📌 สรุปการลงทุนการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
1.) หุ้นในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเรารวมไปถึงธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และวัสดุก่อสร้าง เป็นธุรกิจที่มีความเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจมหภาคสูง หมายถึง การเติบโตของธุรกิจอยู่ในทิศทางเดียวกับเศรษฐกิจของประเทศ ยากที่ผู้ประกอบการจะสร้างการเติบโตที่สวนทางไปกับเศรษฐกิจภาพรวม หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ จึงเข้าข่ายการเป็น “หุ้นวัฏจักร” (Cycle Stock) นักลงทุนควรต้องติดตามภาวะเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด เพื่อหาจังหวะลงทุนในภาวะที่ความต้องการ
2.) การดูเพียงรายได้และกำไรในงบการเงินเพียงอย่างเดียวอาจจะทำให้การวิเคราะห์กิจการในอนาคตผิดพลาดได้จำเป็นต้องเรียนรู้ 2 คำนี้ คือ
🚩 Presale คือยอดขายที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาหนึ่ง หมายถึง สิ่งที่ชี้อนาคตของบริษัทอสังหาริมทรัพย์เลยก็ว่าได้ เพราะมันคือยอดขายที่เกิดขึ้น ณ เวลานั้น หาก presale เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกไตรมาส นักวิเคราะห์จะสามารถประเมินได้ทันทีว่า รายได้เหล่านี้จะรับรู้เป็นยอดขายเมื่อไหร่ จะส่งผลต่อกำไรของบริษัทนั้นๆอย่างไร
🚩 Backlog คือยอด presale ที่เกิดขึ้นไปแล้วสะสมกันมา และยังไม่ได้รับรู้เป็นรายได้ คือการที่บริษัทมี backlog สะสมไว้เยอะ นั่นแสดงว่าผลงานการขายที่ผ่านมานั้นดี มียอดขายตุนไว้รอรับรู้รายได้เยอะ นักวิเคราะห์จะรู้คร่าวๆอยู่แล้วว่า backlog เหล่านี้จะบันทึกเป็นรายได้เมื่อไหร่
ทำให้ประเมินได้ว่า รายได้ของบริษัทนั้นจะดีในปีไหนซึ่งทั้ง 2 สิ่งนี้เป็นปัจจัยสำคัญในการประเมินอนาคตของบริษัทนั้นๆ
3.) อัตราดอกเบี้ย ถือเป็นปัจจัยสำคัญกำหนดทิศทางธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
🚩 ในกรณีที่อัตราดอกเบี้ยเป็นขาลงหรือคงที่ จะเป็นผลดีต่อธุรกิจ เนื่องจากผู้ประกอบการจะได้ต้นทุนการเงินที่ถูกลงในการกู้เงินจากธนาคารเพื่อซื้อที่ดิน ขณะเดียวกันผู้ซื้อบ้านจะมีอำนาจการซื้อมากขึ้น จากดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารที่ไม่สูงนัก
🚩 ในกรณีที่อัตราดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น จะเป็นผลลบต่อทั้งผู้ประกอบการ และผู้ซื้อบ้าน เนื่องจากต้นทุนสูงขึ้น และกำลังซื้อลดลง
4.) ขณะเดียวกัน ยังสามารถวิเคราะห์หุ้นอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบของ “หุ้นสินทรัพย์” (Asset Play) ได้เช่นกัน เนื่องจากสินทรัพย์ส่วนใหญ่ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์คือ “ที่ดิน” ที่ซื้อไว้เพื่อนำไปพัฒนาโครงการ แต่อาจมีบางบริษัทซื้อที่ดินเก่าไว้และยังไม่ได้พัฒนาเป็นเวลานาน ราคาประเมินอาจปรับเพิ่มขึ้นจากในอดีตอย่างมาก ทำให้มูลค่าสินทรัพย์ของบริษัทและมูลค่าทางบัญชี (Book Value) สูงขึ้น ถ้านักลงทุนได้อ่านงบการเงินอย่างละเอียด และเข้าไปลงทุนก่อนธุรกิจจะฟื้นตัว อาจมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูง
5.) การลงทุนหุ้นในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มักจะเป็นในรูปแบบของการเก็งกำไร “ผลประกอบการเป็นรายไตรมาส” มากกว่า “การลงทุนเพื่อหวังผลตอบแทนในระยะยาว” เนื่องจากรายได้จากขายที่อยู่อาศัยอาจไม่มีความแน่นอน ไตรมาสที่ยอดขายดีอาจจะมีผลประกอบการที่ดี ส่วนไตรมาสที่ยอดขายไม่ดีอาจมีผลประกอบการที่แย่ลง
6.)มีเกราะป้องกันการแข่งขันกับผู้ประกอบการต่างชาติ ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยในหลายประเทศรวมถึงประเทศไทยมักมีข้อจำกัดที่เป็นอุปสรรคอย่างมากไปจนถึงมีการกีดกันไม่ให้ชาวต่างชาติเข้ามาทำธุรกิจ ส่วนใหญ่เข้ามาเป็นพันธมิตรมากกว่าคู่แข่ง จึงกลายเป็นการแข่งขันระหว่างผู้ประกอบการในประเทศ มีความได้เปรียบ-เสียเปรียบกันไม่มาก
7.) ความเสี่ยงในการลงทุนหุ้นกลุ่มอสังหาฯ คือ ยอดการรับรู้รายได้ที่อาจไม่เป็นไปตามเป้าหมาย เช่น ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว มีการแข่งขันในพื้นที่เดียวกันสูง การปรับเพิ่มของอัตราดอกเบี้ย ซึ่งส่งผลต่อต้นทุนของผู้พัฒนาโครงการ และผู้ซื้อบ้านที่ต้องกู้เงินจากธนาคาร
ขอ 1 ไลค์ 1 แชร์สำหรับความรู้ดีๆแบบนี้
✨สนใจเรียนรู้เรื่องการลงทุนแอดมาเลยครับ ทุกอย่างฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย^^
Line ID: @BestCom (มีตัว@ด้วยนะครับ)
หรือคลิ๊กมาเลยที่: http://line.me/ti/p/@ldj3404k
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
