14 พ.ย. 2020 เวลา 03:00 • นิยาย เรื่องสั้น
[  เรื่องเล่าศุกร์ 13 - นักเต้นยามราตรี ]
1
ขาข้างซ้ายที่กระตุกอย่างแรงพร้อมกับความรู้สึกดิ่งวูบเหมือนตกเหว กระชากสติที่กำลังหลับใหลให้ตื่นขึ้นจากห้วงนิทรา
สมองที่กำลังมึนงงของผมค่อย ๆ เริ่มทำงาน ขณะที่ สายตาปรับเข้ากับความมืดในห้อง แสงจากไฟดวงหนึ่งที่เปิดเอาไว้ส่องสลัวให้พอเห็นนาฬิกาตั้งโต๊ะที่อยู่บนชั้นเตี้ยฝั่งตรงข้าม
00:13
ตัวเลขบนหน้าจอระบบดิจิทัลบอกเวลาที่ล่วงเลยเข้าเช้าวันใหม่ ผมถอนหายใจยาวก่อนจะเปลี่ยนอิริยาบถจากการนอนขดตัวขึ้นมานั่งเพื่อคลายความรู้สึกปวดแปล๊บที่หลัง
เผลอหลับไปนานขนาดนี้ มิน่าล่ะเมื่อยไปหมด
photo : pinterest
ห้องชมรมศิลป์ที่เงียบสงบในเวลากลางวัน มาถึงยามราตรีก็ยิ่งสงัดราวกับป่าช้า ระหว่างที่ผมกำลังชั่งใจว่าจะกลับบ้าน หรือนอนค้างไปเลย เสียงหนึ่งที่ดังขึ้นจากบนเพดานก็ทำให้ใจของผมแทบหยุดเต้น
( ตึ้กๆๆๆ )
หรือว่าจะเป็นหนู?
หากเป็นแค่หนูคงจะไม่เป็นไร นอกเสียแต่ว่าพวกมันจะมากัดแทะหนังสือและของสะสมในห้องชมรม เอาไว้ตอนเช้าคงต้องสำรวจกันอีกที
"ฮิๆๆๆ"
เสียงหัวเราะคิกคักที่ดังขึ้นเบา ๆ ทำเอาผมสะดุ้งสุดตัว ก่อนที่เจ้าของเสียงจะปรากกฎกายออกมาจากหลืบของชั้นหนังสือ
ร่างเล็กที่ดูแบบบางในชุดแนบเนื้อกระโปรงฟูฟ่อง เดินด้วยท่วงท่าที่ราวกับกำลังเต้นรำ ก่อนจะหมุนตัวอย่างคล่องแคล่วด้วยปลายเท้าที่สวมรองเท้าซาตินของเธอและหยุดลงเบื้องหน้าผม
"สวัสดีค่ะ มองซิเออร์ เสียงนั้นไม่ใช่หนูหรอกค่ะ ถึงใคร ๆ จะชอบเรียกพวกเราว่าหนูก็เถอะ"
สิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าอย่างไม่ทันตั้งตัว ทำให้ผมนิ่งอึ้งทำอะไรไม่ถูก
"ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะคะ เราเคยเจอกันมาก่อนแล้วนี่นา อย่าบอกนะว่าจำหนูไม่ได้"
น้ำเสียงของเธอมีแววง้องอน ตามจริตของเด็กสาวที่ฝึกมาอย่างดี
"มารี?"
ใบหน้าเยาว์วัยแย้มยิ้มออกมาเมื่อได้ยินชื่อของตน
"ดีใจจัง ว่าแล้วคุณจะต้องจำหนูได้ ทำไมไม่มาที่โรงละครอีกเลยล่ะคะ"
มารี ฟาน โกเธ่ม เด็กสาวนักบัลเล่ต์ที่อายุ 14 ปีตลอดกาลจากผลงานของ เอ็ดการ์ เดอกาส์ บัดนี้มายืนอยู่ตรงหน้าผม ถ้าเธอยังมีชีวิตอยู่ก็น่าจะอายุปาเข้าไป 155 ปีแล้ว...ไม่ใช่เด็กสาวแรกแย้มเหมือนที่ผมเคยย้อนเวลาไปเจอเมื่อครั้งก่อน
จู่ ๆ ร่างเล็กนั้นก็เริ่มหมุนตัวอีกครั้งด้วยท่าพิรูเอ็ต พร้อม ๆ กับเสียงไวโอลินที่ดังแว่วขึ้นจากที่ไหนก็ไม่รู้
"ไหน ๆ เราก็มาเจอกันแล้ว...มาเต้นรำด้วยกันไหมคะ"
มือน้อย ๆ ยื่นออกมาทางผมเป็นการเชื้อเชิญ ชั่วขณะหนึ่งผมรู้สึกเคลิ้มราวกับถูกสะกดจิตด้วยเสียงดนตรีประหลาด ขาของผมก้าวลุกขึ้นจากโซฟา ราวกับมีชีวิตของมันเอง
จังหวะที่ผมกำลังจะเอื้อมไปสัมผัสกับมือของสาวน้อยนักบัลเล่ต์นั้น เธอก็หันหน้ามา แทนที่จะได้สบตากับดวงตาสีน้ำตาลอ่อนแสนสวยคู่นั้น ผมกลับได้จ้องมองไปยังช่องกลวงโบ๋บนกระดูกสีขาวซีดโพลน
ผมผงะตกใจถอยไปด้านหลังจนสะดุดเข้ากับกองหนังสือที่วางเอาไว้
มือที่เปลี่ยนเป็นโครงกระดูกของเธอ เอื้อมมาช้า ๆ เพื่อสัมผัสกับร่างของผมที่ทรุดตัวลงกับพื้น
🎵 "I danced myself out of the womb
I danced myself out of the womb
Is it strange to dance so soon?
I danced myself into the tomb
But then again
Once more..." 🎶
ก่อนที่มือขาวซีดนั้นจะเอื้อมมาถึงตัว...
ขาข้างซ้ายของผมก็กระตุกอย่างแรงพร้อมกับความรู้สึกดิ่งวูบเหมือนตกเหว กระชากสติที่กำลังหลับใหลให้ตื่นขึ้นจากห้วงนิทรา...อีกครั้ง
สวัสดีวันศุกร์ 13 ที่เพิ่งผ่านพ้นไป :)
สำหรับใครที่อ่านแล้วยังงง ๆ ขอชวนนั่งไทม์แมชชีนไปรู้จักกับมารี สาวน้อยนักบัลเล่ต์ ได้ที่ "เรื่องเล่าชมรมศิลป์ Ep. 1 - Degas' s Dancer" จากลิ้งก์นี้ 👇
หรือจะตามขบวนระบำแห่งความตาย Danse Macabre ได้ที่ "เรื่องเล่าชมรมศิลป์ Ep.10 - Memento Mori : Remember you will die" จากลิ้งก์นี้ 👇
สุดท้าย...ก่อนจากกันขอฝากเพลง "Cosmic Dancer" (1971) โดย T.Rex แรงบันดาลใจของเรื่องเล่าในตอนนี้ไว้ด้วยครับ :)
กดฟังได้ที่ลิ้งก์ด้านล่างนี้เลย 👇🎶
แล้วพบกันใหม่ในครั้งหน้าครับ :)
โฆษณา