17 ก.ย. 2020 เวลา 23:42 • สุขภาพ
ยุโรปกำลังจะล้มเพราะไวรัส !
เรื่องที่นายกรัฐมนตรีออกมาแถลงเกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดของไวรัส COVID-19 เมื่อวานตอนเย็นนั้นถือว่าไม่ใช่เรื่องที่ถูกกล่าวถึงอย่างเกินความเป็นจริงแต่อย่างใด
เพราะเมื่อหันไปดูที่สถิติ และตัวเลข กราฟของการติดเชื้อสะสมในช่วงเดือนนี้จะเห็นว่ายุโรปกำลังพบกับสถานการณ์ที่ควบคุมได้ยากอีกครั้งหนึ่ง หลังจากมีช่วงที่ได้หายใจหายคอเมื่อ 2-3 เดือนก่อนไป
ตัวเลขในช่วง 2สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ ขึ้นมาวันละเป็นหมื่นเลยนะครับ อย่างฝรั่งเศสนี้ตัวเลขพุ่งมาอยู่ที่ 400,000กว่าเคสแล้ว อังกฤษก็ 380,000 กว่าๆจะทันฝรั่งเศสแล้ว ละยังต้องรวมสถิติของประเทศอื่นๆในแถบยุโรปด้วย
1
รวมๆแล้วทั้งทวีปยุโรปมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมาถึงกว่า 300,000 คนภายในไม่ถึงครึ่งเดือน หลายๆแห่งยังได้ทำลายสถิติที่เคยเกิดขึ้นตอนจุดพีคเมื่อเดือนมีนาคมอีกด้วย
ตอนนี้โรงพยาบาลทั้งในฝรั่งเศสและสเปนกำลังจะกลับมาเต็มอีกครั้ง เพราะผู้ติดเชื้อรายใหม่ทยอยเพิ่มขึ้นทุกวันๆ ถ้ายังระบาดหนักอย่างนี้อีก ก็คงต้องมีการขยับขยายมาตรการอย่างเด็ดขาดอีกครั้ง
ที่น่าตกใจก็คือ แต่เดิมนั้นผู้ติดเชื้อส่วนมากมักเป็นกลุ่มอ่อนแอ ทั้งผู้มีร่างกายเปราะบาง และผู้สูงอายุ แต่ในช่วงนี้ผู้ติดเชื้อจำนวนมากในยุโรป ส่วนใหญ่เป็นคนวัยรุ่น วัยทำงานตอนต้นกันทั้งนั้น
ซึ่งค่อนข้างสัมพันธ์กับข่าวในประเทศอังกฤษเมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ทางสาธารณสุขเคยออกมาประกาศเตือนเรื่องการระบาด แต่ก็ยังมีกลุ่มวัยรุ่น และวัยทำงานพากันออกมาฉลองกันในผับ
ฉลองกันแบบไม่กลัวไวรัส COVID-19 สุดท้ายก็เลยกลายเป็นกลับมาระบาดหนักอีกรอบ เนื่องจากผับ บาร์นั้นถือได้ว่าเป็นหนึ่งในพื้นที่แออัด และเสี่ยงต่อการระบาดได้ง่าย
ก็เลยเป็นกรณีตัวอย่างที่เห็นได้ชัดว่าการติดเชื้อครั้งใหม่นี้เป็นผลมาจากพฤติกรรมของการไม่ปฏิบัติตามคำเตือนของภาครัฐ มุ่งแต่จะสนุก เอาสะดวกตัวเองเข้าว่า
ละยิ่งช่วงนี้มันใกล้เข้าหน้าหนาวที่ยุโรปมาทุกทีๆแล้ว ช่วงตุลาคมนี้ก็เริ่มเย็นแล้ว เดี๋ยวประมาณพฤศจิกายน และธันวาคมมีหิมะตามมาในหลายๆพื้นที่ จะลำบากกว่านี้แน่
1
เพราะยิ่งอากาศเย็นก็ยิ่งเพิ่มโอกาสในการที่เชื้อไวรัสจะควบคุมได้ยากขึ้น ซึ่งขณะนี้หลายๆประเทศก็เริ่มคิดเรื่องมาตรการล็อคดาวน์กันอีกครั้งแล้ว เช่น ที่อังกฤษ ซึ่งก็กำลังปรึกษากันอยู่ว่าอาจจะต้องล็อคดาวน์ครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง เพื่อชะลอการระบาด
สถานการณ์จึงถือว่าไม่สู้ดีเอามากๆ ถ้ามองจากในมุมภาครัฐ และสาธารณสุขไทยก็คงค่อนข้างกังวลกับ Scenarios ลักษณะนี้ ว่าอาจจะเกิดขึ้นแบบไทยกัน แม้ว่าคนไทยจะนิยมใส่หน้ากากอนามัยมากกว่ายุโรป
แต่พอพูดถึงเรื่องการเข้าสู่พื้นที่เสี่ยง และพื้นที่แออัดก็ไม่ค่อยต่างกันเท่าไร เสาร์อาทิตย์คนไทยก็ยังเที่ยวๆผับกันอยู่ ตรงนี้ก็เลยเป็นเหตุให้รัฐบาลออกมากล่าวอ้างถึงความเป็นไปได้ดังกล่าว
1
อันนี้ผมไปค้นข้อมูลมาให้ ยืนยันว่าที่นายกฯกล่าวเมื่อวาน มันมีเหตุผลรองรับจริงๆครับ และทางสาธารณสุขไทยก็คงส่งความกังวลเหล่านี้นไปถึงทำเนียบ ก็เลยต้องมีการออกมากล่าวแบบนั้น
เพราะสถานการณ์ยุโรปมันสะท้อนให้เห็นค่อนข้างชัดเจนว่าถ้าปล่อยไว้โดยไม่ได้ควบคุม หรือละเลย ผลมันก็จะกลับมารุนแรง ทางฝั่งไทยเลยมองว่ามันเป็นบทเรียนน่ะครับ
โฆษณา