงินให้ทีมถึง 40 ล้านดอลล่าร์เลยทีเดียว ดังนั้นถือว่าเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้พวกเขากล้าทุ่มเพื่อผู้เล่นคนเดียว
เหนือกว่าเงินรางวัลคือเงินที่ได้จากสปอนเซอร์ที่เข้ามามากมาย หากไม่นับ SK Telecom บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของประเทศที่เป็นเหมือนกับเจ้าของทีมเเล้ว ยังมีสปอนเซอร์รายดัง (ข้อมูลปี 2020) อย่าง อุปกรณ์เสื้อผ้ากีฬา Nike, รถยนต์ BMW หรือแม้แต่ผลิตภัณฑ์สายเกมมิ่งอย่าง Logitech, Secret Lab และ KLEVV รวมๆ ก็เกือบ 10 ตัวเข้าไปแล้ว นี่คือสวรรค์ของเจ้าของทีมชัดๆ
นับตั้งแต่เข้าทีมมาในปี 2013 เขากลายไอค่อนของ T1 อย่างแท้จริง ดังนั้นชื่อเสียงของ Faker จึงสามารถดึงดูดสปอนเซอร์เข้ามาได้อย่างง่ายดาย
ขณะที่ตัวของ Faker เองมีผู้ติดตามในโลกโซเชี่ยลมากมาย แชแนลยูทูบที่ชื่อว่า T1 Faker มีคนติดตามมากกว่า 1 ล้านคน ขณะที่ใน Twitch ที่เป็นเหมือนโรงเตี๊ยมของเหล่าเกมเมอร์ มีคนติดตาม Faker กว่า 2.6 ล้านคน และมียอดวิวสูงถึง 84 ล้านวิวเลยทีเดียว
เสียงของ Faker คือพลัง เมื่อไรที่เขาแสดงความคิดเห็นมักจะกลายเป็นเรื่องที่ถูกนำไปขยายต่อทั่วโลกอีสปอร์ต ทุกความเคลื่อนไหวของเขามีผู้ติดตามไปมากมายและนี่คือสิ่งที่ทั้ง T1 และ สปอนเซอร์ทั้งหลายจะได้เมื่อมีเขาคนนี้อยู่ในทีม
ภาพลักษณ์สมฉายา "พระเจ้า"
อย่าคิดว่าเหล่าเกมเมอร์จะอ่อนต่อโลกจนวางตัวในที่สาธารณะไม่เป็น เพราะ Faker คือตัวอย่างที่จะบอกว่าคุณกำลังคิดผิด
Photo : www.invenglobal.com
นอกจากจะเล่นเก่งเเล้วเขายังมีภาพลักษณ์ดี คาแร็คเตอร์เฉียบไม่มีใครเหมือน กลายเป็นผู้เล่นในอุดมคติของวงการอีสปอร์ตเกาหลีใต้เลยทีเดียว
สำหรับเด็กวัยรุ่นคนหนึ่ง การมีรายได้ขนาดนี้อาจจะทำให้เสียคนได้ง่ายๆ และไม่สามารถไปได้สุดบนเส้นทางอาชีพ แต่ Faker ยังเป็นเหมือนเด็กคนหนึ่งเขาไม่ค่อยชอบเรื่องเงินๆ ทองๆ เท่าไรนัก กิจกรรมที่เขาทำนอกจากเล่นเกม ไม่ใช่การเที่ยวเล่นแต่เป็นการอ่านหนังสืออยู่กับบ้าน
"ผมไม่ค่อยได้รับเงินสดเท่าไหร่ ผมถือบัตรเครดิตไว้ แต่ผมไม่ค่อยใช้หรอก พ่อและแม่เป็นคนดูแลเรื่องเงินของผมทั้งหมด และผมแฮปปี้มากที่มีเงินอยู่ในบัญชีหากถึงวันที่ผมต้องรีไทร์" Faker เล่าถึงชีวิตหลังจอของเขา ซึ่งเจ้าตัวยังเผยตัวเลขที่น่าทึ่งด้วยว่า สมัยที่เริ่มสร้างชื่อใหม่ๆ เขาได้เงินจากที่บ้านใช้เพียงเดือนละ 200,000 วอน หรือราว 6,000 บาทเท่านั้นเอง
"ผมว่าผมต้องการเงินเพื่อใช้ในอนาคต แต่ผมยังไม่ได้ตัดสินใจหรอกนะว่าจะทำอะไร เพียงแค่ต้องดูก่อนว่าจะพบสิ่งที่ชอบจริงๆ หรือเปล่า จากนั้นผมจะเริ่มวางแผนอย่างจริงจังอีกที"
"ผมไม่มีงานอดิเรก แม้ว่าผมจะอ่านหนังสือเยอะ แต่ไม่ได้แปลว่าผมสนุกกับการอ่านหรอกนะ เพียงแต่ว่าการอ่านทำให้ผมได้รับความสงบ และความสงบนี่แหละที่จะทำให้เจอกับสิ่งที่ผมชอบ"
อย่างไรก็ตาม ตลอดหลายปีหลัง ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ไม่ดีของ Faker และ T1 ซักเท่าไหร่ หลังจากไม่สามารถผ่านเข้าไปถึงการแข่งขันชิงแชมป์โลกได้หลายปี แม้ใครต่อใครจะเริ่มวิจารณ์ แต่เขากลับสงบเงียบและรับมือกับมันได้อย่างสบายมาก ช่วงที่ว่างอยู่เข้าก็ยังหาทางทำประโยชน์คืนสู่สังคมได้อีกด้วย
นอกจากจะเป็นเกมเมอร์แล้ว Faker ยังเป็นนักสตรีมเกมที่มีคนติดตามมากมาย เขาได้เงินจากส่วนนี้ไม่น้อย แต่ใจของเขายังกว้างมากพอที่จะมอบรายได้จากการสตรีมของเดือนตุลาคมทั้งหมดให้กับองค์กร ยูนิเซฟ เพื่อขยายโอกาสให้คนอื่นๆ ที่ยังขาดโอกาส และหากสังเกตจะพบว่าในทุกการสตรีมเขามากจะสวมชุดแจ็คเก็ตของ ยูนิเซฟ เพื่อช่วยหาเงินสนับสนุนองค์กรการกุศลแห่งนี้อีกทางอีกด้วย
ทัศนคติยอดเยี่ยม
อย่างที่กล่าวไปในข้างต้นว่าปี 2018 นี้ ผลงานของ T1 และ Faker ตกลงไปพอสมควร และมีเรื่องหนึ่งที่ทำให้เหล่าแฟนบอยแปลกใจนั่นคือการที่ต้นสังกัด T1 ดรอป Faker เป็นตัวสำรองในการเเข่งขันที่พบกับทีม Gen.G Esports
Photo : www.invenglobal.com
อย่างไรก็ตาม แม้จะขาดผู้เล่นมิดเลนเบอร์ 1 ของทีม แต่กลับเป็นช่วงเวลาแจ้งเกิดของผู้เล่นหน้าใหม่อย่าง Choi 'Pirean' Jun-sik ซึ่งเข้ามาทำหน้าที่ต่อจาก Faker ได้อย่างหมดจดและเอาชนะคู่แข่งไปอย่างราบคาบ หลังเกมจบเหล่าผู้เล่นในทีม T1 ให้สัมภาษณ์ไปในทางหนุนหลังผู้มาใหม่อย่าง 'Pirean' มากกว่า จนกลายเป็นข่าวลือว่าสมาชิกในทีมทะเลาะกันหรือไม่
บนความคลุมเครือ Faker ทำให้ข่าวลือนั้นจบลงไปอย่างง่ายดาย เขาพูดถึงการเป็นตัวสำรองของตัวเองโดยไม่พาดพิงใครแม้แต่คนเดียว เขายอมรับว่าเขามือตกลงไปเพราะกดดันกับความคาดหวังที่เกิดขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้ยอมแพ้และพร้อมจะพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง
"ตอนนี้ผมกลายเป็นผู้เล่นมิดเลนเนอร์อันดับ 4 แต่ถ้าย้อนกลับไป 4 ปีผมคืออันดับ 1 ดังนั้นผลงานของผมจึงส่งผลต่อประสิทธิภาพของทีม ฤดูกาลที่ผ่านมาผมไม่ดีพอจริงๆ ไม่สามารถอยู่ในฟอร์มระดับท็อปได้ ผมไม่มั่นใจมากพอ ผมต้องเติมความพยายามเข้าไปอีกครั้ง ผมพยายามอย่างมากที่จะทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผมยอมรับว่าผมอยากกลับไปชิงแชมป์โลกจริงๆ"
"ผมอาจจะบอกว่าผมไม่มั่นใจ แต่ถ้าผมใส่ความพยายามลงไปอย่างเต็มที่และมากพอ ผมเชื่อว่าผมจะบรรลุเป้าหมายได้" Faker แสดงถึงทัศนคติที่ยอดเยี่ยม สิ่งนี้เองทำให้น้องใหม่มาแรงอย่าง Pirean ยังยอมรับว่าเขาเก่งขึ้นได้ก็เพราะมีแบบอย่างที่ดีอย่าง Faker นั่นเอง
“ผมเรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่างจาก Faker ไม่ใช่แค่เรื่องเกม แต่รวมไปถึงการใช้ชีวิตประจำวันในฐานะมืออาชีพ ทุกสิ่งที่อย่างที่เขาแสดงให้เห็นช่วยผมพัฒนาตัวเองได้มาก” Pirean พูดถึงสตาร์รุ่นพี่ไว้อย่างน่าฟัง
ช่วงเวลาวัดใจ
โชคไม่ดีที่ Faker ฟอร์มดรอปลงมาในช่วงเวลาที่เขากำลังจะหมดสัญญากับทีม T1 พอดี และเมื่อมันคือธุรกิจการจะเป็นคนดีอย่างเดียวนั้นไม่พอ เรื่องของฝีมือก็ต้องสอดคล้องกับเป้าหมายที่ทีมตั้งไว้ด้วยซึ่งแน่นอนว่าต้องแชมป์เท่านั้น แต่ T1 กลับจบอันดับที่ 5 ร่วมในการแข่งขันเมื่อช่วงฤดูร้อนปี 2018 อดไปเล่นรอบสุดท้าย จนดูเหมือนว่าถึงเวลาเเล้วที่ Faker จะต้องสละบัลลังก์ของเขา
Photo : tophinhnendep.info
จากสถานการณ์ดังกล่าว หลายคนสงสัยว่า Faker จะได้ไปต่อในฤดูกาล 2019 หรือไม่? เขาจะแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกก่อนไหม? หรือทีมจะเลือกดัน Pirean ขึ้นมาเป็นมิดเลนเนอร์แทนที่เขากันแน่
ที่สุดแล้วหลังฉากของ Faker คือการแสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทและความภักดีต่อทีมทำให้เขาได้สัญญาฉบับใหม่จาก T1 แม้เรื่องของราคาค่าจ้างจะไม่เปิดเผย แต่หลายฝ่ายฟันธงว่าสำหรับ Faker แล้ว "เงินไม่ใช่ปัญหา" ดังนั้นอาจจะมีการลดค่าเหนื่อยลงบ้าง ทว่าสิ่งที่ทำให้เขาเลือกลุยต่อเพราะว่าทีมตั้งใจวางเป้าหมายใหม่อีกครั้งว่าพวกเขาจะกลับมาเป็นเบอร์ 1 ให้ได้ เหมือนกับสิ่งที่เขาคาดหวังไว้
ตอนนี้ทั้ง Faker และ T1 กลับมาเดินบนเส้นทางเดียวกันอีกครั้งเหมือนกับเมื่อปี 2013 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ได้ร่วมงาน
นั่นทำให้เช้าวันที่ 20 พฤศจิกายน 2018 ทาง T1 จึงได้ประกาศข่าวดีอย่างเป็นทางการผ่านเพจออฟฟิเชียลของพวกเขาเองว่า...
"สวัสดีพวกเราคือ SKT
วันนี้พวกเราจะมาประกาศข่าวที่พวกเราเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงกำลังตั้งตารอคอยเป็นอย่างมากนั้นก็คือ
Lee 'Faker' Sang-hyeok ผู้เล่นที่ดีที่สุดตลอดกาลตั้งแต่ที่เขาเริ่มเล่นใน LoL League ตั้งแต่ปี 2013 จนถึงตอนนี้
รวมถึง Lee 'Effort' Sang-ho และ Han 'Leo' Kyeo-re ทั้ง 3 คนได้ทำการต่อสัญญาใหม่กับทาง SKT อีกครั้งหนึ่ง
พวกเราจะคอยสนับสนุนพวกเขาทั้ง 3 อย่างเต็มที่ตลอดซีซั่น 2019 ที่จะมาถึงในอนาคต
ทีม SKT จะพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุดและกลับขึ้นไปเป็นทีมอีสปอร์ตที่ดีที่สุดอีกครั้ง และเราจะกลับมาอีกครั้งพร้อมกับผู้เล่นคนอื่นที่จะมาร่วมทีมกับเราแน่นอน"
และหลังจากนั้น Faker ก็ค่อยๆ คืนฟอร์มเก่งอีกครั้ง ด้วยการนำทีม T1 คว้าแชมป์ LCK หรือ LoL ลีกเกาหลีใต้ ทั้งช่วง Spring และ Summer ปี 2019 ก่อนจะคว้าแชมป์ LCK Spring ได้อีกในปี 2020 แม้จะพลาดโอกาสเพิ่มสถิติแชมป์โลก แต่พระเจ้าผู้นี้ก็ยังคงเป็นพระเจ้าเสมอ
ผลงานที่กลับมาเก่งสมฉายา รวมถึงการวางตัวที่ดี ทำให้ T1 ไม่ลังเลที่จะยื่นสัญญาฉบับใหม่ให้ Faker อีกในปี 2020 แบบเต็มแม็กซ์ 3 ปี (ตามกฎของ Riot Games ผู้สร้างเกม LoL) ... และถึงสัญญาที่ T1 ยื่นให้ ซึ่งไม่ระบุตัวเลขในสัญญา จะมีมูลค่าน้อยกว่าจากหลายๆ ทีมในลีกจีนและอเมริกาเหนือ ที่ถึงขั้นยื่น "เช็กเปล่า" ระบุค่าเหนื่อยได้ตามใจ แต่ Faker ก็ยินดีที่จะผูกเสี่ยวกับ T1 ไปนานๆ เพราะสัญญาฉบับใหม่นี้ เขาจะได้ขึ้นเป็นหนึ่งในผู้บริหารของทีมด้วย
ในวัย 24 ปี อาจจะเป็นอายุที่น้อยมากสำหรับชีวิตคนๆ หนึ่ง แต่สำหรับเหล่าเกมเมอร์นี่คือช่วงท้ายๆ ของอาชีพเเล้ว ดังนั้น Faker เหลือเวลาให้พิสูจน์ตัวเองไม่มากนักในเรื่องของฝีมือ
Photo : gamek.vn
การเป็นสุดยอดนั้นว่ายากแล้ว แต่การรักษาความยอดเยี่ยมให้คงอยู่ต่อไปจนผู้คนยอมรับไม่ใช่เรื่องง่าย ... แต่สำหรับ Faker ทุกเส้นทาง ทุกการกระทำของเจ้าตัวจากอดีตกระทั่งทุกวันนี้ บางที คำว่า "พระเจ้า" อาจไม่ใช่คำเดียวที่ควรค่าแก่การยกย่อง
เพราะ "ตำนาน" ก็เป็นอีกหนึ่งคำที่คู่ควรด้วยเช่นกัน
บทความโดย เจษฎา บุญประสม
แหล่งอ้างอิง
โฆษณา