อาณาจักร 31 ไร่ สวนผักไทยแห่งแรกในยุโรป สร้างรายได้อาทิตย์ละเกือบสี่หมื่นบาท
สาวศรีสะเกษปันความรู้ วิธี "ปลูกผักไทย" ในเมืองหนาว จากประสบการณ์ 20 ปี เริ่มจาก 1 แปลง สู่อาณาจักรสวนผักไทยปลอดสารพิษกว่า 20 ชนิด แห่งแรกในยุโรป 31 ไร่ ขายราคาช่วยคนไทยได้กินผักดีๆ สร้างรายได้อาทิตย์ละ 4 หมื่นกว่า
คนไทยที่อยู่ในต่างประเทศ ย่อมคิดถึงอาหารไทย และอยากทำกินเอง แต่การหาซื้อพืชผักไทยไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ส่วนมากมักเจอปัญหาผักไทยราคาแพง หรือหาซื้อยาก แถมบางครั้งกว่าจะหาซื้อได้จากร้านคนจีน ผักกลับเหี่ยว
ด้วยข้อจำกัดนี้เอง คุณอรัญญา เฮ็นส์ หรือเจี๊ยบ ที่ได้รับฟังปัญหาจากคนไทยในเยอรมนีบ่อยๆ จึงเลือกเปลี่ยนอุปสรรคให้เป็นโอกาส ต่อยอดธุรกิจไร่สวนผักฝรั่งของสามี หันมาปลูกผักไทยในเมือง Nettetal ซึ่งอยู่ติดกับเขตเนเธอร์แลนด์ มากว่า 20 ปี
: สามีฝรั่งคัดค้าน ชี้อากาศในเยอรมนี ไม่เอื้อปลูกผักไทย :
คุณเจี๊ยบเปิดใจข้ามทวีปกับทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ว่า จุดเริ่มคิดปลูกผักไทย ย้อนไป 20 ปีที่แล้ว สามีมีอาชีพเป็นชาวไร่ ปลูกผักทุกอย่างของเยอรมนีขาย อาทิ สลัด มันฝรั่ง แอสพลากาสกัน ส่วนคุณเจี๊ยบก็ช่วยสามีทำสวนผักฝรั่งมาตลอด
กระทั่งสามีอายุ 65 ปี เกษียณตัวเองและมาบอกจะยกที่ดินกว่า 31 ไร่ให้คนอื่นเช่า แต่คุณเจี๊ยบไม่อยากอยู่เฉยๆ และชอบปลูกผัก รู้สึกเสียดาย อีกทั้งได้ฟังปัญหาจากเพื่อนคนไทยว่าหาซื้อผักไทยกินยาก เลยขอสามีปลูกผักไทย แต่กลับถูกคัดค้าน ด้วยเหตุผล “ผักบ้านเธอปลูกไม่ขึ้นหรอก อากาศบ้านฉันไม่เหมือนบ้านเธอ”
“ได้ยินสามีพูดแบบนั้น มันเป็นเหมือนพลังให้เราต้องลองทำให้ได้ และคิดว่าลองดูก็ไม่น่าเสียหายอะไรนี่ ถ้าปลูกผักไทยไม่ได้ก็จะยอมสามีให้คนอื่นมาเช่าที่อย่างที่ต้องการ” คุณเจี๊ยบกับแนวคิดที่มุ่งมั่น
: สามีฝรั่งสุดประหลาดใจ คะน้าปลูกได้สำเร็จในเยอรมนี :
เพราะอยากพิสูจน์คำพูดสามี เมื่อบินกลับมาเยี่ยมบ้านเกิด อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ คุณเจี๊ยบก็ซื้อเมล็ดพันธุ์พืชผักต่างๆ ที่คิดอยากปลูก ทั้งเป็นกิโลฯ และกระป๋องใหญ่ หมดเงินเกือบ 3 หมื่น อาทิ ถั่วพู บวบกลม บวบงู มะระ ฟักทอง ฟัก พริก มะเขือ คะน้า กวางตุ้ง ผักบุ้ง ผักชี โหระพา กะเพรา แมงลัก ผักขี้หูด ผักกวางตุ้ง สะระแหน่ ใบขึ้นฉ่าย
เมื่อบินกลับถึงเยอรมนี คุณเจี๊ยบก็ลุยทดลองปลูกผักสวนครัวของไทยทันที ทดลองปลูกเริ่มจาก 1 แปลง ไถพรวนพลิกดิน 3-4 ครั้ง แล้วใส่ปุ๋ยขี้วัวจากฟาร์มวัวของเพื่อนสามีไถพรวนอีกครั้ง ไถยกร่องทำแปลงปลูก แล้วเลือกวิธีหว่านเมล็ดคะน้าให้กระจายทั่วแปลงมากกว่าปลูกแบบย้ายกล้า เพราะจะช่วยให้เติบโตเร็วกว่า จากนั้นรดน้ำให้ทั่วถึงสม่ำเสมอเช้า-เย็น
ในทุกๆ วันคุณเจี๊ยบลุ้นระทึกว่าคะน้าจะโตหรือไม่ ผ่านไป 7 วัน คะน้าเริ่มงอก คุณเจี๊ยบดีใจมาก อีก 45 วันต่อมาผักคะน้าเติบโตเต็มที่ และนำไปทำอาหารไทยได้ ความรู้สึกที่ปลูกผักไทยสำเร็จเป็นครั้งแรก คุณเจี๊ยบบอก
“พอต้นเริ่มงอก ดีใจมากที่เราลบคำสบประมาทของสามีได้ รีบไปบอกสามี สามีก็ตกใจมาก ไม่คิดว่าจะปลูกได้ พอคะน้าโตพอมาทำอาหาร ก็นำมาผัด กินแล้วไม่เหม็นเขียว รสชาติไม่ขม กรอบมาก เพื่อนคนไทยรู้ก็ตื่นเต้นกันมาก มาขอซื้อ แต่ไม่ได้ขาย ให้ฟรีไปเลย”
: สูตรจากฝรั่งเยอรมนี กำจัดทากราบคาบอย่างน่าทึ่ง :
หลังผักไทยปลูกได้จริงๆ คุณเจี๊ยบก็ลุยปลูกผักสวนครัวชนิดอื่นๆ อีกกว่า 20 ชนิดอย่างมีความสุขและไม่รู้สึกเหนื่อย เพราะมีเครื่องทุ่นแรงต่างๆ ซึ่งเป็นอุปกรณ์เดิมของสามีที่เคยปลูกผักฝรั่งขาย อาทิ รถไถแปลง รถหว่านเมล็ด ระบบสปริงเกอร์ใต้ดินเพื่อรดน้ำ สามีจากเคยคัดค้านก็เปลี่ยนเป็นสนับสนุน มาช่วยไถแปลง หว่านเมล็ด ส่วนคุณเจี๊ยบดูแลเรื่องแมลงหรือวัชพืช เพื่อให้ผักสวยงาม
ในทุกวันหลังดูแลครอบครัว คุณเจี๊ยบจะไปไร่ นอกจากพรวนดิน กำจัดหญ้า จะดูพืชผักว่ามีแมลง หนอนมาชอนไชไหม หากมีก็กำจัดด้วยวิธีใช้น้ำหมักใบยาสูบและพริกฉีดพ่น ส่วนตัวทากที่มักมากินผัก ผลไม้ในตอนกลางคืน ถ้าไม่กำจัดจะแพร่พันธุ์เยอะมาก คุณเจี๊ยบก็ได้เคล็ดลับจากเพื่อนสามี ซึ่งเป็นวิธีสุดเหลือเชื่อ แต่คุณเจี๊ยบบอกได้ผลจริงๆ
“มีฝรั่งคนหนึ่งมาเล่าให้ฟัง เคยนั่งกินเบียร์เห็นตัวทากกำลังมาใกล้ ก็คิดขำๆ คงอยากกินเบียร์ เลยเทให้กิน เช้ามาเห็นทากนอนตายบนเบียร์ ฟังแล้วก็ไม่เชื่อเท่าไร แต่คิดว่าลองดูหน่อยละกัน ไปซื้อเบียร์มา 1 กระป๋อง เทใส่จานทิ้งไว้ วางในแปลง พอเช้ามาทากตายบนจานเบียร์เต็มเลย”
: รายได้ขายผักอาทิตย์ละเกือบสี่หมื่น มุ่งขายถูก ไม่หวังรวย :
จากเริ่มต้นปลูกผักไทยเพียง 1 แปลง คุณเจี๊ยบขยับขยายไปเรื่อยๆ จนปลูกไปทั้งสิ้น 36 ไร่ ในเวลาหนึ่งปี กลายเป็นคนไทยคนแรกที่ทำสวนผักในยุโรป เพราะ 20 ปีก่อนยังไม่มีใครปลูกผักได้สำเร็จเป็นจำนวนมากเช่นนี้ ช่วยให้คนไทยในเยอรมนี และเนเธอร์แลนด์ ได้กินผักไทยปลอดสารพิษ สะอาด ใหม่สดทุกวัน
คนไทยมาซื้อถึงสวนผัก
บางคนโทรมาจอง บางคนขับรถมาไกล 30 กิโลฯ มาซื้อผัก สั่งทางออนไลน์ ขายดิบขายดีจนดีใจมาก ไม่ใช่เพราะรายได้ที่ได้รับ แต่เป็นการได้ช่วยให้คนไทยได้กินผักไทยคุณภาพดี ปลอดสารพิษ ในราคาถูก เช่น คะน้าในร้านเอเชียช็อปทั่วไป ราคา 8 ยูโร ต่อกิโลกรัม (296 บาท) คุณเจี๊ยบขายเพียง 5 ยูโร (185 บาท) ฟักทองขาย กก.ละ 2 ยูโร (64 บาท)
“อาทิตย์นึงขายได้เป็นพันยูโร คะน้าขายอยู่ 5 ยูโร คนมาซื้อไปขายต่อ 8 ยูโร 15 ยูโรก็มี พอปลูกผักไทยขาย แม่ในเมืองไทยก็ได้อยู่สบาย ส่งเงินไปซื้อบ้านให้อยู่ ส่วนตัวเรากินผักไทยทุกมื้อ ทำให้สุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคความดัน ไม่เป็นโรคเบาหวาน”
: ฤดูกาลที่เหมาะสม ปลูกผักไทยในเมืองหนาว :
ด้วยสภาพภูมิอากาศของเยอรมนีค่อนข้างหนาวเย็นทั้ง 4 ฤดู คือ
- ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม) อุณหภูมิเฉลี่ย 18 - 20 องศาเซลเซียส
- ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน) อากาศจะเย็นลงและมีฝน
- ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์) อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 5 องศาเซลเซียส ถึง -5 องศาเซลเซียส มีหิมะตกบ้าง
- ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม) อากาศอุ่นขึ้น ดอกไม้เริ่มบาน ต้นไม้แตกใบอ่อน นำความเขียวขจีกลับมา
หลายคนคงอยากรู้ หากจะปลูกผักไทยในเมืองหนาวไว้กินเองให้สำเร็จ หรือปลูกเป็นอาชีพ ควรปลูกฤดูไหน ต้องทำอย่างไร คุณเจี๊ยบเผยเทคนิคจากการเรียนรู้จากประสบการณ์ที่สั่งสมมา 20 ปีว่า ด้วยเมือง Nettetal ที่อยู่อาศัยนี้ อยู่แถบชานเมือง โดยมากคนในพื้นที่มีอาชีพทำไร่ เป็นดินร่วนปนทราย การปลูกผักไทยให้ได้ผลผลิตสวยงาม น่ารับประทาน นอกจากดินที่ดี ไถแปลงและใส่ปุ๋ยขี้วัวแล้วไถกลบ 1 อาทิตย์ก่อนปลูกผัก แล้วอากาศก็มีส่วนสำคัญ
ผักไทยปลูกในเยอรมนีได้ 3 ฤดู ยกเว้นฤดูหนาว หากบ้านใครมีเรือนกระจกที่มีฮีตเตอร์ให้เพาะกล้าต้นผักต่างๆ ที่ต้องการปลูก พอถึงฤดูใบไม้ผลิในเดือน เม.ย. ให้นำต้นกล้าผักมาปลูก หรือหว่านเมล็ดผักคะน้าลงแปลงที่ใส่ปุ๋ยขี้วัว และไถกลบ 1 อาทิตย์ก่อนปลูก จากนั้นรดน้ำ กำจัดศัตรูพืช อีก 45 วัน ก็เก็บผลผลิตไว้กินหรือขายได้
“ปลูกผักช่วงหน้าร้อน ปลูกได้ง่าย สบายๆ เพราะอากาศกำลังดี ปลูกผักได้หลายชนิด คะน้า แมงลัก กะเพรา ฟักทอง ฟัก ผักชี ถ้าอากาศบางปีร้อนมากๆ 38-40 องศาฯ แต่จะร้อนแค่ 1-2 อาทิตย์ จากที่เคยเปิดสปริงเกอร์รดน้ำอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง ก็ให้เปิดทุก 2 ชั่วโมง ถ้าอากาศต่ำว่า 18 องศาฯ ไม่ควรปลูกโหระพา จะไม่ขึ้นเลย” คุณเจี๊ยบถ่ายทอดความรู้
: ผักจะงามอยู่ที่ดิน แนะฟื้นฟูก่อนปลูกผัก :
นอกจากนี้ยังมีอีกเทคนิคพิเศษเพื่อให้ปลูกผักได้สวยงาม น่ารับประทาน คือ ให้สับเปลี่ยนหมุนเวียนปลูกพืชต่างชนิดกันในแต่ละแปลง เพื่อให้ได้ประโยชน์หลายอย่าง นอกจากเปลี่ยนหน้าดิน ให้ผักเจริญเติบโตเต็มที่อย่างแข็งแรง ยังช่วยเลี่ยงการสะสมของตัวกำเนิดโรค (Pathogens) หรือ ศัตรูพืช (Pest) ที่มักเกิดขึ้นถ้าปลูกพืชชนิดเดียวต่อเนื่องกัน นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างความสมดุลของสารอาหารเนื้อดินที่ไม่ถูกดูดออกไปจากการปลูกพืชชนิดเดียวเป็นเวลานานด้วย
คุณอรัญญา เฮ็นส์ หรือ เจี๊ยบ ผู้บุกเบิกปลูกผักไทยแห่งแรกในยุโรป
ตลอด 20 ปีที่ปลูกผัก คุณเจี๊ยบบอก สิ่งที่ได้รับคือความสุขกาย และสุขใจที่ได้อยู่กับธรรมชาติ ตื่นมามองออกนอกหน้าต่าง ได้เห็นผักที่ปลูกด้วยมือตัวเอง เจริญเติบโตอย่างสวยงาม ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในไทย
ปัจจุบันคุณเจี๊ยบ วัย 52 ร่างกายยังแข็งแรงดีเพราะกินผักเป็นประจำ ขอยึดปลูกผักเพื่อให้คนไทยได้กินผักราคาถูกต่อไป ในอนาคตจะลองปลูกข้าวไทย หากทำได้สำเร็จ คนไทยก็จะได้มีข้าวไทยที่ปลอดสารได้กินกันเพื่อสุขภาพที่ดี สำหรับคนไทยในเยอรมนี หรือประเทศอื่นทั่วโลก หากอยากปลูกผักไว้กินเอง หรือปลูกเป็นอาชีพ สิ่งสำคัญคือ การฟื้นฟูดิน
“อย่างแรกให้ฟื้นฟูดินว่าเหมาะสมปลูกไหม เพราะแต่ละพื้นที่ไม่เหมือนกัน บางพื้นที่เป็นกรวด หินเยอะ ต้องฟื้นฟูดินก่อน วิธีฟื้นฟูต้องทำให้ดินร่วนซุย โดยพรวนดินแล้วใส่เศษผัก เศษหญ้าลงไป เพื่อทำปุ๋ยหมัก 2-3 อาทิตย์ แล้วค่อยเริ่มปลูก ผักจะเกิดได้ง่ายมาก ต้องมีเนื้อที่มาก และต้องดินเป็นแบบไหน” คุณเจี๊ยบแนะนำทิ้งท้าย.
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน
👇 อ่านบทความต้นฉบับ 👇
- 42
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
