11 ต.ค. 2020 เวลา 10:08 • ความคิดเห็น
"..ไม่ต้องกลัว ถึงคราวตายก็ต้องตาย
แต่เตี่ยจะยิงลูก ๆ ก่อน.."
วาทะที่แสดงถึงความเป็น "นักเลง" อันเป็นภาพลักษณ์ของเสด็จเตี่ย ที่ไม่เว้นแม้แต่กับลูกท่าน
กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ทรงเป็นต้นราชสกุลอาภากร เป็นพระราชโอรสในรัชกาลที่ 5 พระองค์ทรงได้รับสมัญญานามว่าบิดาของทหารเรือไทย เราจะเรียกท่านว่าเสด็จเตี่ยตามที่ทุกคนเรียกกันมานะคะ
ความเป็นนักเลงของท่าน เคยเขียนลงไปครั้งหนึ่งแล้ว
สามารถอ่านได้ที่ลิงก์นี้ค่ะ
วันนี้เป้ยได้ข้อมูลเพิ่มเติม ท่านถึงกับจะยิงลูก 😅
จากความสามารถของท่านบวกกับนิสัยไม่ถือตัว ทำให้ประสบความสำเร็จในทางราชการจนเป็นถึงนายพลเรือเอก เหมือนจะเป็นเรื่องดีแต่กลับเป็นปัญหาต่อท่าน เพราะมีข่าวลือว่าท่านจะกบฎ
เมื่อมีข่าวลือบ่อย ย่อมก่อให้เกิดความไม่สบายใจแก่พระมหากษัตริย์ในขณะนั้น ซึ่งคือ ร. 6
รวมถึงสร้างความรำคาญใจแก่ตัวเสด็จเตี่ยเอง
เพราะเมื่อมีข่าวบ่อยครั้ง คนย่อมมองท่านไม่ดี
(ทั้งสองท่านเป็นพี่น้องต่างมารดากันนะคะ)
เป็นเหตุให้เสด็จเตี่ยออกราชการเมื่อมีอายุแค่ 31 ปี ซึ่งตอนนั้นท่านแข็งแรงดี ทำให้ท่านคิดถึงทะเลที่ท่านรักและคุ้นเคย จึงซื้อเรือใบลำใหญ่ ออกพักผ่อนและตรวจน่านน้ำไทยไปด้วย
เรือลำนี้ไม่มีเครื่องยนต์ อาศัยลมในการแล่นเท่านั้น
ครั้งหนึ่งท่านออกทะเลไปพร้อมพระราชโอรสธิดา
เมื่อไปถึงเกาะครามซึ่งเป็นแหล่งที่ปลาฉลามชุก เกิดพายุหมุนเรียกว่า ลมงวง ลักษณะคล้ายงวงช้าง จะดูดเอาน้ำทะเลและทุกอย่างขึ้นสูงและตกลงมา แน่นอนว่าเรือใบไม่มีกำลังหนีไปได้ และถ้าถูกดูดเข้าไปเมื่อตกลงมาก็จะเจอฝูงฉลาม
ตอนนั้นทุกคนตกใจ แต่ความเป็นลูกทะเลของเสด็จเตี่ยท่านควบคุมอารมณ์ได้ดีมาก ท่านแก้สถานการณ์โดยการให้ลูกเรือทุกคนใช้ปืนยิงลมงวง
ท่านคาดว่าแรงสะเทือนจากกระสุนปืนจะทำให้ลมแตกกระจายจนหมดกำลัง อย่างน้อยก็ช่วงสั้น ๆ
และก่อนที่ลมจะรวมตัวกันอีกครั้ง ทุกคนจะต้องกระหน่ำยิงลมงวงไม่ให้รวมตัวได้
จะเป็นเพราะความสามารถในการแก้ไขสถานการณ์ หรือเพราะลมไม่แรงมากก็ตามที แต่เหตุการณ์นี้ทุกคนก็รอดชีวิตมาได้จึงเป็นที่มาของประโยคที่ว่า
"..ไม่ต้องกลัว ถึงคราวตายก็ต้องตาย
แต่เตี่ยจะยิงลูก ๆ ก่อน ถ้าเรือแตกจะไม่ยอมให้ฉลามมันทรมาน มีพ่อแล้วไม่ต้องกลัวอะไร"
ซึ่งเป็นวาทะที่แสดงถึงความกล้าหาญ กล้าได้กล้าเสีย
อันเป็นนักเลงอย่าที่ใครพากันเรียกท่านค่ะ
เป้ย 11 Oct 20
โฆษณา