12 ก.ย. 2020 เวลา 04:21 • ข่าว
ประธานาธิบดีทรัมป์ ของสหรัฐ ยืนยัน ไม่มีการขยายกำหนดเวลาที่ให้ ByteDance ขายกิจการ TikTok ในสหรัฐ ภายใน 15 ก.ย. นี้ / ปธน.ทรัมป์ กดดันให้ 9 บริษัทยายักษ์ใหญ่ของโลก เร่งผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 ออกมาให้ทันก่อนเลือกตั้ง 3 พฤศจิกายนนี้ เพื่อเรียกคะแนนเสียง / อิสราเอลเตรียมทดลองวัคซีนต้านโควิด-19 ทางคลินิกเป็นครั้งแรก ในเดือนต.ค.นี้ / ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกพุ่งสูงขึ้นทะลุ 28.65 ล้านคน และเสียชีวิตกว่า 9.19 แสนราย / ไทยพบนักฟุตบอลติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ 1 ราย !!!
Photo: Getty Images
เมื่อคืนนี้ (11 ก.ย.) ดัชนี Dow Jones ตลาดหุ้นสหรัฐ ปิดตลาดปรับตัวขึ้น 131.06 จุด หรือ 0.48% ปิดตลาดที่ 27,665.64 จุด ขณะที่ ดัชนี S&P 500 ปรับตัวบวกขึ้นมา 0.05% ปิดตลาดที่ 3,340.97 จุด ส่วนดัชนี Nasdaq ปรับตัวร่วงลง 0.6% ปิดที่ 10,853.55 จุด
ล่าสุด กระทรวงแรงงานสหรัฐได้รายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ พบว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา ปรับตัวขึ้น 0.4% ลดลงจากในช่วงเดือนก่อนหน้า หลังจากที่มีการปรับเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนช่วงเดือน มิ.ย.และ ก.ค. ที่ผ่านมา แต่ถ้าหากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ดัชนี CPI เดือน ส.ค. ปรับตัวขึ้น 1.3%
ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังคงจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของทางธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ในช่วงสัปดาห์หน้า วันที่ 15-16 ก.ย.นี้ หลายฝ่ายคาดว่า FED เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับเครื่องมือทางการเงินเป้าหมายเงินเฟ้อเฉลี่ยมากขึ้น เนื่องจากเครื่องมือทางการเงินดังกล่าวถือเป็นการประกาศปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินครั้งสำคัญของ FED โดยจะเป็นการเปิดทางให้เงินเฟ้อมีการปรับตัวมากขึ้น เพื่อหนุนตลาดแรงงานและเศรษฐกิจสหรัฐ
Officials are set to release after their meeting next Wednesday new economic and interest rate projections that run through 2023. PHOTO: BILL O'LEARY/CNP/ZUMA PRESS
ทางด้านราคาทองคำย่อตัวลงเล็กน้อย หลังนักลงทุนผิดหวังที่ทางธนาคารกลางยุโรป (ECB) ไม่ได้มีการประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในการประชุมเมื่อวานนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจยูโรโซนฟื้นตัวขึ้นมาได้อย่างแข็งแกร่ง และคาดการณ์ว่าในปีนี้เศรษฐกิจยุโรปจะหดตัวน้อยกว่าที่คาด โดยคาดการณ์เศรษฐกิจของยูโรโซนมีแนวโน้มหดตัวลง 8.0% ขณะที่ ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือน มิ.ย. ว่าจะหดตัวลง 8.7% ในปีนี้
ทั้งนี้ หากมองในภาพรวมทั้งสัปดาห์ ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นมา โดยได้รับแรงหนุนจากความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงอย่างมาก
ทางด้านสัญญาน้ำมันดิบปิดตลาดปรับตัวขึ้น แต่ตลาดยังคงถูกกดดันจากการที่ทางสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐ เพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลง 500,000 บาร์เรล โดยก่อนหน้านี้ สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ได้เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐ เพิ่มขึ้น 3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
ขณะเดียวกัน ทางด้านสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ได้มีการปรับลดตัวเลขคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันดิบโลกในปีนี้ลงกว่า 210,000 บาร์เรลต่อวัน สู่ระดับ 8.32 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ทางด้านความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐเริ่มทวีความตึงเครียดมากขึ้นต่อเนื่อง หลังประธานาธิบดีทรัมป์ ของสหรัฐ ยืนยันว่า จะไม่มีการขยายกำหนดเวลาที่ให้ ByteDance ขายกิจการ TikTok ในสหรัฐ โดยมีกำหนดเส้นตายในวันที่ 15 ก.ย. นี้
โดยทาง ByteDance จะต้องขายกิจการ TikTok ในสหรัฐ ให้กับบริษัทอเมริก้น ไม่เช่นนั้น TikTok จะถูกสั่งปิดในสหรัฐ เนื่องด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ และด้านความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ แต่ก็มีแนวโน้มว่าทาง ByteDance จะไม่สามารถขายกิจการ TikTok ในสหรัฐได้ทันกำหนด หลังจากที่ทางการจีนได้มีการปรับเปลี่ยนกฎระเบียบควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีใหม่ ทำให้การขายกิจการ TikTok นั้นเป็นไปด้วยความยากลำบากอย่างมาก
President Donald Trump speaks to the media before boarding Air Force One yesterday. Evan Vucci/AP
เมื่อวันก่อน ปธน.ทรัมป์ ได้พยายามกดดันและเร่งให้บริษัทผู้ผลิตวัคซีนเร่งทำการพัฒนาและการผลิตวัคซีนโควิด-19 ออกมาให้ทันก่อนวันเลือกตั้งในวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้ เพื่อเรียกคะแนนเสียงกลับมาให้ได้
แต่ทางด้านบริษัทยาชั้นนำของโลก 9 แห่ง ได้แก่ AstraZeneca, BioNTech, Moderna, Pfizer, Novavax, Sanofi, GlaxoSmithKline, Johnson & Johnson และ Merck กลับปฏิเสธที่จะทำตามคำเรียกร้องของปธน.ทรัมป์ และได้หันมาร่วมกับเซ็นสัญญาว่า ทุกบริษัทจะต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของวัคซีนเป็นอันดับแรก ต้องมีการตรวจสอบอย่างเคร่งครัด โดยไม่มีการแข่งขันกัน และจะไม่มีการลดระยะเวลาและขั้นตอนการทดลองเด็ดขาด
โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัท AstraZeneca ที่ร่วมมือกับทางมหาวิทยาลัย Oxford ทดลองและพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ได้สั่งระงับการทดสอบวัคซีนต้านโควิด-19 เฟส 3 ชั่วคราว หลังจากมีรายงานพบว่า มีหนึ่งในอาสาสมัครเกิดอาการป่วยรุนแรง โดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งก็ได้สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนทั่วโลกว่าการพัฒนาและผลิตวัคซีนโควิด-19 อาจเกิดความล่าช้ามากขึ้นไปอีก
ขณะที่ ทางด้านศูนย์การแพทย์ (Sheba Medical Center) ในอิสราเอล เตรียมทำการทดลองวัคซีนต้านโควิด-19 ทางคลินิกเป็นครั้งแรก ในเดือนต.ค.นี้ โดยจะมีการใช้อาสาสมัครจำนวนมากถึง 100 คน โดยจะทำการทดลองที่โรงพยาบาลชีบา (Sheba hospital) และศูนย์การแพทย์ฮาดาสซาห์ (Hadassah Medical Center) ในเมืองเยรูซาเล็ม
สำหรับตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกล่าสุด (12 ก.ย.) พุ่งสูงขึ้นทะลุ 28.65 ล้านคน และเสียชีวิตแล้วกว่า 9.19 แสนราย โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่รายวันทั่วโลกพุ่งขึ้นกว่า 2 แสนรายต่อวัน ขณะที่ ตัวเลขผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯ ยังคงมากที่สุดในโลก พุ่งขึ้นมาอยู่ที่ระดับกว่า 6.63 ล้านคน และมียอดผู้เสียชีวิตรวมกว่า 1.97 แสนราย ส่วนประเทศอินเดียมียอดผู้ติดเชื้อสะสมมากเป็นอันดับ 2 ของโลกอยู่ที่กว่า 4.6 ล้านคน และเสียชีวิตกว่า 7.7 หมื่ราย
Source: worldometers
ขณะที่ ตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศไทยอยู่ 3,461 ราย เมื่อวานนี้ มียอดผู้เสียชีวิตรวม 58 ราย โดยเมื่อวานนี้พบผู้ติดเชื้อใหม่รายวัน (Daily new cases) 7 ราย ซึ่งส่วนใหญ่มาจากต่างประเทศและอยู่ใน State Quarantine
แต่ที่น่ากังวลคือ เมื่อวันที่ 11 ก.ย. มีรายงานพบผู้ติดเชื้อในประเทศรายใหม่ 1 ราย เป็นนักฟุตบอลของสโมสรในไทยลีก ติดเชื้อโควิด-19 ก่อนที่จะกลับมาแข่งขันนัดรีสตาร์ตสุดสัปดาห์นี้ โดยก่อนหน้านี้ก็เพิ่งจะพบผู้ติดเชื้อในประเทศไป 1 ราย เป็นนักโทษในเรือนจำ ซึ่งต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดครับว่าจะเกิดการระบาดอีกระลอกตามมาหรือไม่ เพราะฉะนั้นพ่อแม่พี่น้องชาวไทยการ์ดอย่าตกเด็ดขาด สู้ๆ ครับ !!! ✌️
Source: worldometers
⭐️ สนใจเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นไทย, หุ้นต่างประเทศ, ออมหุ้นรายเดือน (DCA), ซื้อกองทุน, ทองคำ, TFEX หรือสินค้าอื่นๆ ติดต่อเปิดพอร์ตลงทุนได้ที่ Inbox คลิกที่ "Contact Us" ด้านล่างนี้ได้เลยครับ 👇👇👇
#คลินิกการลงทุน
โฆษณา