19 ก.ค. 2020 เวลา 05:25 • ปรัชญา
หลายคนคงเคยสัญญากับตัวเองว่าจะมุ่งมั่นตั้งใจทำอะไรบางอย่าง เช่น จะตั้งใจออกกำลังกาย ลดน้ำหนัก ทำงานเสริม เก็บเงิน เลิกสูบบุหรี่ แต่พอผ่านไปไม่กี่วันก็ “ล้มเลิก” ความคิดนั้นไปกลางคันซะอย่างนั้น
ลองมองย้อนกลับไปดูความตั้งใจทั้งหลายที่ผ่านมาของตัวเอง คุณคงไม่ได้เพิ่งคิดจะทำมันแค่ครั้งเดียวใช่ไหม คุณตั้งใจมากี่ครั้งแล้ว แล้วล้มเลิกมันไปกี่ครั้งแล้ว
สาเหตุที่ทำให้คนส่วนใหญ่ “ล้มเลิก” ได้ง่าย ก็เพราะว่าการจะทำอะไรบางอย่างได้นั้น มันจะต้องปรับปรุง “พฤติกรรมเคยชิน” ของเราที่ทำมานาน ทำมาตลอด ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่ยากมาก
อาจารย์อิชิอุระ โชอิชิ ผู้เชี่ยวชาญด้านสมองชาวญี่ปุ่นเคยกล่าวไว้ว่า “หากเราต้องการปรับปรุงพฤติกรรมที่เคยชิน จะต้องเริ่มจากการเปลี่ยนเเปลงโครงสร้างทางสมอง โดยจะต้องฝึกทำสิ่งนั้นซ้ำๆ อย่างน้อยที่สุด 30 วัน ไม่ใช่ ภายใน 3 วัน”
หลายคนมักเขียนคำปฏิญานที่มุ่งมั่นไว้บนปฏิทินทุกต้นเดือน เช่น ปีหน้าฉันจะเปลี่ยนเเปลงตัวเอง แต่แล้วก็ล้มเลิกภายใน 3 วัน แล้วก็เขียนใหม่ทุกต้นเดือน เขียนใหม่จนตอนนี้อายุ 20 30 40 ปี กันแล้ว
เพราะฉะนั้น การจะทำอะไรให้ประสบความสำเร็จไม่ใช่แค่มี “ความตั้งใจที่เเน่วเเน่” เพียงอย่างเดียว แต่ต้องอาศัยการ “ฝึกฝน” ที่สม่ำเสมอด้วย
หากคุณอยากว่ายน้ำเก่ง แล้วเอาแต่อ่านทฤษฎีในหนังสือ ต่อให้ตั้งใจแน่วแน่แค่ไหน ก็ไม่มีทางว่ายน้ำได้เก่งหรอก เพราะการจะว่ายน้ำเก่งได้ มันต้องหมั่นฝึกซ้อมทุกวัน ซ้อมจนร่างกายเคยชิน ซ้อมจนต่อให้หยุดซ้อมไปวันสองวัน ร่างกายก็จะสามารถกลับมาซ้อมใหม่ได้โดยอัตโนมัติ
ถ้าคุณอยากจะมีงานเสริม มีรายได้เพิ่ม มีเงินเก็บ อยากทำธุรกิจ ต่อให้ทักมาซื้อหนังสือที่บอกเคล็ดลับ 100 วิธีการสร้างรายได้เสริม สัก 100 เล่ม แต่ไม่นำไปลงมือทำ คุณก็ไม่ทางทำได้หรอก
มีหลายคนส่งข้อความมาหาผมให้แนะนำหนังสือที่ช่วยให้ลงมือทำ เพราะตัวเองเป็นคนไม่ลงมือทำสักที
2
สิ่งที่ผมมักจะตอบกลับไปก็คือ “การลงมือทำ” ไม่ได้ขึ้นอยู่กับหนังสือ แต่มันขึ้นอยู่กับ ”คุณ” ต่างหาก หนังสือเป็นเพียงเข็มทิศบอกเส้นทาง แต่การจะไปถึงจุดหมายปลายทาง มันอยู่ที่การ “ก้าวเท้า “ของคุณ
2
การเปลี่ยนพฤติกรรมที่เคยชิน ไม่ใช่สิ่งที่จะแก้ไขได้ด้วยความตั้งใจ แต่ต้องแก้ไขด้วยการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ
เพราะการฝึกฝน ลงมือทำ อย่างสม่ำเสมอซ้ำๆ นี่เเหละ จะทำให้เป้าหมายที่ไม่เคยคิดว่าจะเป็นไปได้ ให้มันเป็นจริงขึ้นมา
1
ส่วนตัวผมเคยคิดว่าการเขียนบทความวันละบทให้ได้ทุกวัน คงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เเต่ผมก็เริ่มลงมือทำทุกวัน ไม่ว่าจะทำงานประจำกลับมาเหนื่อยแค่ไหน ง่วงแค่ไหน ผมก็จะฝืนตัวเอง เปิดคอม แล้วเริ่มเขียนมันลงไป ผมลงมือทำจนครบ 2 เดือนเต็ม โดยไม่ขาดเลยแม้แต่วันเดียว
1
จนตอนนี้เหมือนร่างกายเกิดความเคยชินแล้ว กลายเป็นว่าการเขียนบทความทุกวันของผม เป็นสิ่งที่ร่างกายเคยชินไปแล้ว แม้จะรู้สึกขี้เกียจบ้าง แต่มันก็ลุกขึ้นมาทำเองโดยอัตโนมัติ
จนเพื่อนหลายคนบอกว่าผมขยันไปหรือเปล่า ทั้งทำงานประจำ อ่านหนังสือ เขียนบทความ ขายหนังสือ แต่เอาจริงๆ ตัวผมไม่ได้คิดว่าตัวเองขยัน แต่กลับรู้สึกว่ามันเป็นแค่กิจวัตรประจำวันของผมเท่านั้น
ซึ่งตัวเเปรสำคัญ คือ “วันนี้”
คนส่วนใหญ่ชอบพูดว่าจะลงมือทำ “พรุ่งนี้” ซึ่งเราอาจได้ยินคำพูดเเบบนี้บ่อยๆ เช่น คนที่ตั้งใจจะลดน้ำหนัก ก็มักจะพูดว่า “กินวันนี้วันสุดท้าย พรุ่งนี้จะเลิกกินจริงๆ แล้วน่ะ”
ซึ่งความจริงแล้ว คำว่า “ตั้งแต่พรุ่งนี้” เป็นแค่คำที่เอาไว้หลอกตัวเอง เพื่อให้วันนี้เรายังกินได้ ต่างหาก
3
การฝึกฝนต่างๆ ต้องเริ่มต้นจาก “วันนี้” เท่านั้น ถ้าอยากทำอะไรสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอันสักที จะต้องไม่มีคำว่าพรุ่งนี้อีกต่อไป เเต่ต้องลงมือทำใน “วันนี้” ทำไปทีละเล็กทีละน้อย
1
จำไว้ว่า “ความฝันต้องใหญ่ แต่วินัยต้องเล็ก”
"เพราะเป็นวัยรุ่น จึงเจ็บปวด" หนังสือที่เขียนมาเพื่อวัยรุ่นที่กำลังสับสนในช่วงเวลาค้นหาตัวเอง เเละเพื่อให้ผู้ใหญ่ได้ทบทวนชีวิตในช่วงเวลาที่ผ่านมา...
“เปลี่ยนตัวเองเป็นคนที่ดีขึ้น ด้วยการอ่านหนังสือดีๆ สักเล่ม”
เเต่ถ้าไม่รู้ว่าตัวเองควรอ่านเล่มไหน ทักมาปรึกษาสมองไหลได้เลย
2
สั่งซื้อหนังสือออนไลน์ง่ายๆ ส่งตรงถึงหน้าบ้านคุณ
ได้ที่ Inbox เพจ #สมองไหล
โฆษณา