4 พ.ย. 2020 เวลา 13:35 • ประวัติศาสตร์
สรุป “การปฏิวัติรัสเซีย (Russian Revolution)”
1
“การปฏิวัติรัสเซีย (Russian Revolution)” เป็นเหตุการณ์สำคัญเหตุการณ์หนึ่งในประวัติศาสตร์รัสเซีย
เหตุการณ์นี้ได้เปลี่ยนแปลงรัสเซียไปอย่างสิ้นเชิง
ในช่วงที่ราชวงศ์เรืองอำนาจ ประชาชนชาวรัสเซียต่างมีชีวิตที่ยากลำบาก
เมื่อสิ้นสุดศตวรรษที่ 19 ผู้คนในชนบทส่วนมากคือชาวนาที่มีฐานะยากจน พวกเขานั้นหิวโหยและต้องอยู่อย่างยากลำบาก
ชนบทของรัสเซีย
เมื่อเวลาผ่านไป ผู้คนเริ่มทยอยเข้ามาทำงานในเมือง คนจากชนบทเหล่านี้ก็ได้กลายเป็นคนงานในโรงงาน และเริ่มขยับฐานะ กลายเป็นชนชั้นกลาง
คนกลุ่มนี้ไม่ชอบราชวงศ์และต้องการจะมีอำนาจ มีสิทธิมีเสียงมากขึ้น
2
ในราวปีค.ศ.1906 (พ.ศ.2449) “พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 แห่งรัสเซีย (Nicholas II of Russia)” ได้ทรงก่อตั้งสภาดูมา หากแต่พระองค์ก็ไม่ทรงต้องการจะยกอำนาจให้ประชาชน และได้สั่งยุบสภาในเวลาต่อมา
พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 แห่งรัสเซีย (Nicholas II of Russia)
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 กองทัพรัสเซียได้สูญเสียทหารไปเป็นจำนวนมากจากการรบกับเยอรมนี และฤดูหนาวในปีค.ศ.1916 (พ.ศ.2459) และค.ศ.1917 (พ.ศ.2460) ก็หนาวเย็นมาก ผู้คนต่างอดอยากและต้องอยู่อย่างหนาวเหน็บ
ประชาชนต้องการให้สงครามสิ้นสุดลง
1
ในที่สุด เดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ.1917 (พ.ศ.2460) ได้เกิดการชุมนุมต่อต้านพระเจ้าซาร์ขึ้นที่เปโตรกราด (ปัจจุบันคือเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก) และกองทัพก็ได้เข้าร่วมกับผู้ชุมนุม ต่อต้านพระเจ้าซาร์
ในที่สุด พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 ทรงถูกบังคับให้สละราชสมบัติ
4
การปฏิวัติรัสเซีย ค.ศ.1917 (พ.ศ.2460)
ภายหลังจากที่พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 สละบัลลังก์ สภาดูมาก็ได้จัดตั้งรัฐบาลใหม่ แต่ก็ยังคงไม่สามารถแก้ไขปัญหาในรัสเซียได้
ในขณะเดียวกัน กลุ่มคนงานก็ได้รวมกลุ่มกัน จัดตั้งกลุ่ม “โซเวียตส์ (Soviets)”
1
กลุ่มโซเวียตส์ถูกจัดตั้งขึ้นที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และแพร่ขยายไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว
ในขณะที่รัฐบาลดูมาอ่อนแอลงเรื่อยๆ กลุ่มโซเวียตส์ก็ได้แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
แต่ถึงจะแข็งแกร่ง แต่กลุ่มการเมืองหลายๆ กลุ่มในโซเวียตส์ก็ได้ต่อสู้ แย่งชิงอำนาจกัน และในท้ายที่สุด “พรรคบอลเชวิก (Bolshevik)” ซึ่งมีผู้นำคือ “วลาดีมีร์ เลนิน (Vladimir Lenin)” ก็ได้ขึ้นเป็นใหญ่
1
ประชาชนส่วนใหญ่ชื่นชอบบอลเชวิก เนื่องจากพรรคนี้สัญญาว่าจะมอบที่ดิน สันติภาพ และอาหารให้ประชาชน
ตุลาคม ค.ศ.1917 (พ.ศ.2460) พรรคบอลเชวิกได้ขึ้นเป็นรัฐบาล และเลนินก็กลายเป็นผู้ที่มีอำนาจมากที่สุด อีกทั้งพรรคการเมืองอื่นๆ ก็ถูกกีดกัน
2
วลาดีมีร์ เลนิน (Vladimir Lenin)
ภายใต้การนำของพรรคบอลเชวิก ที่ดินทุกแห่งต้องเป็นของรัฐ อีกทั้งยังให้สิทธิคนงานในโรงงาน ให้มีสิทธิมากกว่าเดิม
3
เลนินได้นำพารัสเซียออกจากสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยมีการเซ็นสนธิสัญญากับเยอรมนีในปีค.ศ.1918 (พ.ศ.2461) และทำให้รัสเซียต้องเสียดินแดนบางส่วน
1
ในไม่ช้า พรรคบอลเชวิกก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “พรรคคอมมิวนิสต์ (Communist Party)”
1
ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 จบลงได้ไม่นาน ก็ได้เกิดสงครามกลางเมืองระหว่างพรรคบอลเชวิกและกองกำลังต่อต้านคอมมิวนิสต์ ซึ่งต้องการให้ราชวงศ์กลับมาเรืองอำนาจ
สงครามนี้จบลงด้วยชัยชนะของกองทัพแดงฝั่งเลนิน และการปฏิวัติก็ได้จบลง
พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 และครอบครัวถูกปลงพระชนม์ในปีค.ศ.1918 (พ.ศ.2461) และในปีค.ศ.1922 (พ.ศ.2465) รัสเซียก็ได้กลายเป็นสหภาพโซเวียต
1
การสังหารหมู่ราชวงศ์รัสเซีย
โฆษณา