16 ม.ค. 2019 เวลา 13:06 • กีฬา
เกิดบ้าอะไรขึ้นกับ โอซิล ที่ อาร์เซนอล?
การผสมรวมกันระหว่างอาการบาดเจ็บปริศนาและ 'เหตุผลทางด้านแท็กติค' ทำให้นักเตะที่มีค่าเหนื่อยแพงที่สุดเป็นอันดับสองใน พรีเมียร์ลีก กำลังติดขัดกับการลงเป็นตัวจริงให้กับทีม เรื่องราวมันมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร?
การได้รับค่าเหนื่อย 350,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ มักจะเกิดคำถามขึ้นบ่อยครั้งว่า เมซุต โอซิล สมควรได้รับเงินจำนวนนี้จริงๆหรือ? แต่ผ่านมาแล้วเกือบ 5 ปีกับการค้าแข้งกับ อาร์เซนอล ในตอนนี้คำถามที่แท้จริงได้เปลี่ยนเป็นว่า โอซิล คุ้มค่าที่จะหยิบมาประเด็นในการสนทนาจริงๆหรือ?
เคยมีการเสียงแตกและเกิดการถกเถียงกันจากแฟนบอลมากกว่าแข้งเยอรมันคนนี้หรือไม่? มีความคิดเห็นแบ่งเป็นสองฝั่งนับตั้งแต่วันที่เขาย้ายเข้ามาในถิ่นลอนดอนเหนือ แฟน อาร์เซนอล บางคนก็ยินดีปรีดาที่ได้ตัวเขามาและคิดว่านี่คือนักเตะที่สามารถเปลี่ยนเกมได้ และมีศักยภาพแฝงอยู่ในตัวเหมือนกับครั้งที่ เดนนิส เบิร์กแคมพ์ ย้ายมาร่วมทีม ส่วนอีกด้านก็มองว่าทีมนี้ไม่ได้ต้องการผู้เล่นประเภทนี้
แม้ โอซิล จะช่วยให้ทีมปืนใหญ่สิ้นสุดการรอคอยแชมป์มาอย่างยาวนานโดยการคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ 3 สมัยใน 4 ปี และถึงแม้เขาจะเคยได้ชูถ้วย ฟุตบอลโลก กับทีมชาติ เยอรมัน เขาก็ยังคงถูกค่อนแคะจากแฟนบอล โดยอ้างว่าเขาไม่ได้ทำงานหนักมากพอและไม่ได้สร้างสรรค์เกมดีพอ โอซิล มักจะถูกตำหนิบ่อยครั้งจากภาษากายของเขาที่ดูเหมือนเล่นฟุตบอลบอลโดยไร้ความกระตือรือร้น
ทางฝั่งที่ชื่นชม โอซิล ก็อ้างว่าเขาทำได้ดีแล้วแต่บางครั้งเพื่อนร่วมทีมก็ตามเซนส์บอลไม่ทัน ทั้งสองฝั่งต่างก็ขุดหาข้อมูลมาเพื่อสนับสนุนความคิดของตนเอง มีบางคนที่ฟังความเห้นจากคนอื่นและบางคนก็เปลี่ยนใจจากที่ตนเองคิด
สุดท้ายการถกเถียงกันก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนาไปเป็นเรื่อง Brexit แทน แต่สุดท้าย Brexit ก็จบลงโดยปัญหาถูกคลี่คลาย แต่สถานการณ์ของ โอซิล ในถิ่น เอมิเรตส์ กลับยิ่งซับซ้อนกว่าเดิม การถกเถียงกันว่า โอซิล เป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมแทบจะหายไปจากการสนทนา
กองกลางชาวเยอรมัน น่าจะเป็นคนที่ไม่มีความสุขมากที่สุดในฤดูกาลนี้ เขาไม่สามารถเป็นตัวจริงอย่างสม่ำเสมอได้ในทีมของ อูไน เอเมรี่ เขาพลาดการลงสนามหลายๆเกมจากอาการบาดเจ็บ และก็มีบางครั้งที่ เอเมรี่ กล่าวถึงการหายไปของ โอซิล ว่าเป็น “เหตุผลทางด้านแท็คติค
เคยมีรายงานออกมาว่าแข้งเยอรมัน ฉุนเฉียวออกมาจากสนามซ้อมหลังจากที่เขาถูกบอกว่าจะไม่ได้ลงเป็นตัวจริงในเกมกับ เวสต์แฮม ว่ากันว่า เอเมรี่ ไม่พอใจฟอร์มการเล่นของเขาในเกมกับ คริสตัล พาเลซ ซึ่งเป็นเกมที่ โอซิล แสดงอาการไม่พอใจหลังถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 68
บางครั้งเขาก็เป็นผู้เล่นที่โดดเด่น บางครั้งเขาก็กลายเป็นผู้เล่นที่ล้มเหลว บางวันเขาก็ไม่ติดแม้กระทั่งตัวสำรอง สัปดาห์ต่อมาเขาได้ลงเป็นตัวจริงและสวมปลอกแขนกัปตันทีม นี่คือหนึ่งในนักเตะที่เป็นบิ๊กเนมที่สุดในโลกฟุตบอลนะ เกิดอะไรขึ้นกัน?
จังหวะเวลาคือทุกสิ่ง
เหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้เกิดจากการฝังรากลึกในช่วงที่ยุคของ เวนเกอร์ ใกล้จะจบลง
ช่วงที่ โอซิล พีคกับทีมปืนใหญ่ที่สุดคือปี 2013 และ 2015 จากนั้น ฟอร์มก็จะเริ่มขาดๆหายๆไป โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาว เขามักจะดูเบื่อหน่ายมากกว่าปกติเมื่อสิ่งต่างๆไม่เป็นไปตามแผน เขาดูเหมือนจะเสียสมาธิไป และก็มีความรู้สึกว่า เวนเกอร์ ค่อนข้างตามใจเขามากเกินไป
จากนั้น ตัวแทนของ โอซิล ไหวตัวทันและชิงเข้ามาตกลงสัญญาใหม่แสนแพงกับสโมสรหลังจากที่ อเล็กซิส ซานเชส ย้ายออกไปเมื่อเดือนมกราคมที่แล้ว ด้วยการที่ อาร์เซนอล กลัวที่จะต้องเสียสองสตาร์ออกไปในตลาดซื้อขายครั้งเดียว พวกเขายอมจ่ายตามข้อเสนอจากเอเยนต์ของเขาที่ 350,000 ต่อสัปดาห์ ฝ่ายที่ยกหางโอซิลต่างก็โล่งอก แต่ทางฝั่งที่ค่อนแคะในตัวเขายังคงค้างคาใจกับดีลที่เกิดขึ้น
ไม่มีใครกล่าวหาถึงการที่ เอเมรี่ ดรอป โอซิล แต่หลายๆคนก็สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างผู้จัดการทีมและนักเตะดาวเด่นของสโมสร หรือกุนซือชาวสเปน กำลังขับไล่ปีศาจที่กำลังหลอกหลอนเขาอยู่จากตอนที่เขามีปัญหากับแข้งบราซิลเลียน ที่เปแอสเช?
อำนาจของ เอเมรี่ ในถิ่นเมืองหลวงของฝรั่งเศสถูกทำลายอย่างสิ้นซากโดยการมาของ เนย์มาร์ ที่มีสถิติค่าตัวแพงที่สุดในโลก หลังจากออกจากทีมยักษ์ใหญ่ของฝรั่งเศส เอเมรี่ เผยว่า “ผมรู้ว่าเมื่อไหร่ที่ผมได้เป็นหัวเรือในกลุ่ม และเมื่อไหร่ที่ผมไม่ได้เป็น ที่เปแอสเชผู้นำคือ เนย์มาร์ ในขณะที่ แมนฯซิตี้ ผู้นำคือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า” บางที เอเมรี่ อาจจะกำลังเตือนสติ โอซิล ว่าใครคือผู้นำที่ อาร์เซนอล
และนอกจากสไตล์การเล่นของ โอซิล ที่ดูจะไม่เข้ากับแนวทางฟุตบอลของ เอเมรี่ ก็ยังมีเรื่องการเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง มาตรการควบคุมการเงินตัวใหม่ของ พรีเมียร์ลีก ได้ออกมาบังคับใช้ในปี 2017 โดยจำกัดค่าเหนื่อยว่าจะเพิ่มได้เท่าไหร่ในแต่ละปี เมื่อกฎดังกล่าวผนวกเข้ากับความเหนียวของ สแตน โครเอนเก้ นั่นทำให้ เอเมรี่ ไม่ยินดีที่จะจ่ายเงินก้อนโตให้กับนักเตะที่ไม่เข้ากับแผนของเขาอย่างเต็มร้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเขาต้องการเสริมนักเตะใหม่เข้ามา
สำหรับ โอซิล ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมาน่าเศร้ามาก ถึงขั้นช็อคเลยแหละ นักเตะที่ครั้งหนึ่งคอยแอสซิสต์ให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ เบอร์นาเบว และได้ชูถ้วย ฟุตบอลโลก กำลังตกอยู่ในสถานะกึ่งเป็นกึ่งตายกับทีมอันดับ 5 ในพรีเมียร์ลีก รวมถึงดราม่าที่ทำให้เขาเลิกเล่นฟุตบอลทีมชาติ
ปักหลัก
เขาควรย้ายออกไปในตลาดเดือนมกรานี้เลยไหม? หากไม่อิงจากเอเยนต์ของเขาที่กล่าวว่า โอซิล “มุ่งมั่น 100%” ให้กับ อาร์เซนอล แต่ความจริงแล้วเหมือนเป็นการเปิดโอกาสที่จะต่อสัญญาปัจจุบันที่จะหมดในปี 2021 มากกว่า สโมสรได้ฟังการสรุปที่ว่า เอเมรี่ ประทับใจในตัว โอซิล ที่มีความมุ่งมั่นที่จะต่อสู้เพื่อแย่งตำแหน่งและนั่นทำให้อนาคตของเขาจะไม่ถูกรีวิวไปจนกว่าซัมเมอร์จะมาถึง
ถ้าหากเขายังคงขึ้นมาเป็นตัวจริงให้กับทีมไม่ได้สิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปนี้จะขึ้นอยู่กับว่า โอซิล จะสามารถหาสโมสรที่เต็มใจจ่ายค่าเหนื่อยที่เขาได้รับอยู่ หรือมากกว่า ในถิ่น เอมิเรตส์ หรือไม่ มีข่าวออกมาว่าเขาปฏิเสธข้อเสนอจากเอเชียที่มีมูลค่า 1 ล้านต่อสัปดาห์ แต่ถ้าหากเป็นข้อเสนอจากสโมสรเงินหนาจาก ตุรกี ก็ไม่แน่ที่จะสร้างความสนใจให้ตัวเขาได้ แต่ถ้าสุดท้ายแล้วไม่มีทีมไหนยอมจ่ายล่ะ?
กรณีของ โอซิล แสดงให้เห็นถึงความล้มเหลวของระบบการปกครองก่อนหน้านี้ การหย่อนยานทำให้นักเตะเหมือนอยู่ในคอมฟอร์ทโซน, การต่อสัญญาที่ทำให้ทีมแย่ลง และการตัดสินใจมอบเงินให้จำนวนมหาศาลโดยที่ผลตอบแทนไม่คุ้มค่า สถานการณ์ของเขาในตอนนี้คือสิ่งที่ยากที่สุดและละเอียดอ่อนที่สุดสำหรับ เอเมรี่ ในการตัดสินใจ หากกุนซือชาวสเปนสามารถดึงความยอดเยี่ยมของ โอซิล ออกมาได้ นั่นคือวิธีการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด
โฆษณา