29 ก.ค. 2020 เวลา 13:00 • ธุรกิจ
บุกหลังบ้าน เปิดแผนรบหุ้น S
กลยุทธ์การบริหารพอร์ตฯธุรกิจของ สิงห์ เอสเตท
เมื่อพูดถึงการบริหารความเสี่ยง หลายคนอาจจะคิดว่ามันคือเรื่องสุดท้ายที่ต้องคิด แต่ถ้าหากเพื่อนๆต้องการความยั่งยืนและมั่นคงแล้วล่ะก็
การคิดถึงความเสี่ยง จะถือว่ามีความสำคัญมาเป็นอันดับแรก
เช่นเดียวกับ S หรือบมจ. สิงห์ เอสเตท บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์อีกเจ้าหนึ่งของไทยที่มาจากเครือธุรกิจของตระกูลยักษ์ใหญ่อย่าง “ภิรมย์ภักดี” ที่ในไตรมาส 1 ปี 2563 ยังสามารถมีกำไรที่เติบโตขึ้นมาได้ถึง 14%
แล้วเดี๋ยววันนี้พวกเรา หุ้นพอร์ทระเบิด จะพาไปดูกลยุทธ์ของ S ผ่านแนวคิดของคุณ “นริศ เชยกลิ่น” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสิงห์ เอสเตท กันบ้างดีกว่าว่าทำไม “ความเสี่ยง” จึงเป็นเรื่องที่ต้องบริหาร
ถ้าพร้อมแล้วเราก็ไปลุยกันเลย
ก่อนอื่นก็ต้องบอกว่า S ก็ถือเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับผลกระทบจาก Covid-19 เช่นกัน เนื่องจากว่าธุรกิจ 1 ใน 3 ของธุรกิจทั้งหมดนั้นคือโรงแรมอย่าง SHR ก็ต้องโดนปิดกิจการไปถึง 100% จากการปิดประเทศและปิดเมืองในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา
แต่สำหรับในกลุ่มอสังหาฯ ก็ยังไม่ได้รับผลกระทบอะไรมากนัก มิหนำซ้ำ Santiburi(เกาะสมุย) หรือบ้านเดี่ยวที่มีราคาสูงถึงสองร้อยกว่าล้านก็ยังมียอดขายใหม่อยู่ แสดงให้เห็นว่า Demand ในส่วนของคนที่มีกำลังซื้อนั้นยังคงมีอยู่ แต่อาจจะรอการต่อรองหรือลดราคาเพื่อให้ได้ข้อเสนอที่ดีที่สุด
ส่วนธุรกิจที่ได้รับผลกระทบน้อยที่สุดของทางกลุ่มสิงห์ เอสเตท ก็จะเป็นธุรกิจในส่วนของอาคารสำนักงาน เนื่องจากว่าลูกค้าส่วนใหญ่ของทางบริษัทนั้นจะเป็นบริษัทใหญ่ๆที่ไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากโควิด หรือถ้าเป็นลูกค้าที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับเรื่อง Oline ก็กลับจะได้รับผลบวกอีกด้วย
โดยแผนการกระจายความเสี่ยงของ สิงห์ เอสเตท จริงๆแล้วก็ไม่ได้เพิ่งจะเริ่มขึ้นเมื่อตอนที่ Covid-19 ได้แพร่ระบาดแล้ว แต่กลุ่มสิงห์ทำก่อนหน้านั้นไปแล้วซึ่งก็คือการนำ SHR เข้าตลาดเพื่อระดมเงินทุนมาหมุนเวียนในธุรกิจ พอมาเจอวิกฤติเข้าจริงๆกลุ่มสิงห์จึงไม่ได้เหนื่อยจนรับไม่ไหว
ซึ่งแนวคิดหลักๆในการทำธุรกิจของคุณ นริศ ก็จะเน้นไปที่การบริหารความเสี่ยงเป็นหลัก และนี่จึงเป็นที่มาของแนวทางในการบริหารจัดการพอร์ตธุรกิจของ สิงห์ เอสเตท ที่ยังคงชัดเจนในการเตรียมพร้อมรับความไม่แน่นอน ด้วยการกระจายธุรกิจไปให้หลากหลาย แต่ก็ไม่หวือหวาจนเกินไป
จึงเป็นเป้าหมายในการบริหารจัดการต่อมาอีกว่า สิงห์ เอสเตท จะพยายามรักษาระดับ D/E ให้อยู่ที่ 1 เท่า เพราะทางคุณนริศมีมุมมองว่าตำราการบริหารแบบเดิมนั้นยังคงใช้ได้ดีอยู่เหมือนเดิมถ้าหากว่าต้องการความ “ยั่งยืน”
เปรียบได้กับการขับรถบนถนน คุณจึงต้องตั้งคำถามกับตัวเองให้ดีว่า การเปลื่ยนเลนไปมา หรือการขับไปในเลนที่เลือกแล้วอย่างมั่นคง อย่างไหนจะทำให้คุณถึงเส้นชัยได้ไวกว่า ?
และนี่ก็อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ล่าสุด S หรือสิงห์ เอสเตท มีแผนที่จะเตรียมเงินลงทุนจำนวน 5 - 6 พันล้านบาทเพื่อไปร่วมทุนกับธุรกิจแห่งอนาคตอย่างธุรกิจ พลังงานหมุนเวียน ในต่างประเทศ ซึ่งคาดว่าน่าจะได้รับรู้ผลงานกันในปีพ.ศ. 2564 ด้วยสัดส่วนรายได้ราวๆ 5 - 10% ของรายได้ทั้งหมด
โดยสำหรับอนาคตของธุรกิจอสังหาฯนั้น คุณนริศก็ได้มีมุมมองว่าสักวันหนึ่งกรุงเทพฯก็ต้องขยายตัวออกไปเรื่อยๆและเมื่อถึงเวลานั้นหลายๆย่าน หลายๆโซนก็จะกลายขึ้นมาเป็น Hub เพื่อรองรับความเจริญต่อออกไปจากกรุงเทพฯและขนส่งทางรางก็น่าจะต้องเป็นแรงขับเคลื่อนหลักด้วยในการขยายเมืองเช่นนี้
ซึ่งตรงนี้ก็จะทำให้เกิด “โอกาส” ในการมองหาทำเลดีๆที่จะสามารถเติบโตได้ตามความเจริญที่จะขยายไปได้ในระยะ5 - 10 ปีข้างหน้า
เช่นเดียวกันกับธุรกิจโรงแรมที่คุณ นริศ ได้เล็งเห็นว่าวิกฤติในครั้งนี้ก็เป็นโอกาสในการเข้าซื้อกิจการเพิ่มเพื่อการขยายฐานไปยังกลุ่ม “ลูกค้าระดับกลาง” ด้วยการมองหาโรงแรมระดับสามดาวครึ่งไปจนถึงระดับสี่ดาวเข้ามาเพิ่มในพอร์ตธุรกิจ
โดยการเข้าซื้อของสิงห์ เอสเตท ก็จะไม่ได้เป็นการเข้าซื้อและปล่อยทิ้งไว้เฉยๆ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นการเข้าซื้อและลงทุน พัฒนาธุรกิจให้ดีขึ้น รวมไปถึงการปรับปรุงซ่อมแซมเปลื่ยนโฉมอยู่เสมอ ส่งผลให้โรงแรม พีพี ที่เป็นโรงแรมสี่ดาวได้รับการตอบรับที่ดีกว่าโรงแรมระดับห้าดาวบนเกาะ
แต่ไม่ใช่ว่าอะไรก็จะง่ายไปหมด เพราะในส่วนของโรงแรมที่อยู่ในประเทศอังกฤษนั้นทาง สิงห์ เอสเตท ก็กำลังมีการพิจารณาว่าจะขายออกไปบ้างบางส่วนเนื่องจากว่าไม่เหมาะกับแนวทางในการบริหารพอร์ตธุรกิจ ซึ่งถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด สิงห์ เอสเตท ก็มีแผนที่จะใช้เงินราวๆ 50,000 ล้านบาทในอีก 5 ปีข้างหน้านี้ในการขยายธุรกิจโรงแรม
S จะสามารถเติบโตไปได้ตามเป้าหมายที่ปีละราวๆ 20% ได้ตามแผนที่คุณ “นริศ เชยกลิ่น” ได้กล่าวไว้ได้หรือไม่ ??
การมองหาความยั่งยืนในระยะยาวของ สิงห์ เอสเตท จะเป็นแค่เพียงความฝัน หรือจะเป็นภาพที่พวกเขามองเห็นอยู่แล้วในใจว่ามีความเป็นไปได้ ?
เรื่องนี้ก็คงจะต้องมาติดตามกันต่อไปอย่างใกล้ชิด
สวัสดีครับ...
⭐️กลับมาอีกแล้วว...รถด่วนขบวนสุดท้ายสำหรับห้อง VIP.หุ้น..TFEX สุด Exclusive By ทีมงานไก่จ๋า⭐️
เพียงแค่ท่านเปิดบัญชีกับเรา โดยมีผู้สนับสนุนใจดี
เปิดบัญชี TFEX สัญญาละ 25
หุ้นค่าคอม ล้านละ 500
.
.
สิทธิพิเศษลูกค้าใหม่ หุ้น& TFEX รับสิทธิเข้าห้องไลน์ VIP สุดพิเศษพร้อมแนะนำกลยุทธ์ทุกวัน ฟรี!!! ย้ำว่าฟรี‼️‼️
.
ด่วน!! จำนวนจำกัด...
กดได้เลย
โฆษณา