23 ต.ค. 2020 เวลา 05:51 • ความคิดเห็น
บอกเล่าเรื่องราวในฐานะที่ปรึกษาการตลาดจีน ทำงานอย่างไร ให้รักษาผลประโยชน์แก่คนไทยมากที่สุด ในฐานะ 'บ้านของเรา' และไม่เป็นการเปิดช่องให้คนจีน 'บุกไทย' มากเกินไป
ภาพจาก www.pixabay.com
หนึ่งในงานที่ผมทำมาเกือบสิบปี คืองานที่ปรึกษาการตลาด โดยเฉพาะการตลาดจีน เพื่อช่วยผู้ประกอบการไทย ไม่ว่ารายเล็กหรือรายใหญ่ เข้าถึงกลุ่มลูกค้าชาวจีนให้ได้ตามเป้า
กลุ่มลูกค้าก็มีหลาย segment เลย ไม่ว่าจะกลุ่มอาหารเครื่องดื่ม บริการ อุตสาหกรรมท่องเที่ยว ไปจนถึง 'อสังหาริมทรัพย์'
อสังหาริมทรัพย์ในไทย เป็นที่หมายปองในกลุ่มคนจีนมาก แต่ถ้าถูกกฎหมายจริงๆที่คนจีนครอบครองได้ คือ ห้องชุด-คอนโด ตามโควต้าจำนวนห้องที่แต่ละผู้พัฒนาอสังหา-เจ้าของคอนโด สามารถขายให้ต่างชาติได้
ย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว มี บ.อสังหาแห่งหนึ่ง ติดต่อผม โดยให้งบ 7 หลักต่อเดือน ในการทำการตลาดเพื่อดึงดูดคนจีนมาซื้อ "บ้านจัดสรร" หลังละระดับสิบล้านอัพ (เราไม่รู้ว่า บ.ไหนนะครับ เพราะติดต่อเราผ่านบ.อื่นอีกที)
ผมคุยกับหุ้นส่วนในตอนนั้นทันทีว่า "ไม่รับทำ" (ปัจจุบันผมขายหุ้นบ.เดิมไปแล้ว แต่ยังคงทำธุรกิจสายที่ปรึกษาเหมือนเดิม) คือไม่แม้แต่เข้าไป Pitch (นำเสนอเพื่อรับงาน) ด้วยซ้ำ แม้ว่าเงินจะเยอะขนาดไหน แต่สำหรับพวกผม พวกเราคิดกันว่า "มันเหมือนเป็นการนำแผ่นดินไปให้คนชาติอื่น" คนอื่นคิดอย่างไรเราไม่รู้ แต่พวกเราคิดกันแบบนี้
เพราะในความเป็นจริง การถือครองที่ดินในไทยของคนจีน - กลุ่มนายทุน ส่วนใหญ่มักเป็นสีเทา ไม่ถูกกฎหมายนัก ผ่านตัวแทนคนไทยมาถือที่ดินแทน ที่เราเรียกว่า Nominee หรือจดนิติบุคคลมาถือ ซึ่งบางคนอาจมองในมุม ก็ได้เงินเข้าคนไทยนิ แต่ถ้ามองลึกกว่านั้น เม็ดเงินจำนวนไม่น้อยไปอยู่ที่กลุ่มทุนจีน
จากประเด็นหลายประเด็นของเรื่องราว “จีนหลอกจีน" ที่มีการนำเสนอตลอดหลายปีที่ผ่านมา ที่คนจีนใช้สถานที่ในประเทศไทย เป็นแหล่งหลอกลวง ก็ชี้ให้เห็นถึงจุดบกพร่อง จุดบอดบางอย่างในไทย ที่คนต่างชาติ อย่างเช่นคนจีน เขามาอาศัย มาทำงาน มาทำธุรกิจ มาซื้อนู่นนี่นั่นได้ง่าย จนรู้สึกง่ายเกินไป ที่ว่าง่าย เพราะมีคนไทยบางกลุ่ม คอยอำนวยความสะดวกให้
ประเทศไทยของเราจะดี จะแข็งแรงขึ้นได้ ควรเริ่มจากคนในประเทศ ให้คิดถึงประเทศจริงๆ ไม่ใช่แค่ผลประโยชน์ส่วนตัว
แต่ก็นั่นแหล่ะครับ บางทีมันช่างยากเหลือเกิน ในการแก้ไข แต่เราก็ต้องช่วยกันครับ。。。
โฆษณา