1 ส.ค. 2020 เวลา 13:18 • ธุรกิจ
เลิกแจกเงินเยียวยา เศรษฐกิจอเมริกากำลังจะทรุดหนัก !
1. อย่างที่ผมได้เคยเขียนไปเมื่อ 2-3 วันก่อน ว่าสถานการณ์ทางด้านการว่างงานภายในสหรัฐอเมริกานี้กำลังกลับมารุนแรงขึ้นในช่วงที่ไวรัส COVID-19 กลับมาระบาดในระลอก 2 นี้
2. เพราะม็อบเรียกร้องความยุติธรรมให้แก่คนดำ และม็อบที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก George Floyd กลุ่มต่างๆได้พยายามออกมาชุมนุม ประท้วงแล้วไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัยกัน
3. ทำให้การระบาดมันเกิดขึ้นอีกรอบอย่างง่ายดาย บวกกับที่มีคนอเมริกาหลายๆคนเป็นคนที่ไม่เชื่อว่าไวรัส COVID-19 อันตรายจริงๆก็มีเยอะ เลยไม่มีใครยอมใส่หน้ากากออกจากบ้านกัน อ้างเป็นเสรีภาพ
4. สุดท้ายยอดผู้เสียชีวิตทั้งประเทศพุ่งมาเป็น 150,000 กว่าคน ภาคใต้ของสหรัฐอเมริกาถูกไวรัสบุกหมดทุกมลรัฐไม่ว่าจะเท็กซัส แคลิฟอร์เนีย อริโซน่า ฟลอริด้า อะไรพวกนี้ติดเชื้อกันจนกระทั่งต้องดึงมาตรการล็อคดาวน์ขนาดเล็กกลับมาอีกรอบ
5. สถานการณ์มันเลยแย่ลง ยอดคนตกงานจากเดิมที่มันค่อยลดลง ลดลงเรื่อยๆทุกสัปดาห์ตั้งแต่ช่วงเมษายน จากยอดสูงสุดคือ อาทิตย์ตกงานกัน 6,000,000 กว่าคน มาเหลืออยู่ที่อาทิตย์ละ 1,300,000 กว่าคนโดยเฉลี่ย
6. ล่าสุดยอดคนตกงานกลับมาเพิ่มเป็นอาทิตย์ละ 1,400,000 กว่าคนกันอีกแล้วในช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ เพราะไวรัสมันระบาด ต้องล็อคดาวน์กันอีกรอบ อุตสาหกรรมการบริการ และการท่องเที่ยวจึงตายสนิทเหมือนเดิม
7. และที่น่ากลัวกว่านั้นคือ ข่าวร้ายสำหรับคนตกงาน วันนี้ทางกระทรวงแรงงานออกมาประกาศแล้วว่าหลังจากวันที่ 1 สิงหาคมเป็นต้นไป ประชาชนอเมริกาที่ตกงาน จะไม่สามารถเข้ามาลงทะเบียนรับสิทธิเงินเยียวยาสมทบจากรัฐบาลได้อีก
8. เงินเยียวยาที่ว่านี้หมายถึง เงินเยียวยาที่รัฐบาลกู้มาอัดฉีดเข้าสู่ระบบเมื่อช่วง 2-3 เดือนก่อน เพื่อพยายามที่จะพยุงเศรษฐกิจ และพยายามที่จะไม่ให้หลายๆครอบครัวชนชั้นกลางต้องล้มลงไปในช่วงเวลานี้
9. ซึ่งก็มีมูลค่าประมาณ 600 ดอลลาร์สหรัฐ ใครที่ตกงาน หรือถูกไล่ออกจากกะทันหันก็สามารถที่จะเข้ามาลงทะเบียนเอากับกระทรวงแรงงาน แล้วขอรับสิทธิเงินสมทบจำนวน 600 ดอลลาร์สหรัฐต่อสัปดาห์นั้นได้
10. คนอเมริกาที่ตกงานในช่วงไวรัส COVID-19 ระบาดนี้ก็จะได้เงินช่วยเหลือจากรัฐบาลทั้งหมดอย่างน้อยๆก็สัปดาห์ละ 800-900 ดอลลาร์สหรัฐ (600 จากกองทุนที่รัฐบาลอัดฉีดเข้ามาให้ และอีก 200-300 นั้นมาจากเงินประกันสังคม)
11. แต่ก็อีกนั่นแหละ ไอ้เงินประกันสังคมนี้ไม่ใช่ว่าทุกๆมลรัฐจะได้เท่ากันนะครับ บางมลรัฐเขาก็ได้แค่สัปดาห์ละ 100 ดอลลาร์สหรัฐ บางมลรัฐก็ได้ 200 มลรัฐไหนที่รวยหน่อยก็จะได้ 300-350 ดอลลาร์สหรัฐ
12. ซึ่งถ้าเงินเยียวยาในกองทุนที่รัฐบาลอัดฉีดหมดหรือรัฐบาลหยุดจ่ายให้เมื่อไร ประชาชนชาวอเมริกาที่ตกงานก็จะได้เงินช่วยเหลือแค่สัปดาห์ละ 100-300 กว่าดอลลาร์สหรัฐ ที่ไม่มีทางที่จะพอใช้กินอยู่ หาซื้อข้าวกินกันแน่ๆ
13. คนอเมริกาจำนวนไม่ต่ำกว่า 20,000,000 คนที่กำลังรอเงินเยียวยานี้ จะประสบกับปัญหาการใช้ชีวิตประจำวันแน่ๆ ไม่ว่าจะค่าเช่าบ้าน ค่าอาหาร ค่าเดินทางอะไรต่างๆ ที่เคยใช้เงิน 600 นั้นซื้อหามา ก็จะหายไปทันที
14. จริงๆมีการเสนอที่จะต่ออายุการแจกเงินเยียวยานั่นแหละครับ แต่พอดีมันเกิดเหตุขัดข้องในรัฐสภา ทั้งพรรค Republican และพรรค Democrat นั้นไม่สามารถหาข้อตกลงกันได้หลังจากที่เถียงกันมาหลายวัน
15. สุดท้ายแพคเกจเงินเยียวยาที่มีกำหนดหมดอายุเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคมก็เลยหมดแล้วหมดเลย ไม่ได้มีการเติมให้ หรือต่ออายุให้ (ตอนแรกมีคนเสนอให้ต่อ 1 สัปดาห์ด้วย ซึ่งก็โดนด่าไปว่าแกล้งเสนอ)
16. ทีนี้ถ้าถามว่าสถานการณ์หลังจากนี้ต่อไปจะเป็นอย่างไร? เท่าที่ติดตามมาในรอบสัปดาห์นี้ ผมเห็นว่ามีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจจากรัฐสภาและทำเนียบขาวอยู่หลายประเด็น
17. ประเด็นแรกคือ ข้อเสนอของพรรค Republican ที่เสนอว่าถ้าหากอยากจะแจกเงินเยียวยากันต่อให้ประชาชนคนว่างงาน ก็ต้องตัดลดงบประมาณที่จะอัดฉีดเข้าไปให้น้อยลง ทางพรรค Republican จะไม่อนุญาตให้แจกสัปดาห์ละ 600 อีกแล้ว
18. แต่อาจจะต้องลดปริมาณลงมาอย่างน้อยๆก็ 60% คือ จะให้แจกแค่สัปดาห์ละ 100-200 ดอลลาร์สหรัฐอีกเป็นเวลาทั้งสิ้น 4 เดือนเท่านั้น เพื่อที่จะไม่ต้องสิ้นเปลืองงบประมาณ และค่าใช้จ่ายของรัฐบาลให้มากมาย
19. ส่วนข้อเสนอของทางพรรค Democrat นั้น คือ ให้จ่ายเหมือนเดิม 600 ดอลลาร์สหรัฐไปอีกเรื่อยๆจนถึงปี 2021 (อย่างน้อยๆก็ 6 เดือน) และจะผลักดันให้มีการกู้เงินออกมาอัดฉีดเข้าสู่ระบบอีก 1 ครั้ง
20. โดยสาเหตุที่ทางฝั่งของพรรค Republican และ Donald Trump ไม่ค่อยเห็นด้วยกับการต่ออายุการเยียวยาคนว่างงาน ก็คือ ถ้ายิ่งเยียวยาคนว่างงาน คนก็จะยิ่งขี้เกียจออกไปหางานทำ เพราะแค่ไปลงทะเบียนรับสิทธิก็ได้เงินเยียวยามาใช้แล้ว
21. อย่างไรก็ดี ถ้าหากพรรค Republican ยังพยายามจะสกัดข้อเสนอการต่ออายุเงินเยียวยาที่พรรค Democrat เสนออยู่แบบนี้อีกเรื่อยๆ ก็อาจจะส่งผลเสียต่อคะแนนเสียง และคะแนนความนิยมของ Donald Trump ในการเลือกตั้งปลายปีนี้แน่
22. เนื่องจากคะแนนความนิยมของ Donald Trump นั้นตกลงเรื่อยๆอยู่แล้ว ถ้าพิจารณาจากฐานข้อมูลที่ FiveThirtyEight เป็นผู้นำมารวบรวมให้ Trump คะแนนตกทุกโพลเลย ละถ้าคนอเมริกาหลายๆคนเห็นว่า Trump ไม่ได้แสดงความจริงใจที่จะช่วยเหลือพี่น้องแรงงานอันเป็นฐานเสียงหลักของ Republican
23. การเลือกตั้งครั้งนี้ก็อาจจะทำให้เกิดการสวิงคะแนนกลับไปหาพรรค Democrat ได้ในโอกาสที่ไม่ยากไปเลย ยิ่งปีนี้เขตกลุ่มที่เป็น Swing State มีการเปลี่ยนแปลงด้วยแล้ว ถ้า Trump ไม่รีบเปลี่ยนแนวทาง แล้วหันมาช่วย Democrat ดันเรื่องเงินเยียวยา ก็อาจจะต้องพบกับความพ่ายแพ้ Joe Biden ในศึกครั้งนี้ได้
24. อีกเรื่องหนึ่งที่น่ากังวลนั้น คือ หากไม่มีการเยียวยาประชาชนกว่า 20,000,000 คนเหล่านี้ต่อ คนที่ตกงานเหล่านี้จะไม่มีเงินไปซื้อข้าวของเครื่องใช้ ไม่มีเงินไปจับจ่ายใช้สอย สุดท้ายแล้วมันก็วกกลับมาที่อุตสาหกรรมการค้าปลีกที่ตอนนี้ก็เจอปัญหาเรื่องคนแทบไม่ค่อยอยากจะจ่ายตังค์กันอยู่อีกด้วย
References
1. บทความจาก BBC ชื่อ "Coronavirus: Millions of Americans set to lose key $600 benefit"
2. บทความจาก NBC News ชื่อ "$600-a-week unemployment benefits expire, posing fresh danger to Trump's re-election"
3. บทความจาก CBS News ชื่อ "Extra $600 in unemployment benefits ends: "It's an impossible situation""
4. บทความจาก CNBC ชื่อ "The $600 unemployment boost has ended. What’s next?"
5. บทความจาก CNN ชื่อ "The argument for cutting the $600 unemployment benefit doesn't add up"
6. บทความจาก Business Insider ชื่อ "The $600 unemployment bonuses did not lead to people working less, Yale study shows"
7. บทความจาก CNN ชื่อ "Millions left in limbo as Congress lets $600 unemployment benefit lapse"
8. บทความจาก FORBES ชื่อ "Expect $600 Federal Unemployment Checks Slashed To $400 Or Less"
9. บทความจาก Fortune ชื่อ "Will the next stimulus bill include an extension of the extra $600 unemployment benefit?"
10. บทความจาก Chicago Tribune ชื่อ "1 in 5 US workers collects unemployment benefits. Without the extra $600, many say they’ll struggle to buy food, pay bills"
โฆษณา