14 ต.ค. 2020 เวลา 14:21 • ความคิดเห็น
ประชาชนจะฆ่ากันอยู่แล้ว ตลอดเวลา ทุกครั้งที่เผชิญหน้ากัน คุณลองนึกดูสิ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
ไม่ว่าจะความเชื่อใด หรือ อำนาจ บารมีใด ที่คุณยึดมั่นถือมั่น มองว่ามันวิเศษ มันประเสริฐสุด มันศักดิ์สิทธิ์ที่สุด แต่ทำไมสิ่งที่คุณยึดถือนั้นถึงนำพาให้ประเทศมาถึงจุดนี้ได้อ่ะ มันต้องมีอะไรที่ "ผิด" รึเปล่า อะไรที่มันเป็นอยู่นั้นไม่ "จริง" ใช่รึไม่ คุณต้องกล้าตั้งคำถาม และตั้งคำถามทั้งสองฝั่ง ตั้งคำถามให้รอบด้าน ไม่งั้นคุณก็ไม่เจอคำตอบที่ถูกต้อง
ณ วันนี้มันก็เต็มไปด้วยความเกลียดชังกันอ่ะ เป็นเรื่องยากที่คน 2 ฝั่งเมื่อเผชิญหน้ากันจะไม่เกิดการปะทะ เราเดินมาไกลเกินความเห็นต่างแล้ว สังคมต้องยอมรับแล้วว่ามันเป็นความเกลียดที่สั่งสมมารอวันปะทุอีกครั้ง
เราต้องยอมรับว่าในทุกสีเสื้อก็มีทั้งคนที่ไม่ชอบความรุนแรง และก็มีบ้างบางคนที่กระสันความรุนแรง มันคือความจริง คือเรื่องจริง ม็อบมันก็เป็นแบบนี้ทุกที่ และทุกครั้ง เราต่างก็รู้ดีว่า มันไม่มีหรอกที่ไม่มีการสูญเสีย แต่เราก็ต้องพยายามให้มันสูญเสียน้อยที่สุด แต่มันก็ยากจริงๆ ในเมื่อต่างฝ่ายต่างพ่นคำพรุสวาทใส่กัน เหยียดกันไปมา พร้อมที่จะปะทะ เมื่ออุณหภูมิมันร้อน หลายอย่างมันก็เอื้อให้เกิดการปะทะ มันยากที่จะหยุดอ่ะ
มันไม่ใช่แค่สิ่งที่บ่มเพาะกันเพียงชั่วข้ามคืน แต่มันเป็นสิ่งที่บ่มเพาะกันมาแรมปี เราต้องเข้าใจว่ามันยากจริงๆ มันยากมากที่ ใครสักคนนึงจะเดินยิ้มแย้มแล้วเข้ามาจับมือกัน(ถ้าไม่ได้มีแนวคิดเดียวกัน)
เราต้องตระหนัก ยอมรับและเข้าใจว่า เราต้องให้เวลากับปัญหานี้ให้มากค่ะ ถ้าเราเลือกทางที่สูญเสียน้อยที่สุด เราต่องให้เวลากับมันมากๆ
เรายังหวังเสมอ หวังว่าเราจะเจอทางออกที่ดีร่วมกัน
หวังว่าสังคมจะรับฟังกัน เข้าใจหัวอกซึ่งกันและกัน แก้ปัญหาไปด้วยกัน ก่อนที่มันจะเลวร้ายยิ่งขึ้นไป
สิ่งที่เลวร้ายที่สุดก็คือ คนที่อยู่เบื้องหลัง คอยผลักดันให้ประชาชนปะทะกันเอง เป็นอะไรที่น่าทุเรศเกินกว่าจะบรรยายได้ ก็หวังว่า วันนึงความชั่วร้ายนั้นจะพินาศหายไป หวังว่าเราจะผ่านไปได้ด้วยดี ตอนนี้ก็ภาวนาขอให้ประชาชนทุกคนปลอดภัย และยังมีสติพอที่จะมองเห็นว่า เราต่างก็เป็นเพื่อนมนุษย์ เป็นปุถุชน คนธรรมดาเหมือนกัน ตอนนี้บอกได้แค่ว่า ใครที่อดทนอดกลั้นกว่า คือผู้ชนะ ชนะใจตนเอง และมีคุณค่าคู่ควรกับคำว่า มนุษย์ผู้ศิวิไลซ์ค่ะ
ขอเป็นกำลังใจให้ประเทศเราค่ะ
โฆษณา