17 ต.ค. 2020 เวลา 04:30 • การเมือง
ตีโจทย์ผิด คำตอบมันก็ไม่มีวันถูกหรอก
 
....และมันก็สายไปแล้วล่ะนะ....
...ผมเขียนบทความนี้ประมาณห้าทุ่มวันที่ 16 ตุลาคม 2563 เพราะรอดูว่าวันนี้สถานการณ์จะเป็นอย่างไร
หลังจากคืนวันที่ 15 นั้นม็อบคนค่อนข้างเยอะมาก
จะดูว่าคนจะซาไหมนั่นแหละ
...ซึ่งทุกอย่างก็เป็นไปอย่างที่ทุกคนเห็นแหละครับ ผมคงไม่ต้องรายงานซ้ำ...
ดูเหมือนว่ารัฐบาลยังคงมีชุดความคิดที่เชื่อว่า
การจับแกนนำ สลายการชุมนุมนั้น
จะเป็นทางออกของทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้อยู่
...และ ยังเชื่อด้วยว่ามีการสนับสนุนจากฝ่ายการเมือง
ดูได้จากคำให้สัมภาษณ์ของนายกตอนบ่าย
รวมถึงการบุกที่ทำการพรรคก้าวไกลในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน...
...ถามว่า มันใช่ไหม ???...
ผมก็เชื่ออยู่นะ ว่ากลุ่มการเมืองให้การสนับสนุนในแง่เงินทุนอยู่บ้าง เพราะม็อบต้องใช้เงิน
...แต่ การสนับสนุนมันไม่ใช่ตัวทำให้เกิดม็อบ หรือทำให้ม็อบมาได้ขนาดนี้แน่นอน...
ทุกท่านในรัฐบาลทหาร ผ่านม็อบมาหลายม็อบ
ในระหว่างรับราชการ
ซึ่งถ้าพูดกันแบบแฟร์ๆ ม็อบเหลืองแดงนั้น
ก็มีลักษณะของการจัดตั้งจากกลุ่มการเมืองทั้งคู่จริงๆ
...ผมไม่ได้บอกว่า ทุกคนที่ๆปม็อบถูกจ้างนะ ...
...แต่มันเหมือนคุณจัดฟรีคอนเสิร์ตนั่นแหละ คนชอบเค้าก็มาดูได้ มีเวที มีแสงสีให้เป็นเรื่องเป็นราว...
...ม็อบแบบนี้ ถ้าไม่มีคนจัด คนอำนวยความสะดวก มันก็ไม่มีใครไปครับ
...และรัฐบาลฝังใจว่าม็อบทุกม็อบเป็นแบบนี้...
แต่ม็อบเที่ยวนี้มันต่างไปมาก....
จากการเมืองนำม็อบ มันเปลี่ยนมาเป็นม็อบนำการเมือง
พูดง่ายๆ คือ เมื่อม็อบจุดติดมาจากแนวคิดจริงๆ แล้วการเมืองจึงเข้ามาสนับสนุน
...ม็อบแบบนี้ ไล่จับไล่ทุบไปก็ไม่มีประโยชน์หรอกครับ...
ที่จริงมันให้ผลตรงข้ามเลยด้วยซ้ำ ไล่จับไปก็รังแต่จะเพิ่มความรู้สึกต่อต้านซะมากกว่า
รัฐบาลต้องทราบว่าม็อบแบบนี้มันเกิดจากการตกผลึกทางความคิดแล้ว จากการเสวนากันทางช่องทางต่างๆ เขาจึงค่อยออกมากัน
ไม่ใช่ม็อบที่รอการป้อนชุดความคิดแบบที่รัฐบาลเจอมา
ม็อบแบบนี้น่ากลัวครับ เพราะทุกคนมันเหมือนแกนนำหมด แถมเด็กสมัยนี้ก็กล้าขึ้น ถ้าให้มันขึ้นเวที มันกล้าเกือบทุกคนแหละ
...ดังนั้น การจับแกนนำ มันไม่ช่วยอะไรเลย...
ซึ่งจนถึงตอนนี้ ดูเหมือนว่ารัฐบาล ยังตีโจทย์ไม่แตก...
...หรืออีกกรณีคือ รู้ทั้งรู้นั่นแหละ ว่าม็อบเป็นแบบไหน
แต่ต้องการที่จะปราบมากกว่า เพราะเป็นวิธีที่แก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่ง่ายที่สุด ถนัดที่สุด
เพราะรัฐบาลเชื่อว่าม็อบเป็นแบบแรกที่กล่าวถึง
คือ มีแกนนำ มีนายทุน และไร้แนวคิดของตน
พวกเขาจึงต้องหากฎหมายพิเศษมาเพื่อรองรับ แนวทางที่พวกเขาจะกระทำ
และนั่นก็คือที่มาของการออก พ.ร.ก. ฉุกเฉิน....
...แล้วก็นำมาซึ่งการปราบม็อบแบบข้ามขั้นตอน ในค่ำที่ผ่านมาในที่สุด โดยอ้างว่าละเมิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
...ซึ่งถ้าว่ากันตามกฎหมายปกติ รัฐบาลจะไม่มีความชอบธรรมในการปราบม็อบแบบนี้ เพราะความผิดยังไม่สำเร็จ (วันนี้สลายตั้งแต่ยังไม่มีการปราศรัยอะไรเลย เป็นการจับคนตั้งแต่เดินทางมา) ตามกฎหมายธรรมดา ทำไม่ได้ครับ
...แต่เมื่อประกาศกฎหมายพิเศษแล้ว มันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง....
ในแง่กฎหมาย รัฐบาลย่อมมีความชอบธรรมตามประกาศของตนเอง
แต่ในแง่หลักนิติธรรม รัฐบาลมีความชอบธรรมหรือไม่ นั่นคือปัญหา.....
...เพื่อความชอบธรรมของตัวรัฐบาลเอง พวกเขาใช้มุกเดิม ที่ใช้มาตลอดคือ "ปกป้องสถาบัน" ในการออกกฎหมายพิเศษ
...โดยอ้างเหตุขวางขบวนเสด็จฯในวันที่ 14 ที่ผ่านมา
มาเป็นเหตุผลในการประกาศกฎหมาย...
...ซึ่งผมบอกเลยว่า ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง!...
เพราะหลังเหตุการณ์นั้น ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับสถาบันเลย ขบวนต่างๆก็ไม่มี จะนำมารวมกันไม่ได้
ผมไม่แน่ใจว่าท่านทราบไหมว่า...
...การที่ท่านประกาศด้วยเหตุผลเช่นนั้น และใช้กฎหมายเช่นนั้น ผลมันจะเป็นอย่างไร !....
...ถ้าท่านอยากรู้ ผมว่าท่านควรดูกระแสในสื่อโซเชี่ยล
หลังจากเหตุการณ์เมื่อหัวค่ำ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
และโยงไปถึงเบื้องสูงอย่างไร...
...เรียกว่าหมดความเกรงกลัว เกรงใจกันเลยล่ะ...
...ท่านควรสำนึกว่ามันก็เพราะท่านนั่นแหละ
นำเบื้องสูงมาอ้าง ทำให้ผลเป็นแบบนั้น...
...มันเลวร้ายกว่าเดิมมากนะ ผมเชื่อว่าท่านก็มีทีมมอนิเตอร์อยู่ ซึ่งก็ต้องเห็นแหละ...
...พูดตรงๆ ผมไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่ารัฐบาลกำลังปกป้อง
หรือ ทำร้ายสถาบันกันแน่ กับสิ่งที่ทำ !
...เพราะสุดท้ายท่านก็หยุดม็อบไม่ได้อยู่ดี ...
ปัญหาที่ทำให้ม็อบจุดติด มันเกิดจากหลายส่วน
เข้ามาผสมกันจนเป็นแนวคิดของม็อบออกมา
ดังนั้นถ้าท่านจะแก้ปัญหา ท่านต้องรื้อวิธีคิดใหม่ทั้งหมด
...หรือถ้ารู้แก่ใจอยู่แล้ว ก็ต้องปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น แทนที่จะอ้างแต่ความภักดีแล้วไม่สร้างผลงานที่ดี แบบที่เป็น
...มันแก้อะไรไม่ได้หรอก แบบที่ทำอยู่น่ะนะ...
การที่รัฐบาลเลือกแนวทางนี้ ผมบอกเลย มันจะพาประเทศเข้ารกเข้าพง เร็วๆนี้แหละ
...และออกจะสายไปด้วยซ้ำ ถ้าท่านจะกลับตัว เปลี่ยนท่าทีมาถึงตรงนี้แล้ว ปมมันฝังในใจประชาชนไปแล้วล่ะ
...โดยเฉพาะกับเด็ก...
...ท่านจะบริหารประเทศอย่างไรในเมื่อคนจำนวนมาก และเป็นอนาคตของประเทศเกือบทั้งหมดไม่เห็นด้วยกับท่าน
...ท่านจะจับทุกคนที่เห็นต่างมันก็คงไม่ได้...
...ท่านจะห้ามเขาจาบจ้วงก็ไม่ได้อีก
ท่านไม่มีปัญญาขนาดนั้นบนโลกไซเบอร์
และเมื่อท่านห้ามไม่ได้ แนวคิดมันก็ไม่หยุด
โดยเฉพาะเมื่อท่านทำแบบที่ทำวันนี้ มันก็ยิ่งเร่งปฏิกิริยา....
...สิ่งที่ท่านทำวันนี้ จะส่งผลกับเศรษฐกิจแน่นอน
โดยเฉพาะถ้ายังดำเนินการแบบนี้ต่อไป
ท่ามกลางกระแสกีดกันทางการค้าที่เกิดอยู่ทั่วโลก ที่ข้ออ้างนิดเดียวก็เป็นประเด็นได้ ท่านคิดว่าจะรอดเหรอที่ทำแบบนี้
...ฝัน ที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยว ไม่ต้องเถียงกันแล้วล่ะ
จะให้กักตัวกี่วัน
...ข่าวม็อบ ตีไปทั่วโลกแบบนี้ ไม่ต้องกักตัวก็ไม่มีใครมาหรอก
ท่านผิดพลาดอย่างร้ายแรง และไม่น่าให้อภัยเลย
...และผมก็เชื่อด้วยว่า ท่านไม่มีปัญญารับผิดชอบผลที่จะตามมาได้หรอก แม้ว่าจะด้วยชีวิตก็ตาม....
วิธีคิดของรัฐบาล ซึ่งเป็นแบบทหารนั้น ก่อให้เกิดเรื่องแบบวันนี้ขึ้น
มันอาจไม่ใช่ครั้งแรกที่เมืองไทยเกิดความรุนแรง
มันอาจไม่ใช่ความสูญเสียที่มากมายอะไร
...แต่เชื่อเถอะ กับเด็กแล้ว ภาพที่ท่านสร้างไว้
มันจะทำลายความชอบธรรมทุกอย่างของท่าน
รวมถึงความรู้สึกต่อเบื้องสูงในสายตาของพวกเขา...
ตอนนี้ท่านจะคุยอะไรเขาคงไม่ฟังแล้วล่ะ
ในอนาคตอันใกล้นี้ ผมเชื่อว่าการแสดงออกผ่านการเลือกตั้ง มันจะทำให้พวกท่านน้ำตาตกแน่นอน
...นั่นคืออนาคตซึ่งเป็นผลจากการกระทำของพวกท่านในวันนี้ ขอให้สำนึกไว้เมื่อถึงวันนั้น....
ปัจจุบัน คือเครื่องกำหนดอนาคต...
ถ้าเราคิดว่าเด็กคืออนาคต รัฐบาลก็ได้ทำลายอนาคตในแบบที่อยากให้เป็นไปแล้ว ด้วยน้ำมือของพวกเขาเอง
...เมื่ออนาคตไปถึงจุดนั้น อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดแล้วล่ะ
ไม่มีใครห้ามได้หรอก ไม่ว่าด้วยอาวุธอะไรก็ตาม...
ก็ในขณะที่ท่านเขียนอนาคตได้ ท่านเลือกไม่ทำนี่ ....
...หนีอนาคตที่ทำไว้เองไม่พ้นหรอกครับ จะว่ากรรมก็ใช่...
...ไม่เชื่อก็คอยดู ผมเชื่อว่าท่านยังไม่ตายแน่เมื่อวันนั้นมาถึง...
...ไม่นานเกินรอ....
...ท่านต้องได้รับผลจากวันนี้ที่ท่านพลาด....
...หรือจงใจพลาดก็ตาม!....
ภาพจากโพสทูเดย
โฆษณา