6 ก.ค. 2020 เวลา 03:45 • ธุรกิจ
ความมั่งคั่งที่นับวันยิ่งทวีคูณ ของธุรกิจผลิตไฟฟ้า
ในอดีต มนุษย์ต้องการเพียงปัจจัยสี่ในการดำรงชีพ ได้แก่ อาหาร ยา เครื่องนุ่งห่ม และที่อยู่อาศัย ผิดกับปัจจุบัน ที่ความต้องการไม่ใช่เพียงแค่สี่ประการ หากแต่มีหลายหลายความจำเป็นที่เพิ่มมา หนึ่งในนั้นก็คือ.. “ไฟฟ้า”
ที่น่าสนใจ สำหรับช่วงครึ่งปีแรกของ 2020 ที่โลกต้องเผชิญกับภาวะโรคระบาด แต่ทว่าไฟฟ้ากลับกลายเป็นความต้องการที่ทวีคูณขึ้น
แล้วรู้ไหม ว่าความมั่งคั่งของพลังงานที่มองไม่เห็นชนิดนี้ กำลังทะยานขึ้น.. ตามไปด้วย..
ธุรกิจโรงไฟฟ้า ถือได้ว่าเป็นกิจการหนึ่ง ที่มีรายได้อย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นธุรกิจสัปทาน บริษัทน้อยใหญ่ ล้วนแล้วแต่มีสัญญาซื้อ-ขายกับหน่วยงานภาครัฐ ไม่ว่าช่วงนั้นจะเกิดปัญหาเกี่ยวกับเศรษฐกิจตกต่ำ หรือเกิดวิกฤติทางการค้าถาโถมสักแค่ไหน
ทว่าธุรกิจโรงไฟฟ้า กลับเป็นหนึ่งในผู้ผลิตทรัพยากรที่มีเสถียรภาพทางรายได้ จากสัญญาขายพลังงานที่รับรู้รายได้อย่างแน่นอนในอนาคต เมื่อมีรายได้ชัดเจน ก็เป็นตัวเลือกที่นักลงทุนจะตัดสินใจลงเล่นตลาดร่วมได้ง่ายขึ้น
ฉะนั้น ธุรกิจผลิตไฟฟ้าจึงเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ทนต่อสภาวะตลาด สามารถให้ผลตอบแทนต่อนักลงทุนทั่วไปได้ แม้ประเทศจะประสบปัญหาทางเศรษฐกิจรูปแบบใดก็ตาม “เพราะไม่ว่าจะเป็นแห่งหนใด สิ่งเดียวที่มีอิทธิพลกับมนุษยชาติที่สุดก็คือ..ไฟฟ้า”
ในบ้านเมืองเรา ผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ในประเทศ และเป็นหน่วยงานผลิตไฟฟ้าเอกชนแห่งแรก คือบริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO
EGCO อยู่ภายใต้การดำเนินการของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย นับตั้งแต่วันแรกที่จดทะเบียนในปี 2535 โดยเป้าหมายของ EGCO คือต้องการให้บริษัทนี้เป็นรัฐวิสาหกิจร่วมทุนกับอีกบริษัทที่มีชื่อว่า “Holding Company” ที่ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับรัฐ
รู้ไหม ทางเทคนิค บริษัทผลิตไฟฟ้าบริษัทนี้ กำลังได้รับการจับตามองมากที่สุดในประเทศ..
ย้อนกลับไปในอดีตของสยามประเทศ เริ่มมีไฟฟ้าใช้ครั้งแรกในปี 2427 และนั่นเป็นจุดกำเนิดของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต
100 ปีให้หลังจึงเกิดบริษัทรัฐวิสาหกิจแห่งแรกที่ผลิตไฟฟ้า..
ที่น่าสนใจคือ EGCO มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดย 9 ปีก่อน ปริมาณการผลิตไฟฟ้าของบริษัทอยู่ที่ 3,736 เมกะวัตต์
แต่ปัจจุบันเพิ่มขึ้นมาเป็น 5,475 เมกะวัตต์ ซึ่งถือว่ามีการเติบโตถึงร้อยละ 37 แถมยังมีหนี้สินต่ำ โดยหนี้สินของบริษัทมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง
ปี 2017 มีหนี้สิน 114,094 ล้านบาท
ปี 2018 มีหนี้สิน 106,188 ล้านบาท
ปี 2019 มีหนี้สิน 104,032 ล้านบาท
นอกจากนี้ การเติบโตทางเทคนิคของกิจการ ยังมีแผนการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ที่ผ่านมา EGCO ยังได้มีการลงทุนในโครงการ Paju ที่ประเทศเกาหลีใต้ และมีความเกี่ยวข้องกับการขายพลังงานในฟิลิปปินส์
แม้จะได้รับผลกระทบจากวิกฤติ Covid-19 แต่ก็ยังมีข่าวดี ในการเดินหน้าลงทุนกิจการพลังงานลมนอกชายฝั่งโครงการแรกในไต้หวัน แถมยังมีแนวโน้มที่เร่งตัวขึ้นสำหรับโครงการพลังงานลมนอกชายฝั่งในญี่ปุ่น
นอกจากนี้ ศักราช 2020 บริษัทยังได้ทุ่มเม็ดเงินมหาศาลกว่า 3 หมื่นล้าน เพื่อสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่ม ทั้งโรงไฟฟ้าพลังถ่านหินในเวียดนาม 1,320 เมกะวัตต์ ซึ่งบริษัทถือหุ้นอยู่ 30% แถมยังมีการเดินหน้าพัฒนาธุรกิจใหม่อย่างนิคมอุตสาหกรรมในระยองขนาด 600 ไร่ ซึ่งเป็นประโยชน์จากนโยบายพัฒนา EEC
ถามว่าตอนนี้ บริษัทผลิตไฟฟ้า มั่งคั่งแค่ไหน..
ปี 2017 มีรายได้ 30,018 ล้านบาท กำไรสุทธิ 11,818 ล้านบาท
ปี 2018 มีรายได้ 35,522 ล้านบาท กำไรสุทธิ 21,073 ล้านบาท
ปี 2019 มีรายได้ 37,511 ล้านบาท กำไรสุทธิ 13,059 ล้านบาท
เป็นที่รู้กันดีว่าในอนาคต ไฟฟ้าคือสิ่งที่ขาดไฟไม่ได้แน่ แถมยังมีความต้องการเพิ่มมากขึ้นแน่ กรณีของ EGCO จึงเป็นตัวอย่าง ในการเติบโตอย่างเป็นลำดับ โดยใช้เวลาเพียงแค่ 3 ทศวรรษ และยังมีท่าทีว่าการเติบโตจะทวีคูณขึ้นอย่างตลอด
หากมองไปรอบตัว เราจะเห็นว่าทุกสิ่งอย่างสามารถผลิตไฟฟ้าได้ทั้งหมด ตั้งแต่เศษฟืนก็สามารถเข้าโรงงานถ่านหินได้ ลมก็สามารถผลิตผ่านกังหันลมได้ แสงแดดก็สามารถผลิตผ่านโซลาร์ได้ หรือแม้แต่น้ำก็สามารถผลิตผ่านเขื่อนกักเก็บน้ำได้
หากจะเรียกว่าพลังงานที่มองไม่เห็นชนิดนี้ มีอิทธิพลต่อทุกสรรพสิ่งในโลกก็ย่อมได้ แต่อย่าลืมว่าทุกสิ่งล้วนแล้วแต่มีด้านบวกและลบ อยู่ที่แต่ละคนจะไตร่ตรองตัดสินใจใช้ โดยเฉพาะด้านการค้าการลงทุน.. ก็สำคัญเช่นกัน..
ส่งต่อทุกแรงบันดาลใจ Share For Inspire
Follow Us On “Facebook” https://www.facebook.com/swivelth
Follow Us On “Instragram” https://www.instagram.com/swivel.th/
โฆษณา