5 ม.ค. 2019 เวลา 07:34 • สุขภาพ
#กล้วยกับเบาหวาน
น้ำตาลในรอบล่าสุด ของป้า ว. พุ่งกระฉูดทะลุ 220+
น้ำตาลสะสมไม่ต้องพูดถึง HbA1c หรือเจ้าตัวน้ำตาลสะสมนี่ 9.6 % (เป้าหมายของผู้ป่วยเบาหวาน 7%)
เข้าใกล้การเปลี่ยนรูปแบบใช้ยาอินซูลินฉีดเข้าไปทุกที
2
แพทย์. : ทำไมน้ำตาลเยอะจุง กินข้าวเยอะมั้ย แป้ง ขนมปังบ้างมั้ยคะ
ป้า. : ไม่เยอะ ข้าวเท่าแมวดม ขนมจุกจิกไม่กิน
1
แพทย์. : ขนมหวาน น้ำอัดลมหล่ะคะ
ป้า. : ไม่เลยหมอ ป้าหยุดนานแล้วตั้งแต่หมอบอก
แพทย์. : ตอนเย็นกินมื้อดึกมั้ยคะ
ป้า. : ไม่ดึก ตอนเย็นป้าไม่กินข้าวเลย
แพทย์. : ไม่กินเลยแล้วอยู่ได้หรอตอนดึกมีอาการใจสั่น หวิว มือสั่น โหยกลางคืนมั้ยคะ (อาการน้ำตาลต่ำ)
ป้า. : ตอนเย็นป้าเลิกกินข้าวเลย ป้ากินกล้วยแทน
แพทย์. : (นั่นไง) กินกี่ลูกหรอต่อวัน
ป้า. : วันละครึ่ง
แพทย์. : ครึ่งลูก?
ป้า. : ครึ่งหวี (ป้ายิ้มแฉ่ง)
เจอบ่อย ๆ เลยค่ะ กับประเด็นเรื่องกล้วย และผลไม้อื่นใด
เพราะส่วนใหญ่แล้วเรามักคิดว่าผลไม้มันน้ำตาลธรรมชาติ กินแล้วเบาหวานไม่น่าขึ้น
แต่จริง ๆ แล้วหมออยากให้ลองคิดว่า น้ำตาลทรายยังทำมาจากอ้อยเลย แล้วไยผลไม้อื่นจึงจะไม่ขึ้น
ผลไม้แต่ละชนิดมีส่วนประกอบน้ำตาลไม่เท่ากันค่ะ แต่บ้านเราเมืองผลไม้คงห้ามยาก
เลยขอให้เดินทางสายกลาง ทานได้แต่พอดี บางคนล่อเป็นโลค่ะ น้ำตาลไม่ขึ้นยังไงไหว
อีกมุขที่คนไข้มักบอก คือ ไม่ได้กินไรเลย
แต่พอถามไปมา เอ้า ไม่ได้กินข้าวนะ
แต่กินชานมแทนบ้าง กินนมถั่วเหลืองแทนบ้าง กินนมเปรี้ยววันละสามขวดบ้าง
มันก็จะมีรายละเอียดตรงนี้ประเด็นของฉลากอาหารที่เราเลือกได้
ไว้ว่าง ๆ จะมาสอนวิธีการอ่านฉลากคร่าว ๆ ดูเรื่องน้ำตาลและไขมัน เพื่อการเลือกซื้ออย่างชาญฉลาดนะคะ
น้ำตาลช่างน่ากลัวเช่นนี้ กินไปแบบไม่รู้เรื่องเลย !!!!!
โฆษณา