11 ก.ย. 2020 เวลา 02:42 • ธุรกิจ
ผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบไปนั่งทานชาบูที่ร้านชาบูปิ้งย่างเหมือนใครหลายคน
ซึ่งผมเองก็มีร้านประจำอยู่ร้านหนึ่งอยู่ตรงย่านนนทบุรี โดยร้านนี้เป็นร้านแรกและร้านเดียวที่ผมเคยไปทานตั้งแต่ย้ายเข้ามาทำงานที่กรุงเทพฯ ตลอด 1 ปี ครึ่ง
ด้วยความที่ร้านนี้ราคาไม่แพง ราคาเริ่มต้นที่ 259 บาท (ไม่รวมน้ำ) บวกกับน้ำจิ้มค่อนข้างถูกปากจึงทำให้ผมสามารถไปกินบ่อยๆ ได้ โดยไม่หนักกระเป๋าเงินมากนัก​
แต่สิ่งหนึ่งที่ผมไม่ค่อยชอบเกี่ยวกับร้านนี้เท่าไหร่ก็คือ การพูดจา ของเจ้าของร้าน ที่ชอบพูดกระแทกเสียงใส่ และ ชอบต่อว่าลูกน้องเวลาทำอะไรผิดพลาดต่อหน้าลูกค้าที่กำลังนั่งทานกันอยู่
แต่ทว่า การพูดจาของเจ้าของร้านก็ดีขึ้นมา ตั้งแต่ไวรัส COVID-19 ระบาด เนื่องจากร้านอาหารถูกรัฐบาลสั่งผิดทั้งหมด ร้านชาบูแห่งนี้จึงต้องขายแบบ Delivery ซึ่งแน่นอนว่ายอดขายตก เพราะคนที่จะสั่งมาชุดชาบูมาทานที่บ้านได้ จะต้องมีหม้อต้มชาบู ซึ่งไม่ได้มีกันทุกคน
แต่ด้วยความที่ผมมีหม้อต้มชาบูอยู่ จึงยังสั่งชุดชาบูจากร้านนี้มาทานที่บ้านอยู่เหมือนเดิม ซึ่งเวลาไปรับอาหารที่ห่อใส่ถุงเพื่อหิ้วกลับบ้าน เจ้าของร้านคนเดิมจะพูดจาดีมาก เรียกได้ว่าพูดหวานเลยแหละ
ซึ่งมันทำให้ความรู้สึกผมดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะ และคิดในใจว่า เขาคงเข้าใจแล้ว ว่าสุดท้ายคนที่ทำให้เขาอยู่รอดก็คือลูกค้า ต่อไปเขาคงจะพูดจาดีๆ กับเรา
แต่เมื่อรัฐบาลเริ่มคลายล็อคมาตรการต่างๆ และอนุญาตให้ร้านอาหารกลับมาเปิดทำการปกติ ก็เริ่มมีลูกค้ามาทานที่ร้านมากขึ้น รวมถึงผมเองก็เข้าไปทานด้วยเช่นกัน
แต่ไม่รู้ว่าวันนั้นเป็นวันอะไร เจ้าของร้านเริ่มกลับมาไม่สบอารมณ์ พูดจากระแทกเสียงเหมือนเดิม ซึ่งในระหว่างที่ผมนั่งทานอยู่ แม่ค้าก็เดินไปเดินมารอบร้าน และพูดว่า ทานไม่หมดปรับนะคะ เวลาเดินผ่านโต๊ะลูกค้า ซึ่งพูดหลายรอบมาก ซึ่งผมเองมีความรู้สึกเหมือนโดนกดดันยังไงบอกไม่ถูก
และเมื่อทานเสร็จ ผมก็เดินไปจ่ายเงิน ที่เคาน์เตอร์ ซึ่งผมเองยอมรับว่าทานเหลือนิดหน่อย โดยส่วนใหญ่จะเป็นผัก และ เนื้อประมาณ 4-5 ชิ้น ในหม้อชาบู แต่ก็ถือว่าน้อยกว่าทุกครั้งที่มาทาน
และอยู่ๆ เจ้าของร้านก็พูดขึ้นมาแบบกระแทกเสียงว่า “ทานไม่หมดปรับคนละ 100 นะคะ ทั้งหมด 2 คน รวมเป็น 200 ค่ะ”
ซึ่งผมก็ยืนอึ้งไม่ได้พูดอะไร แต่ก็คิดในใจว่า “คุณจะได้เงินผมไปครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย”
โอเคผมยอมรับว่าทานเหลือ แต่การปรับของเขา 200 บาท มันมากเกินไป เพราะมันเกือบจะครึ่งนึงของค่าแรงที่เราทำงานเลย แถมไม่ได้มีคำอธิบายเลย ว่าทำไมถึง 200 เพราะปกติร้านอื่นๆ ที่ผมเคยไปส่วนใหญ่จะปรับขีดละ 50 บาท
เอาจริงๆ ผมไม่ได้เสียดายเงิน 200 ที่โดนปรับ แต่มันเสียความรู้สึก ที่เราก็อุดหนุนเขามาตลอดแม้ในช่วงที่ร้านเขาขายไม่ดี และไม่ได้รับคำอธิบายว่าปรับเพราะเหลือเท่าไหร่ และคิดค่าปรับยังไง ตามน้ำหนัก หรืออย่างไร แถมยังพูดจากระแทกเสียงใส่อีก
หลังจากวันนั้นผมไม่ทานชาบูเลยประมาณเกือบ 2 เดือน เพราะหาร้านที่ถูกใจไม่ได้
แต่วันหนึ่งผมก็ขับรถผ่านร้านชาบูแห่งหนึ่ง ซึ่งไม่ไกลจากร้านแรกมาก ชื่อว่าร้าน Haris' premium buffet สาขานนทบุรี ราคาเริ่มต้นที่ 399 บาท แพงกว่าร้านแรกนิดหน่อย แต่รวมน้ำ รวมทุกอย่างแล้ว ไม่บวกเพิ่ม
ผมก็เลยเอาว่ะ เข้าไปจัดซะหน่อย อยากกินมานานแล้ว…
และทันทีที่ผมเดินมาที่ประตูร้าน ผมก็พบกับพนักงานต้อนรับที่กล่าวทักทาย และ พูดคุยด้วยความสุภาพและเสียงอันนุ่มนวล ซึ่งมันทำให้ผมประทับใจตั้งแต่วินาทีแรก
ซึ่งร้านนี้คนเยอะมาก ผมไม่ได้จองไว้ จึงต้องรอคิวไปตามระเบียบ แต่ด้วยความที่อยากกิน และความประทับใจแรก ก็เลยเต็มใจรอ
เมื่อได้คิวและได้เข้าไปนั่งที่โต๊ะแล้ว ก็มีพนักงานหยิบเมนูมาให้เลือกด้วยหน้าตาที่ยิ้มแย้ม พร้อมอธิบายความแตกต่างของเเต่ละ Set ซึ่งมีตั้งแต่ 399 ที่เป็นเนื้อไทย, 499 จะเป็นเนื้อเกรด A, 699 ที่จะเป็นเนื้อวากิว และ 799 ที่เป็นเนื้อวากิวเกรดพรีเมี่ยมที่ดีที่สุดของร้าน และ ซูชิพรีเมี่ยมแบบจัดเต็ม
ซึ่งผมก็เลือกแพงสุด 799 แบบไม่ต้องคิดเลย เพราะไม่ได้กินมานาน การบริการก็ดี ไหนๆ ก็มาแล้ว เอาที่ดีที่สุดไปเลย
เมื่อเลือกเสร็จแล้ว เหมือนพนักงานจะรู้ว่าของมันมีหลายอย่าง จนเราคงไม่รู้จะสั่งอะไร เพราะไม่เคยทาน เขาก็เลยบอกว่าจะสั่งมาให้ อย่างละ 2 ชุด เพื่อให้เราลองกินก่อน ถ้าชอบอันไหนค่อยสั่งเพิ่ม คือ ประทับใจไปอีก
จากนั้นรอไม่นาน ของก็มาเสริฟที่โต๊ะ โดยขณะที่กำลังเสริฟอาหาร พนักงานจะอธิบายว่าอาหารแต่ละอย่างชื่ออะไร เป็นอะไร ทำอย่างไร ด้วยน้ำเสียงที่สุภาพมากๆ
ซึ่งเมื่ออาหารเสริฟครบผมก็จัดการกินอย่างเอร็ด อร่อย แถมยังมีต้มเล้งซึ่งอร่อยมากๆ ให้สั่งทานได้ไม่อั่นอีกต่างหาก
ซึ่งในขณะที่กำลังทาน พนักงานก็จะคอยดูตลอดว่าน้ำในแก้วเราหมดหรือยัง ถ้าหมดจะเติมให้ และถามเสมอว่าเราอยากได้อะไรเพิ่มหรือเปล่า ทุกคนที่เดินผ่านโต๊ะ ถ้าเรียกจะพร้อมมาให้บริการด้วยท่าทางสุภาพ
ไม่เหมือนบางร้านที่พอเราสั่งก็เดินผ่านไปหยิบอาหารมาให้เลย แล้วก็เดินออกไป คือ ไม่ได้ตอบอะไรกลับมา เราเลยไม่รู้ว่าเขาได้ยินที่เราพูดไหม
และที่สำคัญเมนูสุดท้ายที่เรามักจะกินหลังจากทานชาบูเสร็จก็คือ ไอศกรีม ซึ่งหลายคนคงคุ้นเคยกับ การตักไอศกรีมที่ต้องใช้แรงตักจนกล้ามขึ้นอย่างกับเล่นฟิตเนส
แต่กับที่นี่ ไอศกรีมของเขา มาเป็นถ้วยอย่างกับไอศกรีม วอลล์ ที่เพิ่งออกจากตู้เลยล่ะ
แน่นอนว่าผมได้รับการบริการที่ดีตลอดจนรับประทานอาหารเสร็จ ซึ่งของที่สั่งมา เหลือค่อนข้างเยอะ เพราะในเมนูมีหลายอย่างเกิน มันอยากจะกินทุกอย่าง แต่ก็ไม่ได้โดนปรับอะไร แถมหนักงานก็ยังเดินไปส่งจนถึงประตูจนผมออกจากร้านไป พร้อมบอกลาอย่างสุภาพ
ผมบอกตามตรงว่า ผมไม่เคยได้รับการบริการจากร้านชาบูที่ดีอย่างนี้มาก่อนเลย คือ สัมผัสได้เลยว่าพนักงานทุกคนบริการด้วยใจ ไม่ใช่แค่เพราะหน้าที่
คือ การบริการเทียบเท่าหรือดีกว่าเวลาไปทานอาหารที่โรงแรม 5 ดาว ด้วยซ้ำ
ซึ่งส่วนตัวผมคิดว่า เจ้าของร้านต้องดูแลลูกน้องดีมากแน่ๆ
เพราะส่วนใหญ่ถ้าที่ไหนพนักงานบริการลูกค้าไม่ดี ก็มักจะมาจากการที่หัวหน้าดูแลลูกน้องไม่ดีมาตั้งแต่แรก
และแน่นอนว่าร้านชาบูแห่งนี้ จะมีผมเป็นลูกค้าประจำเพิ่มอีกคนอย่างแน่นอน ที่สำคัญผมตั้งใจไปกิน Set ที่แพงสุดทุกครั้ง เพราะมันอร่อยจนลดไปกิน Set ที่ถูกกว่านี้ไม่ได้แล้ว
สิ่งที่ผมกำลังจะบอกจากเรื่องนี้ คือ
- ลูกค้าส่วนใหญ่จะยอมจ่ายแพงกว่าเสมอเพื่อให้ได้บริการที่ดีกว่า มากกว่า การจ่ายถูกแต่ได้บริการแย่ๆ กลับมา โดยเฉพาะคนไทยที่ชอบเรื่องการบริการมากๆ
- หัวใจของการบริการที่ดี คือ การอยากเห็นผู้รับมีความสุขจากสิ่งที่เราทำให้ มันไม่มีอะไรไปมากกว่านั้นจริงๆ เหมือนอย่างที่ผมสัมผัสได้จากร้านนี้ ว่ามันมาจากใจ
- การบริการที่ดีสามารถทำให้ของธรรมดา กลายเป็นสิ่งพิเศษได้ ซึ่งมันสร้างความประทับใจได้มหาศาลมากกว่าของราคาแพง เพราะลูกค้าจะบอกต่อคุณในทางที่ดี เหมือนบทความนี้ที่ผมบอกต่อแบบฟรีๆ ไม่คิดค่าโฆษณาใดๆ
- มองอีกมุม การบริการที่ดี ก็ทำให้ของธรรมดาสามารถขายในราคาแพงได้เหมือนกัน เหมือนอย่างที่ผมใช้กับบริการแนะนำหนังสือ ที่ทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่เต็มใจจ่าย แม้ผมไม่ได้ลดราคา เพราะคนมองข้ามเรื่องราคาไปแล้ว
- ของกิน ของใช้ มีวันหมดไป แต่บริการจะคงอยู่ในใจตลอดไป
คนไทย กับ คนญี่ปุ่น คือ สองชาติที่บริการได้ดีที่สุดในโลก เพราะมีอยู่ใน DNA
เพราะฉะนั้น ถ้าใครกำลังจะทำธุรกิจ ก็จงใช้มันให้เป็นประโยชน์
เหมือนอย่างร้าน Haris’ พรีเมียม บุฟเฟ่ต์ ที่มีคนไทยเป็นผู้ให้บริการในร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่น
จึงไม่แปลกที่ร้านนี้ จะเป็นร้านที่บริการดีที่สุด ตั้งแต่ผมเคยกินมา...
ปล.ย้ำอีกครั้งบทความนี้ไม่ได้รับโฆษณามา ผมชอบ ผมรัก จึงอยากเขียน...
#Harisพรีเมียมบุฟเฟ่ต์ #ชาบู #shabu
โฆษณา