ยุคนี้ไม่มีเลย : เหตุผลที่ คันโตน่า คือนักเตะในแบบที่ 'แฟนผี' ซูฮก
ทำไมนักเตะสุดติสท์อย่างเอริค คันโตน่า ถึงเป็นนักเตะที่แฟนปีศาจแดงชื่นชอบมากๆ และยกย่องให้เขาเป็นหนึ่งในตำนานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทีม เราจะพาทุกท่านไปติดตามกัน
ณ วันที่ 26 พฤศจิกายน 2535 อเล็กซ์ เฟอร์กูสันได้คว้าตัวนักเตะคนใหม่ที่สามารถยกระดับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดให้สูงขึ้นอีกระดับได้"ผมรักฟุตบอล" จะพาไปย้อนนึกถึง สิ่งที่คิงเอริคได้สร้างไว้ ไม่ว่าจะเป็นแรงบันดาลใจ,ความเกรี้ยวกราด และความสร้างสรรค์ต่างๆ มีความหมายอะไรต่อเขา (และคนอื่นๆ ด้วย)
“ช่วงที่ดีที่สุดหรอ? ผมมีช่วงเวลาดีมากมายเลยล่ะ แต่ผมขอเลือกตอนที่ผมกระโดดถีบยอดอกใส่ไอฮูลิแกนนั่นแล้วกัน”
เอริค แดเนี่ยล ปิแอร์ คันโตน่า พูดถึงช่วงเวลานั้นตอนค้าแข้งอยู่กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในมุมนึงมันก็เป็นเรืองที่น่าแปลก แฟนๆปีศาจแดงหลายคนที่ได้เห็นลีลาการฟาดแข้งของคันโตน่า ตลอดเวลา 5 ปีที่เขาอยู่กับทีม น่าจะเห็นพ้องต้องกันกับคันโตน่าไม่น้อยเลย
คันโตน่ากระโจนเข้ากลางแฟนบอลและถีบเข้าไปที่ยอดอกของแฟนบอลที่พูดจาไม่เข้าหูเขา ในสนาม เซลเฮิร์ส ปาร์คในปี 1995 เป็นเหตุการณ์ที่แฟนผียุค 90 จำได้ขึ้นใจ ไม่ใช่ในอังกฤษเท่านั้น แต่เป็นทั่วโลกเลยต่างหาก ไม่ว่าคุณจะต่อต้านหรือเห็นด้วยกับการกระทำของเขา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่าคันโตน่าเป็นที่เคารพของแฟนๆปีศาจแดงตั้งแต่ก้าวมาเหยียบโรงละครแห่งความฝันแห่งนี้
คันโตน่าเป็นทั้งผู้เล่นของปีศาจแดง,เป็นคนหัวขบฎ, ราชาคนใหม่ในรั้วโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด หรือ เรียกว่าพระเจ้าก็คงจะได้ เมื่อเขากลับมาจากการโดนแบน แฟนบอลไดทำบอร์ดบนหน้าทางเข้าสนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ซึ่งเขียนว่า “เราจะไม่มีวันลืมคืนนั้นที่เซลเฮิร์ส ปาร์ค ตอนที่คุณซัดหมอนั่นที่อยู่ห่างไป 30 หลาในเกมที่พบกับพาเลซ”
“ผมจำมันได้นะ” เอริคกล่าว “และผมก็จำประตูนั้นได้ด้วย นัดที่พบกับวิมเบอร์ดัน พวกเขาก็เล่นในเซลเฮิร์ส ปาร์ค ผมชอบคำพูดในโปสเตอร์นั่นนะ และผมก็ชอบตอนที่อยู่สนามและแฟนๆก็สนับสนุนผม พวกเขาเดินทางจากแมนเชสเตอร์มาที่ครอยดอนในกลางสัปดาห์ ผมรู้ถึงแรงเชียร์ที่มีให้ผมและมันช่วยผมได้มากจริงๆ สโมสรก็สนับสนุนผมด้วย ดังนั้นผมจึงอยู่ต่อ”
เอฟเอได้กำหนดโทษแบนอย่างรุนแรง ซึ่งเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้กล่าวไว้ว่า “ผมไม่คิดว่าจะมีผู้เล่นคนในไหนในประวัติศาตร์ของฟุตบอลจะเข้าใจประโยคที่เขาพูดออกมา นอกซะจากพวกเขาจะฆ่าสุนัขของเบิร์ต มิลลิชิพซะ” (ยุคนั้นมิลลิชิพเป็นประธานของเอฟเอ)
เขาไปอยู่ไหนมา?
คันโตน่ากำลังพูดคุยในมาร์กเซยในวันบาสตีย์ ขณะที่คนนับพันจะเฉลิมฉลองกันบนท้องถนน อากาศที่คละคลุ้งไปด้วยกำมะถันจากการจุดดอกไม้ไฟและสเปรย์ฉีดผม ซึ่ง FFT ได้ขับรถไปหาอดีตตัวทำเกมผู้ฉกาจฉกรรจ์ในช่วงกลางซัมเมอร์ ซึ่งเป็นตอนที่เมืองมาร์กเซยมีท้องฟ้าที่ปลอดโปร่งสดใสคู่กับตึกรามบ้านช่องที่ฉาบไปด้วยสีขาว
คันโตน่าดูตัวใหญ่มากกว่าที่คุณคิดเอาไว้ซะอีก คิ้วที่ดูหน้าทึบกับดวงตาสีดำที่ยากจะเข้าถึงได้ เขามองตรงมาข้างหน้า แต่ก็เฝ้ามองอย่างระมัดระวังกับคนแปลกหน้าที่อยู่รอบๆตัวเขาด้วย
ในฟุตบอลยุคปัจจุบัน ทุกคนที่เป็นตำนาน มักจะถูกใช้คำว่าพรสวรรค์ หรือไม่ก็ มีออร่า บ่อยเกินไปและก็ไม่คู่ควรกับคำพวกนี้เท่าไหร่ แต่ไม่ใช่กับคนแบบคันโตน่า เขาเป็นคนน่าดึงดูด,มีบุคลิกที่ชัดเจน, ตรงไปตรงมา และดูน่ากลัวหน่อยๆด้วย
กังฟูคิก ที่ใครหลายคนรู้จัก นั้นใกล้เคียงกับการลอบสังหาร จอห์น เอฟ. เคนเนดี้ สำหรับแฟนปีศาจแดงเลย ผู้เขียนขอย้อนถึงสิ่งที่เขาทำลงไปในตอนนั้นกัน ; ผมอยู่ในกลุ่มกองเชียร์ ซึ่งชั้นกลางที่นั่งฝั่ง อาเธอร์ เวต มีแฟนแมนยูเต็มไปหมด แต่ผมไม่สามารถละสายตาจากเขาได้เลย เขาดูเหมือนมีอะไรไม่พอใจอยู่ข้างใน
เมื่อเขาถูกไล่ออกจากสนาม แอนดี้ โคล วิ่งปรี่เข้าไปหาผู้ตัดสินและบอกว่าเขาคิดอย่างไร เอริคเดินออกไป พับคอเสื้อลง ซึ่งตอนนั้นเป็นชุดเยือนของยูไนเต็ด แต่ถัดมาอีกนาทีความวุ่นวายก็เกิดขึ้น และพวกเราส่วนใหญ่ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร หลังจากได้มีการนำเสนอเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนั้น แน่นอนว่าแฟนปีศาจแดงไม่เชื่ออะไรแบบนั้นอยู่แล้ว
คันโตน่ายังคงพูดอย่างไม่เสียใจกับการกระทำครั้งนั้นว่า “ผมยังต่อยเขาไม่หนักพอ” เขากล่าวเชิงเสียดาย “ผมน่าชกให้หนักกว่านี้ ผมไม่ได้ดูมันหลังจากที่เผยแพร่เรื่องนี้ในโทรทัศน์หรอก เพราะผมรู้อยู่แล้วมามันเป็นยังไง ทั้งหมดที่ผมรู้ตอนนี้ก็คือนักข่าวที่มาวนเวียนอยู่รอบๆบ้านผม นั่นคือทั้งหมดที่ผมเห็น เพราะบ้านผมเล็ก และพวกเขาก็บังแสงแดดหมดเลย”
อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กล่าวสรุปเรื่องอุทรณ์ให้ดาวเตะเลือดน้ำหอมว่า “ถ้ามีนักเตะซักคนจากที่ไหนก็ได้บนโลกใบนี้ที่ถูกสร้างมาเพื่อยูไนเต็ด คันโตน่าคือคนๆนั้น ผมคิดแบบนั้นเพราะเขาเดินทางมาแล้วหลายประเทศ ดูคล้ายๆพวกยิปซีหน่อยๆ เขาเฝ้าหาสถานที่นี้มาตลอดชีวิต สถานที่ที่เขารู้สึกว่าเป็นบ้านของเขา และเมื่อเขามาที่นี่เขาก็รู้ว่าที่นี่คือบ้านของเขา คุณก็พอจะบอกได้”
เอริคอยู่ที่นี่แล้ว
การเข้ามาของเอริคทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในห้องแต่งตัวซึ่งไม่เคยเป็นมาก่อน เดวิด เมย์จำได้อย่างเด่นชัด เขาไม่ได้กลับมาที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ดมาเป็นเวลานานแล้ว และพึ่งรู้จักกับเพื่อนใหม่ในทีมก่อนเกมเยือนนัดแรกของเขาเท่านั้น
“ผมรู้สึกทึ่งกับเอริคและทุกคนครอบครัวผมก็เป็นเช่นกัน” เมย์อธิบาย “ผมไม่ได้แชร์ห้องกับใครเลย พัลลี่ (พัลลิสเตอร์)และ บรูสซี่ (สตีพ บรูซ) อยู่ด้วยกัน เดนนิส (เออร์วิน) และ คีนนี่ (รอย คีน),อินซี่ (พอล อินซ์)และ กิ๊กซี่ เพราะงั้นผมจึงต้องใช้ห้องอยู่คนเดียว”
ขณะที่คิดว่าตัวเองเป็นคนนอกอยู่นั้น เมย์เข้าไปในห้องของเขาและนอนลงบนเตียง ซึ่งอยู่ 2 เตียงในห้องนั้น จากนั้นเขาได้ยินเสียงคลิกและเห็นคนเปิดประตูเข้ามา “เอริค เดินเข้ามา” เมย์รำลึกย้อน “ผมคิดว่า ‘โอ้พระเจ้า ผมไม่ต้องการแบบนี้เลย ผมอยู่ห้องเดียวกับเอริค’ ”
เมย์พยายามทำตัวสุภาพและไม่กระดี๊กระด๊าเกินไป “ต่อมาผมไปทานอาหารเย็น แต่ไม่รู้ว่าต้องกลับห้องเวลาไหน สิ่งที่ผมคิดคือเอริคต้องการอะไรนะ ผมควรจะกลับห้องเร็วหรือช้าดี? เข้าไปแบบเสียงดังหรือเงียบๆดี? ดังนั้นผมจึงกลับห้องเร็วและนั่งลงบนเตียงดูทีวีอยู่”
คันโตน่านอนเตียงตรงข้ามกับเมย์ เอริควัย 28 ปีคุ้นเคยกับห้องระดับสี่ดาวของโรงแรมอย่างง่ายดาย เขาเล่นมา 8 สโมสรแล้วและรู้เรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตค้าแข้งเป็นอย่างดี และนั่นเป็นช่วงเวลาที่น่าสนใจก็เกิดขึ้น
บทสนทนาระหว่างเมย์-คันโตน่าในห้องนั้นดูไม่ค่อยลื่นไหลเท่าไหร่ ดังนั้นเมย์จึงเลือกที่โทรหาที่บ้านซะเลย
“ผมโทรหาที่บ้านและถามว่าอยากได้ตั๋วมาดูเกมกี่ใบ” เขาเล่าถึงวันนั้น “พีทตอบกลับมา เขาตื่นเต้นที่ผมจะได้เล่นให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ถามว่าผมอยู่ร่วมห้องกับใคร”
“ฉันอยู่กับเอริค” ผมตอบกลับไปเบาๆ พยามทำน้ำเสียงให้ปกติที่สุด “พ่อ!” พีทตะโกนลั่น “พ่อ เขาอยู่กับเอริค เขาอยู่กับเดอะคิง!”
“เอริคกำลังนอนอยู่บนเตียงของเขาและได้ยินทุกอย่าง” เมย์เสริม “เขาแค่ยิ้มและก็หันไปดูทีวีต่อ ผมมองไปแล้วก็ยักไหล่เท่านั้น”
เขาคือที่สุด
หากผู้เล่นที่อยู่ในความฟอร์มที่น่าทึ่ง แฟนๆอย่างเราจะมีโอกาสเห็นอะไรบ้าง?
เมื่อครั้งที่หัวหอกเฟร้นช์แมนมาถึงที่นี่ ยูไนเต็ดไม่ได้คว้าแชมป์ลีกมา 26 ปีเต็มๆ และในช่วงที่ฟอร์มพีกๆอยู่ เขาเลือกที่จะแขวนสตั๊ดก่อนที่ร่างกายแย่ลงไปกว่านี้ ในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ดจำเป็นต้องพยายามให้มากขึ้นเพื่อถ้วยรางวัลที่เขาช่วยให้ทีมคว้ามาได้ และเป็นแรงบันดาลใจให้นักเตะปีศาจแดงรุ่นหลังคว้าแชมป์มากมาย
เช่นเดียวกับแฟนคนอื่นๆที่เทิดทูนและเคารพเขาจนสุดหัวใจ ผมมองว่าคันโตน่าเป็นเพลย์เมกเกอร์ที่สร้างแรงบันดาลใจ,ความเดือดดาล และความสร้างสรรค์มากที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นในผู้เล่นของยูไนเต็ดเลย
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
