“เวลาเปลี่ยน ใจเปลี่ยน” คุณอาจะกำลังคิดแย้งในใจอยู่นิดๆว่า ฉันคนนึงแหละที่ไม่ใช่ นั่นไม่ใช่เรื่องผิด เพราะผมก็คิด แต่พอมาลองพิจารณา ในช่วงชีวิตที่ผ่านมาของตัวเองมันก็ผุดคำว่า “เออว่ะ” ขึ้นมาในหลายๆเรื่อง ดูมวย ไม่เคยชอบมาตลอดในช่วงชีวิตวัยเด็ก เพราะ TV ที่บ้านมี เครื่องเดียว บ่ายๆวันอาทิตย์ หากพ่ออยู่บ้าน จะต้องโดยแย่งจากรายที่อยากดูมากๆ ซึ่ง 1 อาทิตย์ ดูได้ครั้งเดียว และไม่สามารถดูย้อนหลังได้ จึงเกิดความเกลียดมวยมันนับแต่บัดนั้นเป็นต้นมา จนเวลาผ่านไป โลกที่มีคลิปเด้งขึ้นหน้าฟีต จากคนแชร์ หรือ จากจำนวนยอดคนดูที่เยอะ ก็ได้เด้งคลิป บัวขาว นักมวยที่ไม่ขาวเหมือนชื่อ จะจ่าหน้าคลิปว่า 10 อันดับ น๊อคเอ้าของบัวขาว เล่นอัตโนมัต เวลารวม 5 นาทีกว่าๆ ความรู้สึกเกลียดมวย เปลี่ยนไปเป็น มันดีจัง สะใจจัง บัวขาวเก่งจัง ซึ่งนำไปสู่การอยากดู บัวขาว ต่อยมวยแบบสดๆ ใจเปลี่ยนแล้วหนึ่ง นั่นอาจจะดูใช้เวลานานไปกว่าใจจะเปลี่ยน ไม่นานมานี้มีศิลปินฮิปฮอปกลุ่มนึง ที่ดังเป็นพลุแตก แล้วแต่เพลงออกมา โดนไม่สนวรรณยุกต์ของคำร้องกับทำนองว่าความหมายที่ออกมาจะเปลี่ยนไปไหม เลือกคำให้คล้องจองเป็นพอ มีเพลงๆหนึ่ง ในท่อนนั้นร้องว่า “ก็แค่อยากจะยู้คนเดียวบางที” ในใจก็คิด เพลงคำเมืองแน่นอน รถดับ หรือสตาร์ทไม่ติด ก็เลยไม่ต้องการให้ใครมาช่วย อยากมีฟิวหล่อๆ “ยู้” คนเดียวเท่ๆ (ยู้หมายถึงเข็นไปข้างหน้า) ไม่ชอบเอาเสียเลย ในความเรียนดนตรี และ ดันเป็นครูสอนภาษาไทยให้เด็กป.2 ขัดหูจริงเชียว ตอนนั้น คิดอย่างเดียวจะมีทางที่คนอย่างเราจะไปเปิดฟังเพลงนี้เด็ดขาด ถ้าใครเปิดก็จะพยายามบูลี่ ว่านี่เพลงคำเมือหรอ หรือไม่ก็ เพลงสำเนียงมอญหรอ แต่ผ่านมาไม่นานนัก ดันติดรายการ รายการหนึ่งเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ซึ่งเจ้าขอรายการเป็นนักร้อง AF ที่ไม่ค่อยดังจากการร้องเพลงเท่าไหร่ ติดตามดูไปเรื่อยๆ ชอบมาก ภาพที่ถ่ายเอง เพลงที่แต่งเอง มันลงตั๊วลงตัว ดูทุกคลิป ฟังทุกเพลง ตามจนลืมไปว่า ในเพลงๆหนึ่ง มีท่อนที่ร้องว่า “เบื่อคนใจดำต้องไปดำน้ำ ต้องไปดามใจด้วยปาก้าหรั่ง ฉันโดนคนบกให้ความหวัง ปลอบใจกันทีเจ้าปลาก๊าเบน” ฟัง และร้องจนติดปาก โดยไม่คำนึงถึงมาตรฐานการเสพเพลงของตัวเองเลย สนแต่ว่าไม่เป็นไร ศิลปินที่เราชอบ แค่ไม่กี่คำให้อภัยได้ ใจเปลี่ยนแล้วสอง จริงๆนี่ก็แค่ยกตัวอย่างให้เห็นเฉยๆ ซึ่งอาจจะไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ แต่ก็พอยืนยันได้นะว่าเวลาเปลี่ยน ใจก็เปลี่ยนเช่นกัน มันอาจจะเปลี่ยนเพราะ องค์ประกอบอื่นทำให้เปลี่ยน หรือ มันเปลี่ยนไปของมันเอง แต่มันก็เปลี่ยนแหละ ครั้งหนึ่ง เคยเกลียดเพื่อนคนหนึ่งมาก ด้วยหลายๆ องค์ประกอบที่พอจะสรรหามาให้เกลี่ยดใครสักคนได้ แต่เมื่อตอนนี้ ไม่ได้ใช้ชีวิต หรือ ร่วมงานกับเพื่อนคนนั้นแล้ว มานั่งถามตัวเองว่ายังเกลียดอยู่ไหม ก็ไม่ละนะ ณ ตอนนั้น อาจเพราะต้องร่วมงาน ต้องเจอทุกวัน รู้สึกอึดอัดตลอดเวลาที่ต้องอยู่กับเขา แต่ตอนนี้ ไม่ต้องใช้ชีวิต หรือ ร่วมงานด้วยอีกแล้วก็ไม่มีเหตุผลให้ต้องอึดอัด และไปจงเกลียดจงชังเขาอีก ส่วนตรงกันข้าม ครั้งที่มีความรักครั้งแรกมันสดใสมากๆ และรักเขามากถ้าจำไม่ผิด นี่แหละหมดชีวิตฉันให้เธอ แต่ตอนนี้ลองมานั่งนึกๆดู หายไปไหนแล้วนะ แต่นั่นคืออดีต ผ่านมาแล้ว เปลี่ยนไปแล้ว ก็ลองเลยนึกเล่นๆ ว่าในอานคตอันใกล้ถ้านายกคนหนึ่งที่บริหารประเทศแถวๆเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้วล้มเหลวอย่าสิ้นเชิง ที่เรารู้สึกไม่ค่อยชอบแนวการบริหารเท่าไหร่(มาก) ยอมลาออกไปซะ เราก็คงไม่ไปจงเกลียดจงชังเค้า ในทางกลับกันอาจจะขอบคุณที่เขายอมเสียสละให้ประเทศที่กล่าวถึงนั้น ได้เจริญขึ้นเสียที และประชาชนได้ลืมตาอ้าปากกันเสียที ถึงตอนนั้น ใจอาจจะเปลี่ยนก็เป็นได้ เอาเถอะสุดท้ายแล้วคุณก็อาจจะยังยืนหยัดว่าจะเกลียดใครสักคนจนเขาหมดลมหายใจ หรือ รักใคร ชอบอะไรไปตลอดกาล ก็สุดแล้วแต่เลือกสรร แต่เชื่อเถอะ ไม่มากก็น้อย มันจะมีบางสิ่งบางอย่างในใจคุณเปลี่ยนไปเสมอตามกาลเวลา วันนี้คุณเดินผ่านอาจเกลียดขี้หน้าผม แต่สักวันคุณอาจจะชอบผมก็ได้ ใครจะไปรู้(หยอกๆ) อ้างอิงจาก : การพิจารณาตัวเอง (13,2564)