ส่วน Booking Holdings นั้นก็คือบริษัทแม่ของ Agoda ที่คนไทยคุ้นเคยกันดีนั่นเอง ซึ่งแน่นอนว่าองค์กรเหล่านี้ทำธุรกิจเกี่ยวกับการโรงแรมแบบ Digital และอีก 3 บริษัทอย่าง Amazon, Alibaba และ Netflix นั้น World Maker ขอละสรรพคุณไว้ในฐานที่เข้าใจ เนื่องจากเป็นบริษัทชื่อดังระดับโลกที่นักลงต่างรู้จักกันดีอยู่แล้ว
สรุปก็คือ หากคุณถือหุ้นของ ONE-GECOM ก็เปรียบเปรยเหมือนกับคุณกำลังถือหุ้นของบริษัทชั้นนำระดับโลกเหล่านี้อยู่ด้วย และนั่นคือเหตุผลที่ World Maker มองว่ามันน่าลงทุนนั่นเองครับ
และนอกจากนี้ ผลการดำเนินงานทั้งแบบ YTD และแบบ All Time ก็ยังให้ผลตอบแทนในเชิงบวก ซึ่งเราสามารถตีความหมายกว้าง ๆ ตรงนี้่ได้ว่ากองทุนตัวนี้สามารถเผชิญวิกฤตในช่วง COVID-19 ได้ดีเลยทีเดียว ดังนั้นเมื่อตลาดฟื้นตัวแล้ว จึงมีโอกาสอีกมากที่กองทุนตัวนี้จะเติบโตต่อไป
พื้นฐานสำคัญที่สุดก็คือธุรกิจเหล่านี้มีโครงสร้างพื้นฐานอยู่บนระบบ Digital และมันสามารถพิสูจน์ให้เห็นมาตลอดปี 2020 ที่โหดร้ายแล้วว่าค่อนข้างมีศักยภาพที่น่าเชื่อถือได้ทีเดียว อย่างที่ World Maker เคยได้นำเสนอไปบ่อย ๆ ว่าแนวโน้มของโลกกำลังเปลี่ยนไปเป็นระบบ Digital มากขึ้น
(2.) Krungsri World Tech Equity Hedged Fx Fund-A (KFHTECH-A)
กองทุนจะนำเงินไปลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศชื่อ BGF World Technology Fund (Class D2 USD) ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80% ของ NAV ซึ่งกองทุนดังกล่าวเป็นของ BlackRock Inc. ซึ่งเป็นบริษัททางด้านการจัดการสินทรัพย์รายใหญ่ที่สุดในโลกนั่นเอง
ซึ่งแน่นอนว่ารายชื่อบริษัทที่ World Maker กล่าวมาข้างต้นนี้คือสุดยอดบริษัทในกลุ่ม Technology ที่เราเล็งเห็นแล้วว่าตอบโจทย์อย่างมากสำหรับการลงทุนในยุค COVID-19 และยุคหลัง COVID-19 ไม่ว่าจะเป็นระบบคอมพิวเตอร์, รถยนต์ไฟฟ้า, E-Commerce, Digital Payment กองทุนตัวนี้ตอบโจทย์ทั้งหมดให้คุณแล้ว
นอกจากนี้ กองทุน BGF World Technology Fund ยังได้รับการรับรองจาก Morning Star ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำทางด้านการจัดอันดับหุ้นต่าง ๆ รวมถึงยังมีผลการดำเนินงานย้อนหลังที่แข็งแกร่งทั้งตลอดช่วงอายุ และแบบ YTD
(3.) KTAM World Technology Artificial Intelligence Equity Fund (KT-WTAI-A)
กองทุนนี้จะมีการลงทุนในกองทุนต่างชาติเพียงแห่งเดียวก็คือ Baillie Gifford Long Term Global Growth Fund ซึ่งเรียกว่า Master Fund นั่นเอง กองทุนนี้บริหารโดย Baillie Gifford ซึ่งเป็นบริษัทแม่ที่เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทที่มีนวัตกรรมและการเติบโตสูง โดยจะติดตามหุ้นราว 20-30 ตัว ผ่านแนวคิดหลักที่ว่า "บริษัทที่เข้าลงทุนจะต้องสามารถ Disrupt อุตสาหกรรมแบบดั้งเดิมได้"