28 ก.ค. 2020 เวลา 11:46 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
Google จะสร้างสายเคเบิลใต้ทะเลส่วนตัว เชื่อมต่อระหว่างสหรัฐฯ - สหราชอาณาจักร -สเปน
Google ประกาศว่าจะลงทุนทำโครงการ “สายเคเบิลใต้ทะเลส่วนตัว (Fiber Optic)” ที่ 4
ที่ชื่อโครงการว่า “Grace Hopper” ซึ่งจะลากยาวตั้งแต่เมืองนิวยอร์ก-สหรัฐฯ ไปจนถึงชายทะเล Bude-สหราชอาณาจักร และเมืองบิลเบา-สเปน
โดยสายเคเบิลจะมีความยาวประมาณ 6,250 กม. จากสหรัฐฯ ไปยัง สหราชอาณาจักร
และยาวประมาณ 6,300 กม. จากสหรัฐฯ ไปยัง สเปน
การลงทุนสร้างสายเคเบิลใต้ทะเลส่วนตัวของ Google
ก็เพื่อสร้างโครงข่ายที่มีประสิทธิภาพและเชื่อถือได้ เอาไว้รองรับความต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มสูงขึ้นในอนาคต
โดย Google เปิดเผยว่าการรับ-ส่งข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตทั่วโลก ประมาณ 98% เกิดขึ้นผ่านทางสายเคเบิลใต้ทะเล ดังนั้นโครงสร้างพื้นฐานนี้ จึงมีความสำคัญอย่างมากต่อการสื่อสารโลก
รวมถึงโครงการสายเคเบิลใต้ทะเล ยังช่วยเพิ่มโอกาศให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงบริการต่างๆของ Google ได้
เช่น Google Meet, Gmail และ Google Cloud เป็นต้น
ซึ่งคาดว่าโครงการ Grace Hopper จะแล้วเสร็จภายในปี 2022
ทั้งนี้ โครงการสายเคเบิลใต้ทะเล อื่นๆของ Google ที่เคยประกาศมาแล้ว ได้แก่
โครงการที่ 1 คือ Curie ที่เชื่อมต่อระหว่างประเทศชิลี และเมืองลอสแองเจลิส
โครงการที่ 2 คือ Dunant เชื่อมต่อระหว่างประเทศฝรั่งเศส และสหรัฐอเมริกา
โครงการที่ 3 คือ Equiano ที่จะเชื่อมต่อระหว่างทวีปยุโรป (เริ่มจากโปรตุเกส) กับแอฟริกา
นอกจากนี้ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา Facebook ก็ได้ประกาศทำโครงการสายเคเบิลใต้ทะเล รอบทวีปแอฟริกา ครอบคลุม 16 ประเทศ และสายเคเบิลยาวกว่า 37,000 กม.
เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต ของประชากรนับพันล้านคนในทวีป
โครงการนี้ดำเนินการในชื่อ “2Africa” โดยร่วมมือกับ China Mobile, MTN ของแอฟริกาใต้, Orange ของฝรั่งเศส และ Vodafone ของสหราชอาณาจักร
และคาดว่าจะเสร็จอย่างสมบูรณ์แบบภายในปี 2024
โฆษณา