16 ธ.ค. 2018 เวลา 03:51 • การศึกษา
เพราะเหตุใด? ฟ้าจึงชอบผ่า…ฝูงสัตว์ หลังกวางและแกะนับ 1,000 ตัว ถูกฟ้าผ่าตาย!
ปรากฏการณ์ ที่สัตว์ในฟาร์ม หรือสัตว์ป่าถูกฟ้าผ่าตายนั้น ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ เพราะเมื่อเกิดฟ้าผ่าเสียงดัง พวกสัตว์จะหลบเข้าใต้ต้นไม้ใหญ่ ซึ่งอันตรายมาก และพวกมันจะตายหมดหากฟ้าผ่าเข้าที่ต้นไม้ ในระยะไม่เกิน 15 – 24 เมตร นับจากเส้นผ่าศูนย์กลางบริเวณที่ฟ้าผ่า ซึ่งเป็นระยะที่อันตรายถึงชีวิต ทำไมเวลาเกิดฝนตกฟ้าคะนอง ถึงไม่ควรใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้าน
เมื่อปี 2012 เกิดเหตุ ฟ้าผ่าแกะ ตาย 173 ตัว ที่จีน
เมื่อปี 2016 เกิดเหตุ ฟ้าผ่ากวางเรนเดียร์ ตาย 323 ตัว ที่นอร์เวย์
เมื่อปี 2016 เกิดเหตุ ฟ้าผ่าแกะ ตาย 38 ตัว ที่อินเดีย
เมื่อปี 2017 เกิดเหตุ ฟ้าผ่าวัว ตาย 32 ตัว ที่อเมริกา
เมื่อปี 2018 เกิดเหตุ ฟ้าผ่าวัว ตาย 13 ตัว ที่ไทย
เมื่อปี 2018 เกิดเหตุ ฟ้าผ่าห่าน ตาย 50 ตัว ที่อเมริกา
ซึ่งทั้งสัตว์และมนุษย์ ที่เสียชีวิตจากฟ้าผ่า ล้วนมีสาเหตุจากกระแสไฟฟ้าที่ไหลลงพื้นดิน และจะเข้าสู่ร่างกายหากเหยียบพื้นดินบริเวณนั้นโดยไม่ได้สวมรองเท้า ซึ่งสำหรับสัตว์ โชคร้ายที่พวกมันมีสี่ขา ดังนั้นกระแสไฟฟ้าที่ไหลเข้าไปในตัวจึงมีปริมาณมากขึ้น ดังนั้นจึงไม่จำเป็นที่กวางเหล่านั้นจะต้องแตะตัวกันก็ได้รับกระแสไฟฟ้าได้ จากการที่มันยืนอยู่ในบริเวณพื้นดินที่กระแสไฟฟ้าเดินทางไปถึง
1
สัตว์ทุกตัวข้างต้นที่เรายกตัวอย่างให้เห็น ทั้ง แกะ กวาง วัว (ยกเว้นห่าน) เป็นสัตว์ที่มีพฤติกรรมชอบจับกลุ่มกันเวลาสภาพอากาศเลวร้าย จึงอาจเป็นคำอธิบายได้ว่าทำไมพวกมันถึงถูกฟ้าผ่าตายเป็นจำนวนมากเช่นนี้ในครั้งเดียว
ปล.ขอให้จำไว้ว่า เมื่อกระแสไฟฟ้าเดินทางเข้าสู่ร่างกาย มันจะผ่านเข้าไปยังระบบประสาท และทำให้หัวใจหยุดเต้น ซึ่งในกรณีที่ผู้ถูกฟ้าผ่าเป็นมนุษย์ เราสามารถทำ CPR ปั๊มหัวใจให้กลับมาเต้นใหม่ได้
1
Fact – มีกรณีเกิดฟ้าผ่าต้นไม้ ทำให้เด็กที่ใส่ลวดดัดฟันได้รับอันตราย เนื่องจากลวดดัดฟันร้อนขึ้น ทำให้เกิดรอยไหม้บนผิวหนังที่โลหะนั้นสัมผัสอยู่
Fact2 – เมื่อรู้สึกว่าเส้นขนบนผิวหนังลุกขึ้น หรือถึงขนาดเส้นผมศีรษะลุกตั้งขึ้น แสดงว่า คุณกำลังเสี่ยงต่อการถูกฟ้าผ่า เนื่องจากเส้นขนและเส้นผมของคุณกำลังถูกเหนี่ยวนำอย่างแรง
โฆษณา