1 ส.ค. 2020 เวลา 16:28 • สุขภาพ
ยากจังกับสิ่งที่เป็น!!!
ep.7 ซินแสใหม่ไฉไลกว่าเดิม...มั้ง
หลังจากที่ฉันลงแดงยาสเตียรอยด์ และรอดตายมาได้ ฉันได้กลับไปหาหมอเฉพาะทางของฉัน คุณหมอตกใจและรีบอธิบายให้ฉันเข้าใจว่าในการลดยาแต่ละ step ต้องมีระยะเวลาห่างกันไป และกำหนดระยะเวลาในการผ่อนยาให้ฉันอย่างชัดเจน
ฉันลดยาตามสเต็ปของหมอ จนสุดท้ายฉันไม่ต้องกินสเตียรอยด์อีกต่อไป ส่วนยาอื่นก็ยังกินอยู่ แต่อาการฉันก็กลับแย่ลงอีกครั้ง แผลเริ่มลามขึ้นมาที่หน้าแข้ง ข้อเท้าด้านบน และบริเวณหลังเท้า ข้อเท้าด้านหน้า และบางแผลมันก็ขึ้นซ้ำรอยเดิมที่เคยเป็น
บวมแค่ไหนก็ต้องไปต่อ
มันทรมานใจมาก เมื่อเรามองเห็นที่ขาตัวเอง จากจุดแดงๆจนเป็นปื้นสีแดงๆและสีค่อยๆเข้มขึ้น จนกลายเป็นปื้นสีดำคล้ำ นั้นแปลว่า ในลำดับต่อไป มันจะกินเนื้อด้านในจนเป็นหลุม แล้วผิวหนังด้านนอกถึงจะหลุดออก เป็นแผลเปิด และเมื่อมันตกสะเก็ด อภิมหาความเจ็บปวดก็ถาโถมเข้ามา เพราะตัวสะเก็ดแผลจะเข้าไปแทงเนื้อรอบๆทำให้เจ็บปวดมาก
บอกได้คำเดียว 'เจ็บ'
เวลาไปทำงานฉันต้องพันขาทั้งสองข้างทำให้คนทั่วไปไม่ค่อยเห็นความเจ็บช้ำของบาดแผลด้านใน แต่เมื่อถึงเวลาเย็นกลับมาอยู่คนเดียว ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่เจ็บปวดทรมานมากที่สุด ไหนจะระบมจากการใช้ขามาทั้งวัน ไหนจะผ้าก๊อตติดกับแผล และฉันต้องลอกมันออกทุกวัน ไม่ว่าจะมีผลิตภัณฑ์กันผ้าก็อตติดแผลแบบไหนก็ตามมันก็ยังติดอยู่ดี
เวลาเอาออกถึงกับน้ำตาร่วง บางครั้งฉันก็น้อยใจในชะตาชีวิต ก็ผสมร้องไห้ไปซะเลย เวลานอนกลางคืน แผลสัมผัสกับผ้าห่ม หรือที่นอน ก็เจ็บปวดจนตื่นขึ้นมาระหว่างคืน หลายครั้งต่อคืน เวลานอนกว่าจะจัดท่านอน ให้แผลไม่โดนพื้นที่นอน ก็แสนจะลำบาก
ในบางครั้งที่แผลมันอักเสบมาก ฉันถึงกับลุกเดินไม่ได้ ต้องนั้งถัดตัวเองไปมาเวลาอยู่ในห้อง เพราะอาการความเจ็บปวดจะประดังเข้ามา และจะเป็นหนักมาก ในช่วงเวลาที่กลับมาจากที่ทำงาน ทำแผล พอนอนพัก เช้าตื่นไปทำงานได้ ตลอดเวลาที่เป็นโรคนี้ ฉันไม่เคยลาหยุดงานเลยสักครั้ง ถึกเป็นบ้า
จุดทรมานก็คือแผลตอนตกสะเก็ดนี่แหละ เพราะมันกินเวลานานมากกว่าจะหาย
โดยปกติทั่วไปแล้วแผลตกสะเก็ดคือใกล้หายแต่ของฉันเป็นการเริ่มต้นของความเจ็บปวด เพราะเนื้อที่หายไป มันกินเวลานานมากกว่าจะสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาจนเต็ม
แต่ในระหว่างนี้หมอให้ยาแก้ปวดเป็นยาแรงหมอบอกว่าเป็นมอร์ฟีนอ่อนๆ เพื่อลดความเจ็บปวดของฉัน ให้กินได้แต่อย่ากินมาก เดี๋ยวจะติดยาแก้ปวด ก็มันปวด หมอให้มาเท่าไหร่ฉันก็กินหมดแหละ
แต่โชคของฉันยังมีอยู่บ้าง พอดีที่ออฟฟิศฉันมีคนแนะนำให้ฉันได้พบกับซินแสยาจีนที่เยาวราช เย่ๆ ความหวังฉันกลับมาอีกครั้ง
ย้อนความไปที่ EP ก่อนๆที่ซินแสที่สุพรรณเคยบอกว่า ยาสูตรของเขามีซินแสที่สามารถจัดยาได้อีกที่ คือที่เยาวราช เมื่อทราบข่าว ฉันก็ดั้งด้นไปหาซินแสที่นี่จนได้ แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นคนเดียวกับที่ซินแสสุพรรณได้บอกไว้หรือเปล่า
ร้านนี้เป็นร้านยาจีนร้านหนึ่งในเยาวราช มีคุณหมอแผนจีนอยู่ประจำร้าน แต่ตัวท่านซินแสเองอายุมากแล้ว จะไม่ได้ลงมาตรวจด้วยตัวเอง แต่คุณหมอที่เป็นคนตรวจเป็นลูกชายของซินแสท่านนี้ การตรวจใช้วิธีตรวจโดยการแมะ คือการใช้นิ้วมือสัมผัสบริเวณข้อมือของคนไข้
ในการตรวจอาการ และการจับชีพจร บวกกับการดูร่องรอยบาดแผล คุณหมอแผนจีนแจ้งว่าฉันเป็นเกี่ยวกับการไหลเวียนเลือดไม่ดีและน้ำเหลืองเสีย ซึ่งมันเป็นพิษ ที่เป็นสะสมมานานแล้ว การล้างพิษจะต้องกินเป็นยาต้มเท่านั้น คือที่ร้านนี้มีทั้งยาต้มและยาแคปซูล คุณหมอท่านว่า ฉันต้องกินยาต้มไปซักระยะก่อนถึงจะกินยาแคปซูลได้ หรือไม่ก็จะหายได้จากการกินยาต้มอย่างเดียวเลย
ต้มก็ต้มสิ ฉันรู้สึกว่าตัวเองถูกโฉลกกับยาจีน มหกรรมการต้มยาก็กลับมาดำเนินอีกครั้งหนึ่งยาจีนเป็นสมุนไพรที่พอต้มแล้วกลิ่นยาจะหอมโชยไปทั่ว(สำหรับคนที่ชื่นชอบนะ)เวลาต้มที กลิ่นยาก็จะลอยโชยไปทั่วทั้งชั้นที่ฉันพักอยู่ ฉันเองก็รู้สึกเกรงใจเพื่อนร่วมชั้นเหมือนกัน แต่ขอรบกวนละกันนะ เออเอาสิ (ฉันว่าฉันได้ยินเขาตอบมานะ)
การกินยาจีนรอบนี้มีข้อจำกัดเยอะมาก งดเนื้อสัตว์ทุกชนิด ยกเว้นหมูเนื้อแดงที่กินได้ เนื้อปลาทุกอย่างงด ฟักแฟงงด ผักก็กินได้เป็นบางประเภท เห็ดก็ห้าม ยิ่งหน่อไม้แล้วเลิกขาดไปเลย กะทิ มะพร้าวงด ฉันก็ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดผลออกมา ว้าวมาก แผลฉันดีขึ้นมากๆ ของใหม่ก็ไม่ขึ้น เหลือแผลที่ตกสะเก็ดเพียงจุดเล็กๆอีกนิดหน่อย
จะหายแล้ว...ใช่ไหม
คุณหมอได้จ่ายผงไข่มุกโรยแผล ให้แผลสมานตัวเร็วขึ้น ฉันนึกว่ายิ้มในใจ งวดนี้ฉันหายขาดแน่นอน คริคริ สมกับการที่ฉันต้องสมบุกสมบันในการเดินทางไปซื้อยา บางครั้งก็ให้เพื่อนพาไป หลังๆก็ขึ้นรถไฟฟ้า ไปลงสถานีหัวลำโพง ต่อรถเมล์ไปลงวัดไตรมิตรเดินข้ามอีก 2 ซอยไปที่ร้านยา
ฉันกินยาแล้วดีมาก บางรอบมีกำลังใจถึงขั้นไปเดินช้อปปิ้งต่อที่เยาวราช สําเพ็ง บอกเลยว่า ช่วงนั้นรู้สึกแฮปปี้ มีกำลังใจว่าฉันจะหายขาด วาดฝันถึงการเดินทางท่องเที่ยว การย้ายงานใหม่ไปสู่ตำแหน่งที่ก้าวหน้าขึ้น การทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ทำ เพราะมีโรคนี้มาขัดขวางไว้
แต่ความฝันก็พังทลาย อาการของฉันดีขึ้นมากเกือบ 98% อยู่ดีๆอาการทั้งหมดก็วนกลับมาเป็นอีกครั้ง ทั้งจุดแดงและเริ่มเป็นแผลใหม่ๆอีก ฉันแปลกใจมากเพราะฉันก็ปฏิบัติตามที่หมอสั่งอย่างเคร่งครัด มีอย่างเดียวที่ฉันทำไม่ได้คือ ไม่เครียด
ฉันเอาบาดแผลมาให้คุณหมอแผนจีนดูอีกครั้ง คุณหมอถึงกับกุมขมับ แล้วถามว่าฉันไปทำอะไรมา ฉันก็บอกกับคุณหมอว่าไม่ได้ทำอะไร กินยา และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดแล้ว เพียงแต่ว่าเครียดเรื่องงานเท่านั้น ฉันทำให้คุณหมอถึงกับเครียด คุณหมอถึงขั้นไป search เน็ต เพื่อตรวจสอบเกี่ยวกับโรคของฉันอีกครั้ง และก็จัดยาเพิ่มตัวยา
ความฝันดับวูบ...เฮ้อออ ยังหายใจอยู่นี่นา อดทนแล้วไปต่อ...
โฆษณา