การชุมนุมจบแล้ว ทุกคนแยกย้ายได้ !!
เมื่อกี้ทางแกนนำ เพนกวิ้นที่เป็นหัวเรือใหญ่ของม็อบนั้นเขาออกมาประกาศแล้วนะครับ ว่าการชุมนุมในวาระนี้ได้จบลงแล้ว หลังจากที่ทั้งหมดได้พากันเดินทางไปยื่นหนังสือร้องเรียนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
โดยทางเพนกวิ้นชี้ว่า การชุมนุมในช่วงสุดสัปดาห์นี้จะมีเพียงแค่นี้ ไม่มีอะไรแล้ว แล้วขอให้ทุกคนแยกย้าย สลายตัวกันกลับบ้านได้ แต่จะขอนัดกันมารวมตัวกันใหม่อีกครั้งในอีก 4 วันข้างหน้า คือ วันที่ 24 กันยายน 2563
ที่รัฐสภา แยกเกียกกาย เพื่อร่วมกันมากดดันนักการเมือง และฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการประชุมพิจารณาญัตติการแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 256 และในโอกาสสุดท้ายนี้ทางเพนกวิ้นได้กล่าวย้ำคำขวัญของกลุ่มด้วยว่า "ศักดินาจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ"
จากนั้นผู้ชุมนุมก็เริ่มทยอยแยกย้ายกันกลับบ้าน กลับภูมิลำเนากันอย่างสงบ โดยไม่มีเหตุการณ์อะไรที่เกินคาดหมาย และปราศจากซึ่งความรุนแรงใดๆต่อทั้งสองฝ่าย ไม่ว่าจะฝ่ายม็อบ หรือฝ่ายผู้รักษาความสงบ
(การยื่นหนังสือ และเอกสารที่เกี่ยวข้องจากมือม็อบไปสู่ฝ่ายผู้มีอำนาจก็เกิดขึ้นและดำเนินไปได้ด้วยดี ไม่มีปัญหาใดๆ)
ถ้าถามว่าทำไมถึงรีบสลายตัวเร็วกันขนาดนี้ อันนี้ผมคิดว่าคงเป็นเพราะกลุ่มม็อบนักศึกษา และเยาวชนนั้นยังคงตั้งใจที่จะใช้กรอบและวิธีการรูปแบบเดิมเหมือนเมื่อครั้ง 1-2 เดือนที่ผ่านมา
โดยเน้นใช้แนวทางที่ไม่ได้หนีไปจาก Flash Mob มากนัก กล่าวคือ เน้นการจัดรูปขบวน และขบวนการการเคลื่อนไหวแบบรวดเร็ว และเน้นเป้าหมาย เมื่อทั้งหมดมารวมตัวกันได้ ได้ประกาศเจตจำนง
นับจำนวนคน นับแนวร่วม เพื่อแสดงพลัง และสะท้อนให้ฝ่ายผู้มีอำนาจเห็นแล้วว่าม็อบกลุ่มนี้มีจำนวนเท่าไร กี่พัน กี่หมื่น กี่แสนคน พอได้ตัวเลขเหล่านั้นแล้วก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายข่าว ฝ่ายประชาสัมพันธ์
เอาเรื่องนี้ไปปล่อยให้แก่นักข่าว พอนักข่าวนำไปกระจายต่อ ก็จะเกิดกระแสกระพือไปเรื่อยๆว่าม็อบครั้งนี้ยิ่งใหญ่ ซึ่งเมื่อสภาพการณ์เป็นเช่นนี้แล้ว ต่อไปสังคมก็จะได้รับการรับรู้เจตนาของม็อบ ว่าม็อบมีความเห็นอย่างไร
ทุกคนรู้ สังคมรู้ แค่นี้แหละ จบ ก็เลยรีบแยกย้าย เนื่องจากไม่ต้องการสร้างความเดือดร้อนให้แก่การจราจร หรือบุคลากรที่เกี่ยวข้อง เพราะถ้าหากชุมนุมกันยืดเยื้อเป็นเวลาหลายวัน หลายสัปดาห์
ก็จะนำมาสู่ความยุ่งยากด้านการจัดพื้นที่ จัดหาทรัพยากรในการดูแลฝูงชน ซึ่งก็จะกลับไปสู่ปัญหาด้านต้นทุน ที่ม็อบกลุ่มดังกล่าวนี้เป็นม็อบนักศึกษา และวัยทำงานตอนต้น ทุนอาจจะไม่ได้หนามากเท่ากับม็อบการเมืองระดับประเทศอย่างเสื้อเหลือง เสื้อแดงสมัยก่อน
อีกอย่างคือ กลุ่มนักศึกษา และวัยทำงานหลายๆคนเองก็มีหน้าที่ของตัวเอง วันจันทร์พรุ่งนี้ก็ต้องออกไปเข้าห้องเรียนหนังสือ ไปทำงาน เข้าออฟฟิศของตนเองตามปกติ การชุมนุมที่ยืดเยื้อหลายวันจึงไม่ตอบโจทย์คนกลุ่มนี้สักเท่าไร
ก็เลยอาจจะเป็นเหตุผลหลักๆที่พวกเขาตั้งใจจะไม่ชุมนุมกันยืดเยื้อ แต่หันไปใช้วิธีที่เน้นความรวดเร็ว และตอบวัตถุประสงค์ตั้งต้นเป็นหลัก (ชุมนุม-ปราศรัย-เดินขบวน-ยื่นข้อเสนอแนะต่อรัฐบาล-แยกย้าย) เพื่อให้กิจทุกอย่างเสร็จภายในไม่เกิน 2 วัน จะได้ไม่รบกวนเวลาส่วนตัวของคนที่เกี่ยวข้องมาก
- 12
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
