9 ก.ย. 2020 เวลา 23:35 • ปรัชญา
อยากจะอุปถัมภ์พระพุทธศาสนาให้ถูกทาง เริ่มด้วย R&D:
ภาพที่เห็นคือภาพเด็กๆ ในอังกฤษพากันเข้าไปศึกษาพระพุทธศาสนาในวัด เท่าที่เคยคุยกับชาวอังกฤษหลายหน เด็กๆ อังกฤษจะมุ่งเน้น ๒ เรื่องคือนิทานชาดกและสมาธิ สองอย่างนี้เป็น *จุดขาย* ของพระพุทธศาสนาในอังกฤษทีเดียว
ส่วนเด็กๆ ชาวไทยพ่อแม่พาไปเดินตามห้าง ห่างออกจากวัดทุกที ที่เป็นเช่นนี้เพราะสมัยหนึ่ง รัฐบาลอเมริกามองว่าพระพุทธศาสนาขวางการพัฒนาทุนนิยมเสรีในประเทศไทย กลัวประเทศไทยจะเป็นสังคมนิยมตามเวียตนามและลาว ไม่เป็นทุนนิยมเสรีเหมือนตน แล้วตนก็จะหาประโยชน์จากไทยได้ยาก
จากนั้น อเมริกาก็ส่งนักวิจัยจากอินเดียน่าและคอร์แนลมาลงพื้นที่ศึกษาเพื่อปูทางให้ทุนนิยมเจริญและกำหนดเป็นนโยบายสังคมมาเคลื่อนไหวในประเทศไทย นักวิชาการไทยสายโปรอเมริกาก็สนับสนุนด้วย สุดท้าย วิชาพระพุทธศาสนาก็ค่อยๆ หายไปจากหลักสูตรกระทรวงฯ เพราะอเมริกามองว่าขวางการพัฒนาทุนนิยมในประเทศไทย
นักวิชาการชาวพุทธไทยจำนวนมากไม่ค่อยรู้ด้วยซ้ำครับว่าทำไมวิชาพระพุทธศาสนาถึงค่อยๆ หายไปจากสังคม เพราะส่วนใหญ่ไปมุ่งทำงานวิจัยลวกๆ เพื่อขอตำแหน่งวิชาการแล้วอวดกันไป ไม่ได้ตั้งใจทำงานเพื่อแก้ปัญหาให้พระพุทธศาสนาจริงๆ ชาวพุทธในประเทศไทยจึงตกเป็นฝ่ายตั้งรับ โดยไม่รู้ว่าศัตรูของตนเองคือใคร
ผมใช้ศูนย์พุทธศาสนศึกษาญาณสังวรจัดประชุมและเล่าให้แกนนำชาวพุทธหลายองค์กรฟังมาหลายปีว่าการวิจัยเพื่อพัฒนาพระพุทธศาสนา (R&D) เป็นสิ่งจำเป็น แต่ชาวพุทธรวยๆ ก็ยังพากันไปทุ่มเทบริจาคสร้างแต่ถาวรวัตถุ ตึกรามใหญ่โตถวายวัดอยู่ ไม่ค่อยสนใจส่งเสริมการวิจัยเฉพาะกิจเพื่อ พัฒนากิจการพระพุทธศาสนาเท่าไหร่ เศรษฐีหลายคนภรรยาไม่สนับสนุนการวิจัยก็มี
ผมเป็นนักวิชาการ ทำได้ก็แค่ชี้แนะแนวทางเท่านี้แหละครับแม่จำเนียร พระพุทธศาสนาจะมั่นคงในประเทศไทยหรือไม่ ขึ้นกับความสามัคคีในการทำงานจรรโลงพระพุทธศาสนาของพุทธบริษัท
ถ้าใครมีฤทธิ์หรือกำลังวังชามาก อยากจะรู้ว่าควรทำอย่างไร พระพุทธศาสนาจะมั่นคงในประเทศไทย มานั่งคุยกับผมก็ได้ครับ ผมจะบอกวิธีเท่าที่ท่านจะสามารถทำได้ด้วยกำลังของท่านนั่นแหละครับ
@ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์
โฆษณา