24 ส.ค. 2020 เวลา 07:41 • ไลฟ์สไตล์
การเลือกไวน์คู่กับอาหาร
Wine and food pairing
หลักการเลือกไวน์ที่เหมาะกับอาหารนั้น ขึ้นอยู่กับลักษณะและรสชาติของไวน์ ดังนี้ sweetness, acidity, tanin, alcohol และ body (ได้กล่าวไว้อย่างละเอียดในบทความที่แล้ว)
โดยมีหลักง่ายๆ ดังนี้
- ไวน์ที่มีรสหวาน(sweet) นิยมดื่มคู่กับอาหารที่มีรสชาติหวานน้อยกว่า เพื่อไม่ให้รสหวานของอาหารบดบังความหวานของไวน์แล้วทำให้รสชาติไวน์จืดลง
- ไวน์ที่มีรสเปรี้ยว(high acidity) นิยมดื่มคู่กับอาหารที่มีรสชาติเปรี้ยวน้อยกว่า หรืออาหารรสเค็ม จะทำให้รสเปรี้ยวของไวน์เด่นขึ้นมา
- ไวน์ที่มีรสฝาดขม(high tannin) นิยมดื่มคู่กับอาหารที่มีรสชาติมัน เพราะความฝาดของไวน์จะช่วยล้างปาก เพื่อลดความเลี่ยนของอาหารมัน แต่ไม่เหมาะกับรสเผ็ดเพราะจะทำให้มีรสขมมากขึ้น และไม่เหมาะกับอาหารทะเล เพราะจะคาวมากกว่าเดิม
- ไวน์ที่มีเนื้อหนัก(full body) นิยมดื่มคู่กับอาหารที่มีเนื้อหนักๆ จำพวกเนื้อแดง เช่น สเต๊กเนื้อวัวหรือเนื้อแกะ เนื้อรมควัน แฮมเบอร์เกอร์ คอหมูย่าง และไวน์ที่มีเนื้อเบา(light body) นิยมดื่มคู่กับอาหารที่มีเนื้อเบาๆ จำพวกเนื้อขาว เช่น เนื้อไก่ หรือเนื้อปลา ยำ ผักสลัด
- ส่วนปริมาณแอลกอฮอล์ในไวน์ไม่ได้มีผลทางตรงกับรสชาติของอาหารมากนัก แต่จะไปมีผลทางอ้อมในเรื่อง body ของไวน์ โดยยิ่งปริมาณแอลกอฮอล์มาก ไวน์ยิ่งมี body ที่หนักมากขึ้น
คุณอาจเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า “ไวน์แดง เหมาะกับอาหารประเภทเนื้อแดง ส่วนไวน์ขาวเหมาะกับอาหารประเภทเนื้อขาว“ คำกล่าวนี้ถือได้ว่า ถูกต้องบางส่วนเท่านั้น โดยใช้การอนุมานที่ว่า ไวน์แดงทั่วๆไป มักมีรสฝาดเด่น(high tannin) เปรี้ยวน้อย(low acidity) หวานน้อย(dry) และเนื้อไวน์หนัก(full body) จึงเหมาะกับ. สเต๊กเนื้อแดง เช่น เนื้อวัวหรือเนื้อแกะ เป็นไปตามหลักการที่ได้กล่าวไปข้างต้น ส่วนไวน์ขาว ไวน์โรเซ่ และ สปาร์คกลิ้งไวน์ มักมีรสเปรี้ยวเด่น หวานตาม และฝาดน้อย เนื้อไวน์เบา จึงเหมาะกับอาหารเนื้อเบาๆ เช่น เนื้อปลาหรือเนื้อไก่ ความเปรี้ยวของไวน์เปรียบได้กับการบีบมะนาวลงในสเต๊กปลาเพื่อเพิ่มรสชาติของเนื้อปลา
ในความเป็นจริงนั้น ไวน์แดงและไวน์ขาวไม่ได้มีลักษณะแบบนั้นเสมอไป เช่น ไวน์แดงหลายๆชนิด ก็มีเนื้อที่เบากว่าไวน์ขาว ดังนั้น คุณจึงควรให้ความสำคัญกับลักษณะและรสชาติของไวน์มากกว่าประเภทของไวน์
เพื่อให้ง่ายต่อการจับคู่ไวน์กับอาหาร คุณสามารถเลือกชนิดของไวน์คู่กับอาหาร ตามแนวทางต่อไปนี้ได้เลย
ไวน์แดง(Red wine)
- Cabernet Sauvignon เป็นไวน์แดง full body, high tannin เหมาะกับสเต๊กเนื้อแกะ สเต๊กเนื้อวัว แฮมเบอร์เกอร์เนื้อ เนื้อรมควัน คอหมูย่าง หมูปิ้ง
- Syrah เป็นไวน์แดง full body, medium tannin เหมาะกับสเต๊กเนื้อแกะ สเต๊กเนื้อวัว แฮมเบอร์เกอร์เนื้อ เนื้อรมควัน คอหมูย่าง หมูปิ้ง
- Pinot Noir เป็นไวน์แดง light body, high acidity, low tannin เหมาะกับเนื้อไก่ หมู เป็ด ไส้กรอก แฮม หมูยอ แซลมอน ทูน่า ผักย่าง
ไวน์ขาว(White wine)
- Chardonnay เป็นไวน์ขาว full body, medium acidity, dry เหมาะกับไก่ เนื้อหมู เห็ด อาหารทะเล เช่น กุ้งลอบสเตอร์ กุ้ง หอย ปู ปลา พาสต้า สปาเกตตี ผักสลัดที่ใส่น้ำสลัดรสจัด
- Sauvignon Blanc เป็นไวน์ขาว light/medium body, dry, high acidity เหมาะกับเนื้อไก่ หมู อาหารทะเล เช่น กุ้ง หอย ปู ปลา อาหารเวียดนาม ผักสลัด พาสต้า สปาเกตตี
- Riesling เป็นไวน์ขาว light body, high acidity, sweet เหมาะกับเนื้อไก่ ไก่งวง ไส้กรอก แฮม หมูยอ อาหารไทย อาหารอินเดีย อาหารทะเล ผักสลัด พาสต้า สปาเกตตี
สปาร์คกลิ้งไวน์(Sparkling wine)
โดยทั่วไปสปาร์คกลิ้งไวน์ มักถูกนำมาดื่มในงานเลี้ยงฉลองต่างๆ แต่หากนำมาดื่มร่วมกับอาหารก็สามารถเข้าได้กับอาหารหลากหลายประเภท โดยเฉพาะอาหารรสเค็มและอาหารทอด อาหารเผ็ด เนื่องจากความซ่าของไวน์ตัดรสชาติ เค็ม เผ็ดของอาหารได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังเข้าได้ดีกับผักย่างและปลาอีกด้วย
ไวน์โรเซ่ (Rosé wine) ดื่มคู่กับอาหารใกล้เคียงกับไวน์ขาว แต่หนักไปทางไวน์แดงเพิ่มขึ้น เช่น ไก่ย่าง และ อาหารทะเลเผ็ดๆ
ไวน์หวาน(Dessert wine)
เป็นไวน์ที่มีความหวานมากกว่าปกติ เช่น Ice wine, Sauternes เหมาะกับชอคโกแลต ขนมเค้ก ขนมปัง ผลไม้ต่างๆ
หลักการเหล่านี้เป็นเพียงวิธีเบื้องต้นที่ช่วยให้คุณเลือกไวน์ได้เหมาะกับอาหารจานโปรดของคุณ แต่ท้ายที่สุดแล้ว การเลือกไวน์ให้เข้ากับอาหาร ไม่มีกฎตายตัว เพราะเป็นเรื่องของความชอบมากกว่า ถ้าคุณยังไม่มั่นใจในการเลือกซื้อไวน์ สามารถขอคำแนะนำจาก sommelier ประจำร้านได้ครับ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ เรื่องของไวน์ยังมีอะไรที่สนุกอีกมากครับ หวังว่าคุณจะได้รับประโยชน์จากบทความนี้ไม่มากก็น้อย
โปรดติดตาม เกร็ดความรู้เรื่องไวน์ ไปกับ Wine story ในบทความหน้า
แล้วพบกันครับ
Wine story by Dr.Art
โฆษณา