19 ก.ย. 2020 เวลา 04:48 • สุขภาพ
เรื่องเล่าเม้าท์ไปเรื่อย ตอน ประเทศไทยอาจไม่ได้ปลอดภัยอีกต่อไป.....ภาค 2
ย้อนเรื่องราวจากเรื่องเล่าเม้าท์ไปเรื่อย ตอน ประเทศไทยอาจไม่ได้ปลอดภัยอีกต่อไป.....ภาค 1 ที่เคยเล่าไปเมื่อวันก่อน (https://www.blockdit.com/articles/5f5d9b5c1ec9f20cc35ced63) ยังมีสถานการณ์รอบๆประเทศไทยที่ทำให้สถานการณ์โควิดในประเทศไทยยังไม่ปลอดภัยและไม่น่าไว้วางใจเท่าไรนัก
ประเทศรอบข้างในภูมิภาคอาเซียนยังมีสถานการณ์ที่เลวร้ายและไม่สามารถรับมือกับปัญหาได้ในขณะนี้หลายประเทศ ทั้งเมียนมาร์ มาเลเซีย เวียดนามและอินโดนีเซีย
เริ่มที่ประเทศพม่ากันก่อนครับ
การระบาดของเชื้อไวรัสโควิดรอบสองในเมียนมา วิกฤติหนักในรัฐยะไข่ ทางตอนกลางของประเทศ เริ่มตั้งแต่ 26 ส.ค. 2563 มีผู้ป่วยใหม่รายวัน เพิ่มขึ้นวันละ 100 กว่าราย ล่าสุดมีผู้ติดเชื้อสูงกว่า600 ราย ในระยะเวลาเพียง 2 สัปดาห์ และลุกลามไปเมืองต่างๆข้างเคียงทั้งมัณฑะเลย์ ตะนีนตายี กะฉิ่นและรัฐฉาน จนเริ่มพบผู้ติดเชื้อในย่างกุ้ง
หลังจากพบกลุ่มผู้ป่วยใหม่เป็นผู้ป่วยจากเขตย่างกุ้ง 12 ราย นั่นเป็นฟางเส้นสุดท้ายทำให้รัฐบาลเมียนมาร์ต้องประกาศล๊อคดาวน์ ให้ประชาชนอยู่แต่ภายในบ้านทั้ง 7 เขตของนครย่างกุ้ง ได้แก่ ตีงานจูน อีนเซน โอะกะลาปะเหนือ ตะเคดะ ไลง์ ปะซูนดอง และมีนกะละโดน มีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 ก.ย. 2563 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป ซึ่งอนุญาตให้ประชาชนบ้านหลังละ 1 คน ออกมาซื้อสิ่งของจำเป็นได้ และต้องสวมหน้ากากอนามัยขณะออกจากบ้าน
นอกจากนี้ยังสั่งปิดโรงเรียนทั่วประเทศ เพื่อยับยั้งมิให้การแพร่ระบาดลุกลามไปมากกว่านี้ รวมถึงปิดสนามบิน งดการเดินทางเข้าออกทั้งหมด
ในรัฐยะไข่มีมาตรการสั่งปิดเมืองและเคอร์ฟิวตั้งแต่ 21.00 - 04.00 น.
กรณีของประเทศเมียนมาร์ที่น่าเป็นห่วงอย่างมากคือ การหลบหนีเข้ามายังประเทศไทยทางด่านพรมแดนธรรมชาติ เพราะมีชายแดนมีความยาวมากถึง 2,401 กิโลเมตร ทำให้การเฝ้าระวังเป็นได้ด้วยความยากลำบาก
นี่เป็นข้อความส่วนหนึ่งที่สะท้อนปัญหาการหลบหนีเข้าเมืองจากฝั่งชายแดนเมียนมาร์ ว่าสถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจแต่อย่างใด
กลับกันสถานการณ์เมียนมา ที่ชายแดน จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก นายเพียวซอร์โกโก่ Pewo saw gogo นายอำเภอเมียวดี ต้องประกาศภาวะฉุกเฉินหรือเคอร์ฟิว หลังได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุขและกีฬา จ.มะละแหม่ง ว่าทางศูนย์ควบคุมโรคพบผู้ติดเชื้อ จำนวน 1 ราย เป็นเด็กอายุ 2 ขวบ เดินทางเข้ามาจากประเทศไทย
นาย อูเต่ ส่า อ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดเมียวดี แถลงรายละเอียด เกี่ยวกับการพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิท-19 วัย 2 ขวบ ที่เดินทางพร้อมกับมารดา ต้นทางมาจากจังหวัดอยุธยา เข้าเมียนมาใช้ช่องทางสะพานแห่งที่สอง เมื่อวันที่ 4 กันยายน 63 และ ทางการเมียวดีทำการกักตัวไว้ที่ จ.เมียวดี
และเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2563 ได้รับการยืนยันว่า ติดเชื้อโควิท ซึ่ง 2 แม่ลูก ได้ถูกส่งตัวไปยัง จ.ผาอ่าง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้กักตัวพี่สาวของเด็ก พร้อมเจ้าหน้าที่ ที่ปฏิบัติงานในวันดังกล่าว ไว้เพื่อรอดูอาการ
นั่นทำให้จังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา ประกาสเคอร์ฟิว ห้ามประชาชนออกจากเคหะสถาน ตั้งเวลา 24.00 น.-04.00 น. เริ่ม 15 ก.ย.นี้
หันมาดูที่ฝั่งมาเลเซียกันบ้าง........
เมื่อวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา รัฐบาลมาเลเซียยืนยันผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่วันเดียวถึง 182 คน ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในรอบ 3 เดือน หรือนับตั้งแต่ต้นเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา...
สำหรับผลการสอบสวนโรคของผู้ติดเชื้อกลุ่มใหม่ในเบื้องต้นพบว่า เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศเพียงคนเดียว หมายความว่าอีก 181 คนเป็นผู้ที่ติดเชื้อจากภายในประเทศ แบ่งเป็น 167 คนจากคลัสเตอร์ที่เรือนจำเบนเตง ในรัฐซาบาห์ บนเกาะบอร์เนียว และอีก 14 คนจากคลัสเตอร์ที่เรือนจำซุนไก ในรัฐเคดาห์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ
จากแผนที่ข้างต้น เราจะเห็นได้ว่าการระบาดของเชื้อโควิดส่วนใหญ่ของมาเลเซีย เกิดขึ้นใกล้บริเวณชายแดนฝั่งประเทศไทย
รัฐบาลมาเลเซียจึงสั่งปิดประเทศยาวถึงสิ้นปี 2563 เลยทีเดียว รวมถึงห้ามพลเมืองจากประเทศสหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส สเปน อิตาลี รัสเซีย บราซิล ซาอุดีอาระเบีย บังกลาเทศ อินเดีย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย เดินทางเข้าประเทศ โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 7 ก.ย.
นอกจากนี้มาเลเซียยังสั่งปิดด่านชายแดนบูกิตกายาดัมบริเวณด่านสะเดาถึงวันที่ 25 กันยายน 2563 ปิดการเข้าออกประเทศเพื่อสกัดกั้นมิให้มีการระบาดของเชื้อโควิด-19 มากขึ้น
เห็นได้ชัดว่าขณะนี้ทั้งมาเลเซียและเมียนมาร์กำลังตกอยู่ในสถานะคับขันและเริ่ม"เอาไม่อยู่"
สิ่งที่เราทำได้คือป้องกันตนเองไว้ให้มากที่สุด อย่าเผลอการ์ดตกเหมือนเพื่อนบ้านของเราล่ะ.....
เอาใจช่วยทุกคนครับ
เรื่องเล่าเม้าท์ไปเรื่อย
โฆษณา