10 ก.พ. 2021 เวลา 01:52 • นิยาย เรื่องสั้น
ภารกิจสุดท้าย อีกนิดเดียวก็จะเสร็จแล้ว ถ้าเราไม่ทำให้สำเร็จเราคงไม่สามารถลบคำสบประมาท ที่กดดันมาตลอดได้ ฉันต้องทำให้ได้
ฉันยืนมองภาพข้างหน้าด้วยตาที่เบิกโพลง กับสิ่งที่ได้เห็นกับตาจริงๆในครั้งแรกของชีวิต ภาพร่างกายมนุษย์ที่กำลังเกร็งกระตุกเป็นจังหวะ
ฉันรู้ด้วยเหตุและผลว่า ในเวลานี้ และสถานที่นี้ฉันคงช่วยให้เขารอดไม่ได้แม้จะพยายามเท่าใด เพราะว่า ยังไงเขาก็ต้องตายมันคืออาการ Spasm ของกล้ามเนื้อที่มีอาการกระตุกเกร็งก่อนจะคลาย เลือดที่ฉีดพุ่งแรงออกมาจากลำคอที่ปราศจากหัว
ฉันไม่คุ้นชินบวกกับความกลัวสภาพที่เห็น ฉันได้แต่จ้องดู จนเลือดที่พุงออกมานั้นค่อยๆปล่อยเลือดจากบาดแผลและหยุดพุ่งอย่างช้าๆพร้อมกับร่างที่ค่อยๆสงบอย่างช้าๆ
ฉันย่างเท้าเข้าไปดูใกล้ๆ ร่างที่หยุดนิ่งสงบแล้ว ในขณะที่กำลังจ้องร่างนั้นก็กระตุกขึ้นมาอีกครั้ง เหมือนสั่งลา ฉันกระโดดตัวลอยด้วยความตกใจปากพึมพำเรียกหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์
น้ำตาฉันไหลรินออกมาเป็นสายในใจบ่นพึมพำภาวนา ไปสู้สคตินะไม่ต้องห่วง ฉันรู้ว่าเธอต้องการอะไร ความตายคือจุดการเริ่มต้นเดินทางและจุดสิ้นสุดการเดินทางของชีวิตที่มีดวงจิตควบคุม หมดกรรมนะเดินทางดีๆนะ
สายตาฉันกวาดไปรอบๆบริเวณ ยามโพล้เพล้ ไม่มีรถสักคันผ่านมาบริเวณนี้ ถนนที่สร้างยังไม่เสร็จ มีเพียงแท่งปูนแบริเออร์กั้นถนนกับแนวป่าที่มีต้นไม้และพุ่มไม้ในเงามืดที่มองลงไปเห็นอยู่ริบๆ คือ แอ่งน้ำขังที่ไม่น่าจะลึกมาก ขนาดกว้างยาวประมาณ 1×2 เมตร ทางลงไปที่ลาดชันและถ้าใครจะลงไปให้ได้ คงต้องเกาะเหนี่ยวพุ่มไม้พวกนี้ลงไปพอได้ พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน เงาต้นไม้ดูมืดกว่าที่คิด
ฉันยืนนิ่งมองไปรอบๆเพื่อหาสิ่งที่ต้องการ คิดตามหลักฟิสิกส์ ถ้าเธอเสียหลักพุ่งเข้าหาแท่นปูนด้วยความเร็วปกติ มันไม่น่าจะเกิดเหตุสลดเช่นนี้
เธอต้องมาด้วยความเร็วพอสมควรถึงแหกโค้งได้
เธออยากลองความเร็วรถมอเตอร์ไซด์คันใหญ่ที่ไม่คุ้นชิน บวกกับหมวกกันน็อคแสนแพงลูกใหญ่ ซึ่งหนักมากนะสำหรับคนไม่คุ้นชินหมวกที่ปิดไปหมด มีเซพตี้โน้นนี่นั่น ตามที่คนขายบอก มันจะป้องกันศรีษะให้ปลอดภัย
หลังจากที่ลองคิดคำนวนดูทุกอย่าง ตาเหลือบมองท้องฟ้า แสงที่เริ่มอ่อนลงของดวงอาทิตย์ฉันไม่มีอุปกรณ์ส่องสว่างใดๆ แสงไฟจากรถมอเตอร์ไซด์ ที่ดับลงแล้ว และฉันก็ไม่รู้ว่าจะยกมันขึ้นหรือเปิดไฟส่องได้อย่างไร
จากสัญชาตญาณ ฉันตัดสินใจก้าวเดินลงไปที่ข้างๆจุดสิ้นสุดแบริเออร์นั้นปีนลงไปอย่างระมัดระวัง สิ่งที่ฉันกำลังหาน่าจะอยู่ที่นั้นแน่นอนเพราะฉันไม่เคยตัดสินอะไรโดยไม่คิดอย่างถี่ถ้วน แม้ศัตรูที่ฉันเกลียดที่สุด คือ "ทำอะไรไม่สำเร็จสักอย่าง"
โอ้..ฉันเห็นแล้ว มันสงบนิ่งอยู่ใกล้ๆแอ่งน้ำ สีสดใสเป็นเงาวับ มันหยุดนิ่งสนิทอยู่ที่ตรงนั้น รอให้ฉันเข้าไปหยิบ ขอบคุณสวรรค์ถ้ามันกลิ้งลงไปอีกนิดคงตกลงในน้ำ ฉันคงไม่ลงไปงมแน่นอน
ฉันก้าวเดินไปแบบกลัวๆกล้าๆ มันแตกต่างกับภาพที่เห็นร่างกายที่สั่นไหวเกร็งกระตุกเมื่อสักครู่ฉันยืนนิ่งทำใจ ก่อนที่จะเดินอ้อมไปทางด้านหน้าของหมวกกันน็อก
สายตาฉันจ้องเขม็งไปที่กระจิกที่ปิดบังส่วนหน้าไว้อย่างมิดชิดสภาพของหมวกยังสมบูรณ์ใหม่เหมือนวันที่ซื้อออกมาจากร้านเลย
2
ด้วยความกลัวฉันค่อยๆเอามือข้างหนึ่งดึงส่วนที่ปิดหน้าขึ้นช้าๆ...
ตาเธอหลับสนิท แต่เหมือนว่าเธอกำลังจะพยายามลืมตา ใช่เธอกำลังลืมตาช้าๆ เหมือนคนเพิ่งตื่น เธอเหลือบตามองสูงขึ้นเพื่อสบตาฉันก่อนที่ดวงตาแห่งการรับรู้จะเบิกโพล้ง เหลือกลานคล้ายเธอจำอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ คล้ายๆเธอจะกรีดร้องแต่ไม่มีเสียงใดๆหลุดรอดออกมา ก่อนที่
เลือดสดๆจะรินไหลออกมาจากลูกตาที่แดงก่ำทั้งสองข้าง มันไหลรินออกมาทางหัวตาและหางตาเป็นสาย ริมฝีปากเธอคล้ายจะพยายามเปล่งเสียงออกมา แต่คล้ายเสียงคนสำลักมากกว่าจะเป็นคำพูด ก่อนที่ทุกอย่างจะเงียบลง
1
ฉันพูดก่อนสรรพสิ่งสุดท้ายในชีวิตจะหยุดไปตลอดกาล " ไม่ต้องห่วงนะฉันจะเอาหัวของเธอกลับขึ้นไปให้ได้ เธอต้องจากไปพร้อมกับสิ่งที่เธอมีมาตลอด ธรรมชาติสร้างเธอมาแบบไหน เธอก็เอาไปแค่นั้นได้มันเป็นสิทธิอันชอบธรรมของเธอ "
ลาก่อนนะเพื่อนรัก
ปล.ฉันขอโทษนะฉันต้องปีนขึ้นไปกว่าจะถึงข้างบนได้ มันคงยากที่จะเอาหมวกกันน็อคใบนี้ขึ้นไปด้วยได้พร้อมกัน หมวกหนักมาก และสิ่งที่ฉันคิดไม่ถึงว่าหัวคนเราจะหนักขนาดนี ฉันจะซ่อนหมวกไว้ก่อน แล้วฉันจะกลับมาเอาไปให้นะ แต่ฉันแค่จะบอกว่าถ้าฉันทำได้นะเพื่อนรัก
ขอบคุณภาพจาก
โฆษณา