17 ก.พ. 2021 เวลา 10:55 • กีฬา
ทุกบาททุกสตางค์ : 5 เหตุผล “สารัช” ดีลคุ้มค่าเงิน 30 ล้าน บีจี ปทุมฯ
#ChangsuekFocus
สารัช อยู่เย็น กองกลางทีมชาติไทย เป็นหนึ่งในบิ๊กดีล ที่ถูก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด คว้ามาร่วมทัพเมื่อช่วงตลาดซื้อขายรอบพิเศษ โดยมีรายงานว่า เดอะ แรบบิท ต้องทุ่มเงินสูงถึง 30 ล้านบาท ในการกระชากเขามาจาก เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด
ดาวเตะวัย 28 ปี ขึ้นแท่นเป็นนักเตะค่าตัวแพงสุดในประวัติศาสตร์ของทีมทันที เทียบเท่ากับ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ที่ย้ายจาก สิงห์ เชียงรายฯ มาอยู่กับทีมเมื่อปี 2018 ท่ามกลางความคิดเห็นต่างๆนานากับเงินก้อนโตที่ บีจี ปทุมฯ จ่ายไป และนี่คือ 5 เหตุผลที่คุณต้องลองพิจารณาว่าสโมสรคุ้มค่าหรือไม่กับดีล ‘สารัช’ ครั้งนี้
#แดนกลางสมดุลมากขึ้น
แม้ว่า บีจี ปทุมฯ จะทำผลงานได้ดีอยู่แล้วในช่วง 4 นัดแรก แต่การมาของดาวเตะวัย 28 ปี ก็ยิ่งทำให้ประสิทธิภาพแดนกลางของทีมแข็งแกร่งขึ้นชัดเจน โดยเฉพาะในแง่ความสมดุล สารัช เป็นมิดฟิลด์ประเภทที่คุมจังหวะได้ยอดเยี่ยม และ เนียนตา รู้ว่าจังไหนควรเล่นเร็ว หรือ ดึงช้า ที่สำคัญ ยังเล่นได้ทั้งเกมรุก และ เกมรับ เห็นได้จากสถิติที่เขาทำไปแล้ว 2 แอสซิสต์ สร้างโอกาส 17 ครั้ง สกัดบอลสำเร็จ 87% และ ยังเป็นนักเตะแย่งบอลในแดนคู่แข่งได้มากสุดหลังจบปี 2020 ด้วยจำนวนถึง 26 ครั้ง
เรียกได้ว่า สารัช เป็นนักเตะประเภท ‘ผึ้งงาน’ และ ‘ปิดทองหลังพระ’ ที่ทีมขาดไม่ได้อย่างแท้จริง..
#3มิดฟิลด์แข็งแกร่งสุดในไทยลีก
นอกเหนือจากในแง่ความสมดุลแล้ว การมาของ สารัช ยังช่วยให้ บีจี ปทุมฯ กลายเป็นทีมที่มีแผงมิดฟิลด์แข็งแกร่งสุดในไทยลีกอย่างปฏิเสธไม่ได้..
เมื่อตลอดช่วงที่ผ่านมา สารัช ขับเคลื่อนแดนกลางร่วมกับ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ และ สุมัญญา ปุริสาย ได้อย่างลงตัว และ แข็งขัน จนเอาชนะแผงมิดฟิลด์คู่แข่งได้แทบทุกเกม เห็นได้จากผลงานปัจจุบันที่ บีจี ปทุมฯ ยังเป็นทีมเดียวที่ไม่แพ้ใคร , คว้าชัยชนะ 10 นัดติดต่อกันในลีก และ นำจ่าฝูงโดยทิ้งห่างอันดับ 2 การท่าเรือ เอฟซี ถึง 13 คะแนน
สารัช กล่าวถึงเรื่องนี้สั้นๆ ว่า "อย่างที่ทุกคนรู้กัน เราเล่นด้วยกันมานานครับ แต่ละคนมีบทบาทหน้าที่ชัดเจน ต่างกัน และ ไม่ทับตำแหน่งกัน พอมารวมกัน เราก็พยายามช่วยกัน เล่นตามแท็คติคที่โค้ชต้องการ ก็เลยทำให้ออกมาดี แต่ไม่ใช่เพราะผม 3 คนหรอก ผลงานที่ออกมา ต้องชื่นชมทุกคนครับ ที่รับผิดชอบ และ ทำหน้าที่ได้ดี"
#ภาวะผู้นำ
ในวัย 28 ปี สารัช มีประสบการณ์ในเส้นทางฟุตบอลอย่างล้นเหลือ ผ่านการเป็นกัปตันทีมมาแล้ว ทั้งในระดับทีมชาติ และ สโมสร ทำให้ปฏิเสธไม่ได้ว่าการมาของเขาจึงนำเอา ‘ภาวะผู้นำ’ มาสู่ทีมด้วย.. โดยทุกครั้งที่ บีจี ปทุมฯ ตกอยู่ในสถานการณ์ที่กดดัน หรือ ยากลำบาก จะเห็นได้เห็นว่าเขาเป็นคนที่คอยกระตุ้น และ สั่งการน้องๆ อยู่ตลอด ที่สำคัญ ในฐานะที่ประสบความสำเร็จมาแล้วมากมาย สารัช ยังช่วยให้ทีมมีสปิริตที่ดีขึ้นในห้องแต่งตัว และ ‘นิ่งขึ้น’ กับการลุ้นคว้าแชมป์ไทยลีกครั้งแรกของทีมในเวลานี้..
#นำเอาแพชชั่นมาสู่ทีม
บีจี ปทุมฯ ยังไม่เคยสัมผัสแชมป์ไทยลีกแม้แต่ครั้งเดียว ในขณะที่ สารัช เองก็ห่างหายจากความสำเร็จไปนาน.. นั่นจึงทำให้ ‘ทั้งคู่’ มีเป้าหมายเดียวกันชัดเจน โดยดาวเตะวัย 28 ปี ก็ได้นำเอาทั้งแพชชั่น และ ความกระหายมาสู่ทีม เมื่อเขามักให้สัมภาษณ์ย้ำอยู่เสมอถึงความสำคัญในการ ‘คว้าแชมป์ไทยลีกครั้งแรก’ ของทีมในปีนี้ ที่สำคัญ ด้วยคาแรคเตอร์ของมิดฟิลด์ทีมชาติไทย ก็ยิ่งทำให้น้องๆ ในทีม ‘เชื่อมั่น’ ไปด้วย
#ความสำเร็จนอกสนาม
ไม่เพียงแต่ผลงานในสนามที่จับต้องได้.. สารัช ยังช่วยให้ บีจี ปทุมฯ กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้นด้วย เมื่อปัจจุบันเขาเป็น 1 ใน 10 นักฟุตบอลในอาเซียน ที่มีผู้ติดตามผ่านทาง IG (ส่วนตัว) มากที่สุดถึง 1.2 ล้านคน มากกว่า IG Official ของสโมสรเกือบ 20 เท่า ดั้งนั้นการมาของเขาจึงช่วยให้ ‘แบรนด์ดิ้ง’ ของสโมสรแข็งแรงขึ้นชัดเจน เห็นได้จากกระแสแฟนคลับ , ยอดขายเสื้อที่หมดเกลี้ยงไปนานแล้ว และ ยอดผู้ติดตามของสโมสรที่มากขึ้นด้วย..
และจากการที่ สารัช พิสูจน์ฝีเท้าให้เห็นมาแล้วในระดับทวีป นั่นจึงทำให้ บีจี ปทุมฯ กลายเป็นสโมสรที่น่าสนใจมากขึ้นไปด้วยในระดับ ‘เอเชีย’ ที่สำคัญ ‘ตังค์’ ยังมีผลงานโดดเด่นนอกสนามมากมาย ทั้งงานโฆษณาต่างๆ และ โดยเฉพาะกับบทบาทพระเอก MVเพลง เชือกวิเศษ ที่มียอดวิวสูงถึง 500 กว้าล้านวิว
ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นชัดเจนว่าดีล ‘สารัช’ คุ้มค่าทั้งในสนาม และ นอก
โฆษณา