17 ม.ค. 2019 เวลา 11:28 • ธุรกิจ
บทที่ 18 เคราะห์ดีในเคราะห์ร้าย (good thing in bad time)
เหตุการณ์สำคัญ
ค.ศ.207 เล่าปี่อายุ 47 ปี โจโฉอายุ 53 ปี ซุนกวนอายุ 26 ปี
เล่าปี่เข้าร่วมกับเล่าเปียวไปตั้งทัพอยู่ที่เมืองซินเอี๋ย
โจโฉได้ครอบครองภาคเหนือทั้งหมด แต่เสียกุนซือคนสำคัญอย่าง กุยแก
ในขณะที่โจโฉรบพุ่งกับอ้วนเสี้ยวอยู่นั้น เล่าปี่ที่แอบถอนหุ้นหนีออกมาจากอ้วนเสี้ยวและมาตั้งตัวใหม่ครองเมืองยี่หลำอยู่นั้นก็แอบคิดการใหญ่ลอบยกทัพไปตีฮูโต๋ราชธานี เมืองหลวงของโจโฉ แต่ก็โดนโจโฉรู้ทันยกทัพตีตลบแถมยังแบ่งทัพไปยึดเมืองยี่หลำฐานที่มั่นใหม่ของเล่าปี่ได้อีก เล่าปี่ชีวิตก็ต้องมาตกระกำลำบากอีกครั้ง
ที่ปรึกษาซุนเขียนจึงปรึกษากันว่าจะไปขอพึ่งพาเล่าเปียวอยู่ เล่าเปียวนั้นเป็นเชื้อพระวงศ์มีแซ่เล่าแซ่เดียวกับเล่าปี่ ทั้งองค์กรของเล่าเปียวนั้นก็ครองอณาจักรเกงจิ๋ว ซึ่งเป็นพื้นที่ราบขนาดใหญ่ทางภาคกลางของจีน ทางเหนือของเกงจิ๋วติดกับพื้นที่ของโจโฉ
เมื่อได้รับหนังสือจากเล่าปี่ขอเข้าร่วมด้วยกับเล่าเปียวก็มีความยินดีเนื่องจากพื้นที่ภาคกลางของจีนอย่างเกงจิ๋วนั้นมีความสงบอุดมไปด้วยบัณฑิตผู้มีสติปัญญาความสามารถ แต่ขาดซึ่งขุนศึกนักรบที่เก่งกาจ และขณะนี้แผ่นดินไม่สงบ โจโฉครองความเป็นใหญ่ทางภาคเหนือ อีกไม่นานต้องยกทัพมายึดเกงจิ๋วแน่ๆ
เล่าเปียวจึงต้องการขุนศึกนักรบที่มีความสามารถ ซึ่งการมาของเล่าปี่ตอบโจทย์ของเล่าเปียวมากเพราะเล่าปี่ในขณะนั้นอุดมด้วยยอดขุนศึกทั้งกวนอู เตียวหุย จูล่ง สามารถเป็นกันชนกับโจโฉได้เป็นอย่างดี คิดได้ดังนั้นเล่าเปียวจึงตัดสินใจรับเล่าปี่เข้ามาร่วมด้วยกับเกงจิ๋ว
แม้นจะได้รับการขัดความจากภรรยาและซัวมอพี่เขยที่เป็นผู้ดูแลเรื่องการทหารของเกงจิ๋วอยู่เนื่องด้วยว่ากังวลว่าเล่าเปียวจะชักศึกเข้าบ้าน เพราะเล่าปี่นั้นเป็นคนทะเยอทะยาน ไปอยู่กับใครก็มีปัญหากับคนนั้น
เนื่องจากเคยมีปัญหาตีจากออกมาทั้งจาก ลิโป้ โจโฉ และอ้วนเสี้ยว นอกจากนี้โจโฉเองผิดใจกับเล่าปี่อยู่ถ้ารู้ว่าเล่าเปียวรับเล่าปี่ไว้สุดท้ายโจโฉก็จะอาศัยเหตุนี้ยกทัพมาเกงจิ๋วซึ่งก็ถือว่าซัวมอมีเหตุผลอยู่ไม่น้อย แต่เล่าเปียวก็ไม่ได้ฟังความแนะนำของซัวมอเพราะมองว่าเล่าปี่เป็นคนมีคุณธรรม มีความสามารถ ทั้งยังแซ่เดียวกัน แถมยังได้ยอดขุนพลมาอีก เล่าเปียวดีดลูกคิดในหัวแล้วก็ตัดสินใจออกไปเชิญเล่าปี่ถึงนอกเมืองให้เข้ามาอาศัยอยู่ในเกงจิ๋ว
เล่าปี่เข้าร่วมกับเล่าเปียวไม่นานก็มีโอกาสสร้างผลงานเนื่องจากมีการกบฏแข็งเมืองของสองนายทหารของเล่าเปียว เล่าปี่ก็อาสาจัดการได้อย่างรวดเร็ว แสดงถึงความสามารถในการรบของทีมงานของเล่าปี่ เล่าเปียวจึงไว้วางใจมอบให้ขุนพลของเล่าปี่ทั้งสามคุมรักษาด่านสำคัญของเกงจิ๋วทั้งสามด้าน เกงจิ๋วของเล่าเปียวตอนนี้จึงมีความเข้มแข็งทางการทหารอย่างไม่เคยมีมาก่อน
ยิ่งเล่าเปียวไว้ใจเล่าปี่มาก ทางชัวมอกับชัวฮูหยิน กับยิ่งรู้สึกถึงความไม่มั่นคงไม่ปลอดภัย เพราะนับวันประชาชนก็ยิ่งรักใคร่ในตัวเล่าปี่ ถ้าเกิดเล่าปี่คิดไม่ซื่อขึ้นมาพวกตนคงต้องสิ้นชาติ จึงนำความคิดนั้นไปบอกกล่าวแก่เล่าเปียว ขอให้เล่าเปียวส่งเล่าปี่ไปอยู่ที่อื่น
ฟังความเห็นของภรรยามากเข้าเล่าเปี่ยวก็เริ่มเชื่อภรรยา ชวนเล่าปี่มากินโต๊ะและยกมอบหมายให้เล่าปี่ไปอยู่เมืองซินเอี๋ย เล่าปี่ที่ไม่รู้เรื่องว่าภรรยาเล่าเปียวกับซัวมอไม่ชอบตนก็ยินดีไปอยู่รักษาเมืองซินเอี๋ย เพื่อรับมือกับโจโฉ
ผ่านไปถึงฤดูหนาว เล่าปี่เข้ามาว่าราชการที่เมืองเกงจิ๋ว เล่าเปียวก็ชวนเล่าปี่ไปเสพสุราและปรับทุกข์ เรื่องว่าตนมีลูกชาย 2 คน คนหนึ่งชื่อเล่ากี๋ สติปัญญาดีแต่ร่างกายอ่อนแอเป็นลูกคนโตกับภรรยาเก่าที่ ตายไปแล้ว อีกคนชื่อเล่าจ๋องสติปัญญาดีและร่างกายแข็งแรงเป็นบุตรของภรรยาคนปัจจุบัน
ตามหลัก ประเพณีแล้วลูกคนโตต้องเป็นคนสืบสมบัติ แต่ตนคิดตั้งเล่าจ๋องเป็นผู้สืบราชสมบัติเพราะเกรงถ้าตั้งเล่ากี๋เป็นผู้สืบราชสมบัติเมื่อตนตายไปแล้ว เล่ากี๋จะมีปัญหากับซัวมอและภรรยาใหม่เนื่องจากซัวมอและภรรยา ใหม่คุมอำนาจอยู่มาก
เล่าปี่ก็ให้คำแนะนำเล่าเปียวการตั้งลูกคนเล็กสืบสมบัตินั้นผิดประเพณี มีตัวอย่าง ให้เห็นมากมายว่าจะก่อปัญหาต่างๆตามมา ควรตั้งเล่ากี๋ลูกชายคนโตขึ้นสืบสมบัติ
ส่วนความกังวลเรื่องเล่ากี๋จะไม่ปลอดภัยจากอิทธิพลของซัวมอ และภรรยาคนปัจจุบันของเล่าเปียว นั้นระหว่างนี้ให้เล่าเปียว ลดอำนาจของฝ่ายหนุนเล่าจ๋องลง และเพิ่มอำนาจให้ฝ่ายเล่ากี๋มากขึ้นก็จะแก้ไขปัญหาได้
แต่ระหว่างที่ปรึกษากันอยู่นี่มีคนของซัวมอแอบฟังอยู่ความได้หลุดไปถึงหูของซัวมอ และภรรยาคนปัจจุบันของเล่า เปียว จึงวางแผนจะสังหารเล่าปี่ในคืนนั้นเพราะถ้าปล่อยเล่าปี่ไว้จะเป็นภัยต่อการใหญ่ในภายหลัง
แต่ว่าเรื่องก็หลุดออกมาทหารของเล่าเปียวที่ชอบเล่าปี่ก็แอบเอาแผนของซัวมอมาแจ้งแก่เล่าปี่และให้เล่าปี่ หลบหนีออกไปจากเมืองในคืนนั้น เมื่อทหารของซัมมอมาสังหารเล่าปี่ไม่เจอเล่าปี่ก็ทำการใส่ร้ายเล่าปี่ด้วยการ เขียนข้อความไว้แสร้งว่าเป็นข้อความที่เล่าปี่เขียนขึ้นตอนเมาก่อนจะหลบหนีไป
ความว่า “มังกรหาใช่สัตว์ในสระจ้อย” แสร้งว่าเล่าปี่มีความทะเยอทะยานสูงอยากจะครอบครองเกงจิ๋วของเล่าเปียวมากกว่าจะอยู่ที่เมืองซินเอี้ยเมืองหน้าด่านเล็กๆของเกงจิ๋ว แต่เล่าเปียวก็เป็นผู้นำที่มีสติและปัญญาพอที่จะไม่หลงไปกับกลลวงและคำยุแยงของซัวมอ กับภรรยาของตน
เมื่อแผนแรกไม่สำเร็จซัวมอกับภรรยาของเล่าเปียวก็วางแผนกันใหม่ โดยแผนสองนี้ให้เล่าเปียวเชิญเล่าปี่มาเป็นประธานในงานพิธีพืชมงคลที่เมืองซงหยงแทนเล่าเปียวเพราะเล่าเปียวสุขภาพไม่ค่อยดี และเตรียมกำลังไว้สังหารเล่าปี่ในงาน
เล่าปี่พอได้รับคำเชิญก็ไม่สบายใจเพราะรู้ว่าตัวเองไม่เป็นที่พอใจของซัวมอกับภรรยาของเล่าเปียว จูล่งจึงเสนอตัวไปเป็นบอดี้การ์ดพร้อมทหารอีก 300 ก็มั่นใจว่าเล่าปี่จะปลอดภัย
ในเมืองซงหยงนี้มีทางหนีสี่ทางซัวมอให้ลูกน้องวางกำลังดักเล่าปี่ 3 ทาง ทั้งเหนือ ใต้ ตะวันออก เว้นแต่ตะวันตกที่มีแม่น้ำกั้นอยู่ไม่มีทางหนี เมื่อได้เวลาก็กันจูล่งไว้ไม่ให้เข้าไปภายในงานจูล่งไม่ยอม แต่เล่าปี่ก็ไม่อยากให้จูล่งเสียมารยาทเลยให้จูล่งรอที่ด้านนอกงาน
ระหว่างงานพิธี อีเจี้ยคนสนิทของเล่าเปียวสังเกตุทราบได้ถึงแผนการของซัวมอจึงเตือนเล่าปี่ถึงแผนการของซัวมอ ว่ามีแผนจะสังหารเล่าปี่และวางกำลังดักไว้ทั้ง 3 ทาง เหลือเพียงทางตะวันตกเท่านั้นให้เล่าปี่รีบหนี
เล่าปี่พอรู้ตัวว่าชีวิตตัวเองตกอยู่ในอันตรายก็รีบหนีออกจากงาน ไม่ทันแจ้งจูล่งก็รีบควบม้าออกไปทางตะวันตก ซัวมอก็นำกำลังทหารควบม้าตามไปสังหารเล่าปี่ เมื่อถึงสุดทางด้านหน้าเป็นแม่น้ำตันเข ด้านหลังมีกองทหารซัวมอตามมา เล่าปี่ไม่มีทางหนีบังคับม้ากระโดดข้ามแม่น้ำได้ราวปาฏิหาริย์ ซัวมอและเหล่าทหารที่ตามมาก็ได้แต่งงว่าเล่าปี่ข้ามแม่น้ำไปได้อย่างไร
เมื่อเล่าปี่หนีพ้นไปได้ก็เป็นคราวซัวมอที่เหงื่อตก เพราะคิดแค่ตื้นๆว่าสังหารเล่าปี่ก็จบเรื่อง ไม่ได้คิดเลยว่าถ้าเล่าปี่ตายไปนั้น กวนอู เตียวหุย จูล่งจะยกกำลังทหารมาล้างแค้นให้เล่าปี่
หรือถ้าเล่าปี่ไม่ตายแล้วซัวมอจะรอดไปได้อย่างไร เมื่อกลับเมืองไปเผชิญหน้ากับจูล่งที่ตามหาเล่าปี่ก็ได้แต่บอกไปว่าเล่าปี่หนีออกจากงานเลี้ยงไปไม่ทราบว่าไปไหน
ก็ยังเป็นโชคดีของซัวมอที่จูล่งเป็นคนใจเย็นหนักแน่นไม่ทำอะไรบุ่มบ่าม หากเป็นเตียวหุยซัวมอคงหัวหลุดไปแล้ว แต่จูล่งก็ให้ความสำคัญกับชีวิตของเล่าปี่ก็ออกไปตามหาเล่าปี่ก่อน
จนไปถึงริมแม่น้ำตันเข เห็นรอยเท้ามาเปียกๆอยู่ฝั่งตรงข้ามก็ได้แต่ประหลาดใจว่าเล่าปี่ข้ามไปได้อย่างไร จึงกลับไปเมืองซินเอี้ยรายงานพรรคพวกและออกตามหาเล่าปี่ตามฝั่งแม่น้ำตันเข
สรุป บทที่ 18
ทำตัวดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย เล่าปี่นั้นเป็นผู้มาใหม่ แต่มีผลงานและได้รับความไว้วางใจจากเจ้านายมากกว่าคนเก่าอย่างซัวมอ จึงทำให้ชีวิตตนต้องตกอยู่ในอันตราย จากแผนการลอบสังหารจากซัวมอ และการใส่ร้ายยุแยงจากภรรยาเล่าเปียวที่เป็นพี่สาวของซัวมอ
การเดินหมากอย่ามองเพียงตาเดียว ให้มองตาต่อๆไปด้วยว่าผลกระทบจากตาที่เราเดินนั้นจะเป็นอย่างไร ซัวมอคิดแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเพียงการจัดการเล่าปี่ ไม่ได้คิดต่อไปว่าหลังจากสังหารเล่าปี่แล้วจะเป็นอย่างไร หรือถ้าสังหารเล่าปี่ไม่สำเร็จแล้วจะเป็นอย่างไรต่อ จากการมองตื้นๆและแก้ปัญหาง่ายๆของซัวมอทำให้ก้าวเดินต่อไปของซัวมอต้องลำบาก
ขอขอบพระคุณที่ติดตามอ่าน
รังสรรค์ ใจอารีย์
@3kokstartup
สนใจบูชาปี่เซียะด้วยเคล็ดลับบูชาปี่เซียะตามแบบเศรษฐีฮ่องกง
inbox สอบถามได้ครับ
รับปรึกษาธุรกิจ
รับปรึกษาธุรกิจและการตลาด (Business Consult & 1 by 1 Coaching)
รับเป็นวิทยากร บรรยายให้ความรู้ในหัวข้อ สามก๊ก เชิงธุรกิจ และการตลาด กับ กลยุทธ์ซุนจื่อเพื่อผู้ประกอบการและธุรกิจสมัยใหม่
ติดต่องาน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ปรึกษาเบื้องต้นได้ทาง inbox หรือผ่านระบบ Fast Work ก็ได้ตามลิ้งค์ครับ
Credit :
เรื่อง : รังสรรค์ ใจอารีย์ (สามก๊กฉบับ Start Up)
ภาพ :
สามก๊กฉบับตีความใหม่ ฉบับที่จะเปลี่ยนชีวิตคุณ
ถ้าคุณมีความฝัน มีการใหญ่อยู่ในหัวใจ แต่ยังไม่พบหนทาง ห้ามพลาดกับ สามก๊กฉบับ Start Up
สามก๊กเล่มแรกเล่มเดียวที่เขียนโดยนักกลยุทธ์การตลาด
ติดตามอ่านเพิ่มเติมได้ในเพจ
และอ่านแบบเต็มๆได้ที่
#naiinpan
#ookbee
ผู้เขียนขอขอบพระคุณสำหรับทุกการสนับสนุน ที่ได้มอบโอกาสให้ผู้เขียนได้ส่งต่อเรื่องราวที่ผู้เขียนคิดว่าดีและมีประโยชน์
และขออภัย สำหรับทุกบทความใดหากมีความผิดพลาดหรือไม่ถูกใจ ผู้เขียนกราบขออภัยไว้ที่นี้ด้วยครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา