30 ส.ค. 2020 เวลา 03:00 • ประวัติศาสตร์
หนทางสู่แดนศักดิ์สิทธิ์! เรื่องน่ารู้ของ 'การแสวงบุญ' ในยุคกลาง
WIKIPEDIA PD
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
การแสวงบุญในยุคกลางนั้นเป็นการอุทิศแก่พระเจ้าและความตั้งใจแนวแน่ด้วยศรัทธาอันแรงกล้า ต้องเดินทางไกลไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างนครเยรูซาเล็มหรือกรุงโรม เมื่อเรามองลึกลงไปในรายละเอียดแล้วจะพบเรื่องราวที่น่าสนใจอยู่มากมาย
1. ในการเดินทางไปแสวงบุญที่ยุคกลางนั้น โบสถ์โรมันคาทอลิกจะมีการติดเข็มกลัดไว้บนเสื้อผ้า หมวก หรือผ้าพันคอเพื่อแสดงถึงเส้นทางที่ได้ไปเดินทางไปแสวงบุญมา แต่ที่แปลกคือจะมีเข็มกลัดที่แสนจะอีโรติกอยู่ด้วยโดยจะเป็นสัญลักษณ์อวัยวะเพศของทั้งหญิงและชายในหลากหลายรูปแบบที่จะจินตนาการกันได้
การใช้เข็มกลัดอีโรติกเป็นเครื่องหมายนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่ามีจุดประสงค์อะไร แต่มีข้อสันนิษฐานว่ามันอาจจะถูกขายในงานงานรื่นเริงแต่บางข้อสันนิษฐานก็ว่าอาจจะเป็นเพราะต้องการแสดงอิสระทางเพศสำหรับการแสวงบุญบางรูปแบบ
2. การเดินทางแสวงบุญนั้นต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะไปให้ถึงยังที่หมายอันศักดิ์สิทธิ์ ทำให้หลายคนไม่อยากกลับบ้านมือเปล่า จึงมีผู้แสวงบุญบางคนได้ทำการหยิบฉวยสิ่งของจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มาเป็นที่ระลึก ซื้อของที่ระลึกจากศาลเจ้าหรือวัด หรือบางคนก็หยิบดินกลับบ้านมาด้วย
3. การเป็นตัวแทนเดินทางไปแสวงบุญสำหรับผู้ที่ไม่สามารถเดินทางไปได้นั้นได้รับความนิยมในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 12 เช่น ภรรยาของช่างทำขนมปังไม่สามารถเดินทางไปแสวงบุญได้เนื่องจากข้อเท้าบวม ดังนั้นผู้เป็นสามีจึงได้เดินทางไปแสวงบุญยังเทวาคารนักบุญวิลเลียมแทน หรืออิซาเบลแห่งบาวาเรียมีความกังวลว่าสุขภาพของเธอนั้นจะทำให้เธอไม่สามารถไปแสวงบุญได้ เธอจึงส่งตัวแทนหลายคนไปเดินทางแสวงบุญแทนเธอทั่วฝรั่งเศสและนำเทียนไปทั้งหมด 15 เล่มเพื่อไปอธิษฐานแทนเธอเป็นเวลา 15 วันอีกด้วย
123RF
4. การเดินทางแสวงบุญนอกจากการกระทำไปด้วยความเต็มใจแล้วยังเป็นหนึ่งในบทลงโทษด้วย โดยในคริสต์ศตวรรษที่ 13 ผู้พิพากษามีการตัดสินให้ผู้ที่ก่ออาชญากรรมชดใช้ความผิดด้วยการไปเดินทางแสวงบุญ และยิ่งเป็นที่นิยมในคริสต์ศตวรรษที่ 14 ในประเทศอย่างฝรั่งเศสและอิตาลี โดยประเทศเบลเยียมมีการตัดสินให้ผู้ก่ออาชญากรรม 1,367 รายเดินทางไปแสวงบุญยัง 133 สถานที่ศักดิ์สิทธิ โดยจะต้องสวมสัญลักษณ์ไม้กางเขนสีเหลืองทั้งด้านหน้าและด้านหลังตลอดการเดินทาง นอกจากนี้ยังต้องนำสัญลักษณ์จากสถานที่นั้นๆ กลับมาเพื่อแสดงว่าได้เดินทางไปจริงกลับมาด้วย
5. สำหรับบุคคลที่ยากจนเกินกว่าจะเดินทางไปแสวงบุญได้ก็มิใช่ปัญหา เพราะพวกเขาสามารถแสวงบุญจากที่บ้านได้โดยให้จินตนาการว่าได้เดินทางไปแสวงบุญยังสถานที่ต่างๆ
123RF
6. ในคริสต์ศตวรรษที่ 13 การเดินทางแสวงบุญทางบกไปยังเส้นทางศักดิ์สิทธิ์ของคริสเตียนนั้นค่อนข้างมีอันตราย ทำให้มีคริสเตียนจำนวนน้อยที่จะเลือกเดินทางแสวงบุญทางนี้
แต่มีพ่อค้าชาวเวนิสหัวใสที่ควบคุมทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทางการของตะวันออกกลางได้เสนอทัวร์ไปกลับในการแสวงบุญโดยประกอบไปด้วยไกด์นำทาง การชมสถานที่สำคัญในอียิปต์และการคุ้มครอง เปรียบเทียบได้ประหนึ่งแพ็คเกจทัวร์ในปัจจุบันเลยทีเดียว
7. เป็นเรื่องปกติที่จะมีการสักเป็นรูปไม้กางเขนที่แขนในการเดินทางแสวงบุญยังเยรูซาเลมและเบธเลเฮมเพื่อเป็นหลักฐานว่าได้เดินทางไปแสวงบุญ ณ ที่แห่งนี้จริงและแสดงถึงข้อผูกพันกับพระเจ้า
นอกจากนี้รอยสักไม้กางเขนนี้ยังช่วยให้ปลอดภัยในการเดินทางกลับบ้านอีกด้วย เพราะถ้าต้องพบเจอกับโจร เพียงแสดงรอยสักนี้ก็จะทำให้โจรทราบว่าเป็นผู้เดินทางแสวงบุญ ก็จะให้จ่ายค่าไถ่และปล่อยให้เป็นอิสระในทันที
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา