11 ต.ค. 2020 เวลา 11:18 • ศิลปะ & ออกแบบ
[ เรื่องเล่าชมรมวิทย์ SPECIAL ]
Ep. 3 : House of Stairs Part l - จริงหรือลวง
ความเดิมตอนที่แล้ว : ฉันแน่ใจว่าคุณปู่เคยมาที่นี่ แต่ไม่รู้รายละเอียดอื่นใดมากกว่านี้ นกซีเมิร์กบอกแค่ว่าฉันกับอาร์ตต้องหาทางออกเพื่อกลับไปยังโลกที่จากมา ไม่เช่นนั้นจะติดอยู่ในโลกของภาพลวงตานี้ตลอดไป มีเพียงสมุดบันทึกของคุณปู่เท่านั้นที่พอจะช่วยนำทางได้ อ่อ ถึงไม่ค่อยอยาก แต่นับอาร์ตไปอีกคนแล้วกัน เขาก็ดูพึ่งพาได้นะ
1
“เตรียมขาให้พร้อมนะซายน์ อาร์ตว่าที่ๆเรากำลังจะไปต่อคงไม่มีลิฟท์แน่ๆ”
1
อาร์ตหันมาพูดด้วยสายตาเป็นประกายก่อนจะเดินนำไปบนถนนด้านหลังที่ทอดยาวไปสุดสายตา สองฝั่งขนาบข้างด้วยอาคารตึกแถวสูง 3-4 ชั้น มีเสื้อผ้าถูกแขวนตากเป็นราวอยู่ด้านบน ดูแล้วเป็นเมืองที่สวยงามน่าอยู่ทีเดียว เพียงแต่ผู้คนบนถนนไม่สบตา ไม่สนทนากัน ราวกับเป็นตัวละครในฉากที่กำหนดบทไว้ก็ไม่ปาน
ในขณะที่อาร์ตก้าวเท้าออกไป ฉันยังยืนอยู่ที่เดิม มองรอบๆไปยังกองไพ่ โถยาเส้น หนังสือ กล้องยาสูบและกล่องไม้ขีดอีกครั้ง แต่ด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป
‘คุณปู่คะ ซายน์รู้แล้วนะคะว่าทำไมคุณปู่ถึงไม่เคยขยับของพวกนี้บนโต๊ะเลย คุณปู่คงคิดถึงที่นี่ใช่ไหมคะ’
1
ฉันอมยิ้มออกมา รู้สึกดีใจที่ได้ใกล้ชิดคุณปู่เพิ่มขึ้นอีกนิด ปัจจุบันคุณปู่แก่ชรามาก สุขภาพไม่ดี แต่คุณพ่อเคยเล่าว่าสมัยยังหนุ่ม มักมีคนบอกว่าคุณปู่เป็นคนแปลกๆ ชอบพูดถึงสัตว์วิเศษ และสิ่งของประหลาด เมื่อก่อนอาร์ตก็เคยมาฟังนิทานของคุณปู่ที่บ้านบ่อยๆ แต่ฉันชอบให้คุณพ่อเล่าเรื่องอวกาศและดวงดาวต่างๆให้ฟังมากกว่า เลยไม่ได้สนใจมากนัก
อาร์ตบอกว่า Still life and Street ที่เรากำลังยืนอยู่คือ ซาโวนา เมืองท่าทางตอนเหนือของอิตาลี ฉันสัมผัสได้ถึงกลิ่นไอทะเลที่ถูกพัดมาตามสายลม ชวนให้สดชื่นยิ่งนัก
“ซายน์”
ฉันหันขวับไปยังต้นเสียง เพิ่งเห็นว่าอาร์ตเดินไปไกลแล้ว เขาคงนึกว่าฉันเดินตามหลังไปสินะ
“มาเร็วเถอะ เรายังต้องเจออะไรอีกก็ไม่รู้นะ”
ฉันไม่ตอบอะไร มือขวาถือสมุดบันทึกแน่น รีบก้าวเท้ายาวเพื่อจะไล่ตามอาร์ตให้ทัน เขาส่งยิ้มมาให้หนึ่งทีก่อนจะหันหลังกลับเดินต่อ เมื่อห่างจากเขาสองถึงสามช่วงตัวฉันจึงปรับจังหวะการเดินให้ช้าลง หลังของอาร์ตเคยเป็นภาพคุ้นตาสมัยเด็ก เขาเป็นคนเดินเร็วและมักจะนำฉันไปทุกๆที่เสมอ ถึงแม้จะยังคงไม่ชอบหน้าอยู่ แต่ตอนนี้กลับรู้สึกว่าหลังของคนคนนี้พึ่งพาได้ ขณะที่กำลังรีบเดินตามอาร์ตให้ทัน อยู่ดีๆเขาก็หยุดกึก จนหน้าฉันเกือบจะชนเข้ากับหลังของเขาเข้าให้
“นี่อาร์ต ทำไมหยุดแบบนี้ ซายน์เกือบชนแล้วนะ”
1
เขาเงียบ ยืนนิ่งจ้องมองตึกใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ริมถนนด้านขวามือของพวกเรา ฉันมองตามสายตาไปจึงเห็นว่ารูปทรงภายนอกของตึกนี้มีโครงสร้างและลักษณะอาคารเป็นสถาปัตยกรรมสไตล์นีโอคลาสสิค บันไดใหญ่แข็งแรงทอดยาวจากชั้นสองลงมาบนพื้นถนน กลางบันไดขั้นบนสุดมีคนแปลกหน้านั่งนิ่งราวกับเป็นรูปปั้นแกะสลักอยู่หนึ่งคน
“ซายน์ นี่แหละ House of Stairs”
1
“อาร์ตรู้ได้ยังไง ไม่เห็นมีป้ายบอกเลย”
‘เอ แต่ก็รู้สึกคุ้นๆเหมือนกันแหะ เหมือนเป็นภาพร่างในสมุดบันทึก’
“เพราะว่าตึกนี้ก็เป็นภาพวาดของแอชเชอร์เหมือนกันน่ะสิซายน์ ชื่อว่า Ascending and Descending อืม…บางทีซายน์อาจจะเคยได้ยินชื่อของโรเจอร์ เพนโรส บ้างละมั้ง เขาคือคนที่เป็นต้นกำเนิดไอเดียของแอชเชอร์ในภาพนี้นั่นแหละ”
“โรเจอร์ เพนโรส! นักคณิตศาสตร์ฟิสิกส์ชาวอังกฤษ ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดคนนั้นน่ะเหรอ คนที่ได้รางวัลโนเบลฟิสิกส์…คนที่คิดโมเดลคณิตศาสตร์พิสูจน์หลุมดำจากทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปอะนะ อาร์ตหมายถึงคนนั้นใช่มั้ย โอ้ย…เป็นไปได้ยังไงเนี่ย!”
1
ฉันพูดออกไปด้วยความตื่นเต้นประหลาดใจ ไม่เคยนึกมาก่อนว่าศิลปินที่วาดภาพจะมีความเกี่ยวข้องกับนักคณิตศาสตร์ที่ได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ได้ อาร์ตบอกว่า เอ็มซี แอชเชอร์ และ เซอร์โรเจอร์ เพนโรส เคยเป็นสหายที่แลกเปลี่ยนความคิดร่วมกันมาก่อน แม้แต่แอชเชอร์เองก็เป็นนักคณิตศาสตร์ ผลงานของเขาถึงได้มีสัดส่วนที่ถูกต้องตามการคำนวณ แม้มุมมองที่ปรากฎจะดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ก็ตาม
“งั้นเราควรเข้าไปข้างในกันมั้ยอาร์ต แต่ว่านะ ตอนนี้ซายน์เห็นทางเข้าทั้งหมด 3 ทาง คือประตูโค้งด้านซ้ายที่ดูเหมือนจะพาลงไปชั้นใต้ดิน บันไดกลาง และประตูเล็กด้านขวา เราจะเลือกทางไหนดี”
“...”
“แต่ถ้าให้ซายน์เลือก ซายน์จะเลือกบันไดนะ ดูปลอดภัยสุด”
“เอางี้ ซายน์เดินไปที่ประตูด้านขวานะ ดูสิว่าล็อคอยู่หรือเปล่า เดี๋ยวอาร์ตจะไปดูทางเข้าด้านซ้ายเอง”
ฉันพยักหน้าตอบรับสองทีแล้วเดินตรงไปที่ประตูไม้ด้านขวา มีหน้าต่างบานเล็กสองบานอยู่ติดกันแต่ปิดสนิท จึงเอื้อมมือไปเคาะประตูแผ่วเบาสามทีแล้วรีบหลบเผื่อมีอะไรพุ่งออกมาจะได้กระโดดหนีทัน แต่เปล่าเลย ทุกอย่างเงียบเชียบ
หลังจากนั้นเลยตัดสินใจเคาะประตูเต็มแรงอีกสามที พร้อมกับตะโกนว่า “ขอโทษนะคะ มีใครอยู่มั้ย” ก็ยังไร้วี่แววของเสียงตอบรับใดๆ จึงลองผลักประตูอยู่หลายหนแต่ประตูคงลงกลอนจากข้างในแน่น ไม่สามารถเปิดออกได้ จึงเดินกลับไปหาอาร์ตที่หน้าบันได เวลาเดียวกับที่เขากลับขึ้นมาจากทางลงไปใต้ดินพอดี
“ประตูล็อคน่ะอาร์ต ทางนั้นเป็นยังไงบ้าง”
“มืดมากเลยซายน์ เป็นขั้นบันไดลงไปเรื่อยๆ อาร์ตลองก้าวลงไปเกือบสิบขั้น มองไม่เห็นอะไรรอบข้างเลย เย็นมากด้วย”
1
“ถ้างั้นขึ้นไปทางนี้นี่แหละ”
ฉันมองไปทางบันได ก่อนจะก้าวขึ้นไปอย่างรวดเร็ว อาร์ตรีบเดินตามมาอยู่ข้างๆ จนเราสองคนขึ้นไปถึงขั้นสุดท้าย ทันใดนั้นคนที่นั่งนิ่งอยู่ตั้งแต่แรกก็ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วขวางหน้าพวกเราไว้ แล้วพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำเนิบช้าไม่มีอารมณ์ความรู้สึก แต่ทำให้ขนลุกว่า
“ช้าก่อนผู้มาเยือน ตัวข้าคงปล่อยให้ท่านผ่านไปไม่ได้ ถ้ายังไม่ตอบคำถามเสียก่อน ทางที่ท่านกำลังจะก้าวเดินต่อจากนี้ หนึ่งทางนำไปสู่ทางออก หนึ่งทางนำไปสู่ความตาย ท่านจงเลือกมาเถิด ว่าจะไปทางไหน”
1
ฉันกับอาร์ตหันมามองหน้ากันด้วยความมึนงง คิ้วของเราขมวดจนยับย่นด้วยกันทั้งคู่ ชายลึกลับผู้นี้บอกว่ามีทางเลือกอยู่สองทาง แต่ตอนนี้เห็นอยู่ชัดเจนว่าถัดจากบันไดคือโถงกว้าง ไม่มีทางแยกให้เลือก แต่เหมือนชายลึกลับผู้นี้มีความสามารถในการอ่านใจ เขาพูดต่อว่า
“ทางแรก คือเลือกที่จะก้าวข้ามบันไดขั้นนี้ ทางที่สองคือเดินกลับลงไป เข้าประตูโค้งด้านล่าง”
“แต่ว่านะอาร์ต” ฉันพูดขึ้นทันที “ประตูโค้งด้านล่างมันมืดมากเลยนี่ ไม่น่าใช่ทางที่ถูกนะ”
อาร์ตมองมาที่ฉัน ก่อนจะเอ่ยถามว่า
“ซายน์ นกซีเมิร์กพูดอะไรกับเราก่อนบินหายไป จำได้มั้ย”
“อาร์ตหมายถึงเรื่องไหนล่ะ นกซีเมิร์กพูดตั้งเยอะ”
“บทกลอนไง สิ่งที่เห็น อาจไม่จริง”
1
“สิ่งที่จริง ก็ไม่เห็น” ฉันรีบต่อประโยคของอาร์ตอย่างรวดเร็ว
“อาร์ตคิดว่านกบอกใบ้เรื่องนี้เหรอ ถ้างั้นเราควรเลือกทางข้างล่างเหรอ”
“อาร์ตก็ไม่แน่ใจนะ แต่ในทางจิตวิทยา คนส่วนใหญ่มักจะเลือกสิ่งที่ตาเห็นว่าดี ซึ่งบางทีอาจจะเป็นกับดักก็ได้”
ฉันเปิดสมุดบันทึกคุณปู่ออกดูและพลิกหน้ากระดาษไปมา
‘ไหนน้า มีคำใบ้อะไรมั่งไหม’
“ถ้าท่านอยากได้คำใบ้” อีกครั้งที่ชายลึกลับตอบในสิ่งที่ฉันคิด ซึ่งนั่นก็เพียงพอที่จะทำให้ฉันกับอาร์ตหันไปมองเป็นตาเดียว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นกลับดูน่าสยดสยองเสียจนทำให้ฉันตกใจกระโดดหลบไปอยู่หลังอาร์ต เมื่อศีรษะของชายลึกลับคนนั้นค่อยๆแยกออกอย่างช้าๆไล่ตั้งแต่หน้าผากลงไปจนถึงคอ แล้วค่อยๆกลับมาเป็นเหมือนเดิมจนกลายเป็นคนสองหัว
1
“อาร์ต!”
“ใจเย็นๆนะซายน์ ตั้งสติก่อน”
“ตัวข้าจะให้โอกาสท่านถามสิ่งที่อยากรู้” “ถามสิ่งที่ท่านอยากรู้” ทั้งสองหัวพูดแยกกัน
“เพียงแต่ว่า” “เพียงแต่ว่า”
“ถามข้าได้ทีละครั้ง” “แค่ทีละครั้งเท่านั้น”
“หนึ่งในตัวข้าพูดความจริงเสมอ” “ตัวข้าพูดจริงเสมอ”
“หนึ่งในตัวข้าพูดโกหกเสมอ” “ตัวเขาโกหกเสมอ”
“อาร์ต”
“ซายน์ เราต้องใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์นะ นึกออกใช่มั้ย”
ฉันพยักหน้าส่งสัญญาณว่าเข้าใจ แล้วเดินออกไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง
“ขอถามท่านทางซ้ายนะคะ” ฉันหันหน้าไปทางซ้าย
“ถ้าถามท่านทางขวาว่า บันไดนี้นำไปสู่ทางออกใช่หรือไม่ ท่านทางขวาจะตอบว่า ใช่ หรือ ไม่”
“ตัวเขาจะตอบท่านว่า ใช่”
ฉันหันไปมองอาร์ต เขายิ้มแล้วพยักหน้าให้ฉันหนึ่งที
“ขอบคุณค่ะ งั้นลาก่อนนะคะ”
“เดี๋ยว ท่านจะไปไหน” “จะไปไหน”
“เราจะไปทางข้างล่างค่ะ”
“ท่านรู้ได้อย่างไร ตัวข้าอาจจะพูดความจริงก็ได้” “ใช่ พูดความจริง
“ถ้าท่านพูดความจริง แสดงว่าท่านทางขวาพูดโกหก ท่านบอกว่าเขาจะตอบ ใช่ เพราะฉะนั้นคำตอบก็คือ ไม่ บันไดเป็นกับดัก”
“แน่ใจรึ ถ้าเช่นนั้นตัวข้าอาจะพูดโกหกก็ได้” “ใช่ พูดโกหก”
ฉันกำลังจะอ้าปากตอบ แต่อาร์ตชิงพูดขึ้นมาเสียก่อน
“ถ้าท่านโกหก แสดงว่าท่านทางขวาพูดความจริง ท่านโกหกว่าเขาจะตอบ ใช่ เพราะฉะนั้นคำตอบก็คือ ไม่ บันไดก็ยังเป็นกับดักอยู่ดี”
1
นี่เป็นคำถามสุดคลาสสิคที่เราสองคนเคยเจอตอนไปแข่งตอบปัญหาให้โรงเรียนด้วยกัน ฉันไม่คิดว่าเขาจะยังจำได้ ถ้าคำตอบคือ ใช่ ไม่ว่าคนตอบจะโกหกหรือพูดความจริง ทางที่นำไปสู่ทางออกคือประตูข้างล่างแน่นอน ฉันกับอาร์ตพร้อมใจกันหันหลังให้ชายลึกลับสองหัวผู้นั้น แล้วเดินลงบันไดกลับมายังชั้นล่าง จนมาหยุดอยู่หน้าประตูโค้งที่ให้ความรู้สึกน่ากลัวมากกว่าเดิม
“เราต้องเดินลงไปทางมืดๆนี่จริงเหรออาร์ต” ฉันถามพร้อมกับทำหน้ามุ่ย
“ซายน์จับอาร์ตไว้นะ ทางมืดมาก จะได้ไม่หลงกัน” เขาหันมาคว้ามือฉันไว้ ถึงแม้จะตกใจแต่ก็ก้มหน้าตอบไปเบาๆว่า “อืม”
1
ขณะที่เราก้าวเข้าไปสู่ความมืด เสียงประสานนับร้อยก็ดังขึ้นราวกับบทสวดอาขยานที่ผ่านสายลมมาให้พอได้ยินเพียงแผ่ว ๆ
“Tis true without lying, certain and most true.
That which is below is like that which is above
and that which is above is like that which is below
to do the miracle of one only thing...”
[ To be continued ]
สวัสดีค่ะทุกคน ❤️
มาถึงตอนที่สาม พาร์ตแรก (3.1) ของซีรีส์ชมรมวิทย์นอกเวลา ตอนพิเศษ ที่เขียนร่วมกันกับเรื่องเล่าชมรมศิลป์นอกเวลากันแล้วนะคะ
สำหรับตอนนี้ขอเชิญให้อ่านเรื่องราวอีกมุมหนึ่งของตัวละคร ‘อาร์ต’ ได้ที่เพจ ให้เพลงพาไป หรือคลิกที่ลิงค์ข้างล่างนี้ได้เลยค่ะ ;) ⬇️
References >>
โฆษณา