30 ต.ค. 2020 เวลา 23:00
#ระวังจิตปรามาสต่อพ่อแม่ครูบาอาจารย์
“ เวลาพูดคำว่า ปรามาส โดดๆ มักหมายถึง การดูถูก หรือดูหมิ่น เช่น ปรามาสพระรัตนตรัย คือ ดูหมิ่นพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ หรือ ปรามาสพระอริยะสงฆ์ เช่น บางครั้งบางคราวเราไปพบกับคุณธรรมอันวิเศษของท่านโดยบังเอิญ ก็ไปคิดว่าท่านเล่นกล เป็นต้น
ทั้งนี้การอยู่ใกล้กับพระสุปฏิปันโนที่ท่านเป็นอริยะสงฆ์ หรือบุคคลที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบจนยกระดับจิตขึ้นสู่ความเป็นอริยบุคคลแล้วจึงต้องระมัดระวังสำรวมกาย วาจา ใจ ให้จงดี แม้เราจะมีความลังเลสงสัยในตัวท่านอย่างไรก็ห้ามคิดปรามาสต่อท่าน มิฉะนั้นจะเป็นการก่อกรรมหนักโดยไม่รู้ตัว เจอพระดีแล้วก็อย่าปรามาส เราก็ขอขมากรรมกันไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง
จริงๆพ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่านไม่ได้ถือสาหาความอะไร แต่กรรมนั้นๆที่ได้ทำไปแล้วย่อมไม่สูญหายไปไหน เพราะได้ถูกบันทึกไว้แล้ว ยมทูตที่แท้จริงคือกรรมในตัวของเรานั่นแหละ ใจเปรียบเหมือนชิปคอมพิวเตอร์ จิตใต้สำนึกจะถูกบันทึกโดยอัตโนมัติ ให้มีศีล เชื่อมั่นในคุณของพระรัตนตรัย มีความเพียร มีสัจจะ ถูกต้องดีงามตามองค์บริกรรมกรรมฐาน พยายามปฏิบัติต่อเนื่องไปเรื่อยๆ อย่าหย่อนความเพียร ไม่อย่างนั้นจะเกิดการปรามาสพ่อแม่ครูบาอาจารย์ จะคิดว่าพ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่านไม่ดีเหมือนเรา เริ่มโกหก จากโกหกตัวเองก่อน
โกหกว่าปฏิบัติได้ในระดับนั้นระดับนี้ เกิดปรามาสคิดว่าพระอริยะเจ้าท่านจะไม่ดีเหมือนเรา ให้ระวังไว้นะแค่นิดเดียวก็เป็นการปรามาสแล้ว เพราะฉะนั้นการปฏิบัติ เราอย่าเข้าข้างตัวเอง เพราะล้วนเกิดจากกิเลสที่สิงสถิตอยู่ในตัวเรา ให้ระวังให้ดี “
ครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้า
โฆษณา