22 ก.ย. 2020 เวลา 10:30 • ธุรกิจ
ลาสเวกัส ดินแดนแห่งเศรษฐี ที่มาจากการเสี่ยงโชค
ว่ากันว่า ผู้บริโภคจะตัดสินใจซื้อสินค้าหนึ่งๆ ด้วยอารมณ์และความรู้สึก
ธุรกิจการพนัน การเสี่ยงโชค และคาสิโน ซึ่งเป็นช่องทางที่ทำรายได้ผ่านอารมณ์ของคน
ไม่ว่าเศรษฐกิจจะดีไม่ดี หรืออย่างไรก็ตาม การพนันย่อมได้รับความสนใจจากผู้คนอยู่เสมอ
1
Las Vegas Sands หนึ่งในอาณาจักร ที่ทรงอิทธิพลเป็นอันดับต้นๆ ของสหรัฐอเมริกาและเอเชีย
รู้ไหม Las Vegas Sands มีรายได้จากกิจการมากกว่า 3 ล้านล้านบาท และเป็นคาสิโนเจ้าใหญ่ที่สุดในโลก
แม้ธุรกิจพนันจะล้มยาก แต่ Las Vegas Sands ก็เคยเกือบล้มมาแล้วหลายครั้ง
เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น ผู้เขียนจะพาไปทำความรู้จักให้มากกว่านี้กัน..
Las Vegas Sands บริษัทโรงแรมและคาสิโนยักษ์ใหญ่ ได้รับการก่อตั้งเมื่อปี 1989 โดยเศรษฐี Sheldon Adelson ร่วมมือกับหุ้นส่วนอีกหลายคน
เดิมทีกิจการ Las Vegas Sands ถือกำเนิดขึ้นจากความตั้งใจ ที่จะให้เป็นกิจการโรงแรมที่พัก
ซึ่งพวกเขาซื้อโรงแรมที่มีอยู่แล้ว อย่าง Sands Hotel มาบริหาร
ช่วงแรกๆ เศรษฐี Sheldon ใช้โรงแรม Sands เป็นธุรกิจจัดงานนิทรรศการใหญ่ๆ
และมีห้องพักเสริมมาให้ลูกค้าเท่านั้น ทว่าหลังจากนั้นไม่นาน โรงแรมกลับไม่ได้มีแค่ห้องพักไว้คอยบริการ
แต่ได้เอาคาสิโน เข้ามาเพิ่มรายได้ อีกช่องทางหนึ่งด้วย
อย่างไรก็ดี คาสิโนกลับเป็นช่องทางความมั่งคั่ง ที่ผลิตเงินได้อย่างมหาศาล
Sheldon จึงตัดสินใจ ที่จะขยับขยายคาสิโนให้เข้าที่เข้าทาง และลุยแบบ 100%
แม้ว่าคาสิโนของ Sheldon จะผลิตเงินได้อย่างทันตา ทว่าในเวลานั้น ทั่วทั้งสหรัฐ มีเจ้าเล็กเจ้าใหญ่ ประกอบธุรกิจคาสิโนอยู่แล้ว
Sheldon จึงคิดให้แปลกกว่าคนอื่น ด้วยการสร้างห้องพักหรูหรากว่าใคร
บรรยากาศในอาณาจักรเสี่ยงโชค เหมือนยกเอาเมืองสวยงามมาตั้งไว้
ทั้งเวนิสจำลอง ไอเฟลจำลอง ซึ่งไอเดียดังกล่าว เขาได้ภรรยาคู่ใจ เป็นคู่คิดร่วมด้วย
นอกจากนี้แล้ว Sheldon และกลุ่มทุนของเขา ยังเป็นเจ้าแรกๆ ที่เข้าตีตลาดคาสิโนในมาเก๊า
กระทั่งเกาะดังกล่าว กลายเป็นเกาะสวรรค์แห่งความมั่งคั่ง นับแสนเหรียญ นับล้านเหรียญ ดั่งที่เห็นในปัจจุบัน
ในปี 2004 ธุรกิจเสี่ยงโชคที่อุดมไปด้วยความมั่งคั่ง พาให้พวกเขาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยใช้ชื่อหุ้นว่า LVS
คำถามก็คือ แล้วปัจจุบัน พวกเขามั่งคั่งขนาดไหน
ปี 2019 ที่ผ่านมา Las Vegas Sands ทำรายได้รวมไปกว่า 13,739 ล้านเหรียญ หรือมากกว่า 4 แสนล้านบาท
กำไรสุทธิ 2,698 ล้านเหรียญ หรือมากกว่า 78,000 ล้านบาท
ที่น่าสนใจ คือร้อยละ 70 จากทั้งหมด มาจากธุรกิจคาสิโน ส่วนที่เหลือเป็นเพียงสิ่งอำนวยความสะดวกลูกค้า เช่น ห้องพัก ศูนย์การค้า และอาหาร
รู้ไหม แม้พวกเขาจะหากินกับความเสี่ยงโชค และความอยากมีอยากได้ของมนุษย์
แต่พวกเขาก็ยังเคยประสบปัญหาทางการเงิน
วิกฤติเศรษฐกิจ 2008 พัดพานักพนันและนักเสี่ยงโชค หลุดจากลาสเวกัสไปเป็นจำนวนมาก
แถมที่มาเก๊า ก็เริ่มมีปัญหาจากการที่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ายากขึ้น
ส่งผลกระทบให้ Las Vegas Sands เกือบล้มละลาย แต่ Sheldon พลิกเกมโดยการเซ็นเช็คส่วนตัว เป็นจำนวน 1,000 ล้านเหรียญ มาประคองสภาพคล่องให้คงอยู่
และล่าสุด วิกฤติโรคระบาด ที่เพิ่งเกิด และยังไม่จบสิ้น
การหยุดชะงักในกิจกรรมต่างๆ ของผู้คนทั่วทั้งโลก ส่งผลให้ Las Vegas Sands ไม่สามารถต้อนรับนักท่องเที่ยว นักพนัน และนักเสี่ยงโชคได้ดั่งเดิม
รู้ไหม ช่วงเมษายนถึงพฤษภาคมที่ผ่านมา ผลประกอบการของ Las Vegas Sands ร่วงลงไปกว่า ร้อยละ 97
ถึงอย่างไร แม้หลายประเทศจะกลับมาเดินได้ แต่ก็ต้องใช้เวลาให้สภาพการเงินของทุกครัวเรือนทั่วโลก รีเฟรชใหม่อีกครั้ง
แม้ว่า Las Vegas Sands จะเจอกับมรสุมกี่ครั้ง หรือรุนแรงเพียงใด เจ้าเล็กเจ้าใหญ่ ทั่วทั้งโลกก็คงจะไม่ต่างกัน
แต่เมื่อมนุษย์ยังไม่หยุดที่จะอยากมีอยากได้ เมื่อนั้นการเสี่ยงโชคก็ยังคงความนิยมอยู่เสมอ ไม่ว่าจะผ่านไปอีกกี่ร้อยปี..ก็ตาม
ส่งต่อทุกแรงบันดาลใจ Share For Inspire
Follow Us On “Facebook” https://www.facebook.com/swivelth
Follow Us On “Instragram” https://www.instagram.com/swivel.th/
Reference
Picture
โฆษณา