Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
3kokstartup
•
ติดตาม
10 ก.พ. 2019 เวลา 11:26 • ธุรกิจ
บทที่ 24 ศึกผาแดง สงครามของข้อมูล(ตอนปลาย การชิงชัยทางข้อมูล) (information war 2)
เหตุการณ์สำคัญ
ค.ศ.208 เล่าปี่อายุ 48 ปี โจโฉอายุ 54 ปี ซุนกวนอายุ 27 ปี ขงเบ้งอายุ 28 ปี
จิวยี่และขงเบ้งวางอุบายเผาทัพเรือโจโฉ
โจโฉหนีกลับฮูโต๋
เล่าปี่ยึดแคว้นเกงจิ๋ว ได้ฮองตงและอุยเอี๋ยนร่วมกองทัพ
หลังจากที่ทางกังตั๋งมีมติแล้วว่าจะรบกับโจโฉ ขั้นตอนต่อมาก็คือการเตรียมการ ก่อนการรบ
จากการปรึกษาหารือเรื่องแผนการรบกันของจิวยี่กับขงเบ้ง ก็ได้ข้อสรุปมาว่าเป็นการใช้ไฟเผาทัพเรือของโจโฉเป็นแผนที่ดีที่สุด
ก่อนนั้น จิวยี่เคยเสนอแผนตีเสบียงแต่ขงเบ้งก็ขัดเพราะโจโฉนั้นชนะอ้วนเสี้ยวมาได้เพราะการตีเสบียง ดังนั้นโจโฉจะต้องให้ความสำคัญกับเสบียงมาก ถ้าคิดจะไปตีเสบียงโจโฉจะเป็นการเอาชีวิตไปทิ้งเปล่าๆ
การใข้ไฟเผาทัพเรือโจโฉจะเป็นแผนที่ดีกว่า ปัญหาติดอยู่เพียงที่ช่วงฤดูกาลนี้เป็นช่วงที่ลมพัดจากเหนือลงใต้ ถ้าใช้ไฟๆจะพัดย้อนใส่กองเรือของกังตั๋ง
ขงเบ้งก็บอกว่านั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะตนสามารถทำพิธีเรียกลมได้
จิวยี่นั้นเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่ก็ให้ขงเบ้งดำเนินการเรียกลมเป็นส่วนหนึ่งในแผนเผาโจโฉ
จากการปรึกษากันเรื่องแผนการรบนั้น สิ่งที่จิวยี่กังวลกว่าการรบกับโจโฉคือความเก่งกาจของขงเบ้งที่รู้ทันความคิดตนทุกอย่างทั้งยังมองล้ำไปอีกหลายก้าว
จึงมีความคิดจะหาทางกำจัดขงเบ้งหากปล่อยไว้จะเป็นภัยแก่กังตั๋งแต่กลับถูกขงเบ้งรู้ทันทุกอย่าง
จิวยี่ก็เลยคิดว่าการเรียกลมของขงเบ้งนี้ถ้าได้ก็ดีจะช่วยให้ศึกกับโจโฉง่ายขึ้นมาก ถ้าพลาดก็ได้โอกาสสั่งประหารขงเบ้ง
ทางฟากโจโฉเองนั้นก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ โจโฉเองก็เตรียมการต่างๆเพื่อให้พร้อมรบกับกังตั๋ง
ก็ให้ซัวมอผู้เชี่ยวชาญการรบทางน้ำ เป็นแม่ทัพเรือฝึกทหารราบให้เป็นทหารเรือเพื่อไปรบกับกังตั๋ง
ด้านการฑูตก็ส่งคนไปเจรจากับกังตั๋งให้ยอมแพ้เข้าร่วมกับตนแล้วช่วยกันจัดการเล่าปี่ แต่ก็ไม่สำเร็จ
จากนั้นก็ดำเนินการจารกรรมสืบความลับแผนการรบของจิวยี่ โดยส่งสายสืบเข้าไปล้วงความลับจากจิวยี่
สายสืบคนนี้เป็นเพื่อนเก่าเพื่อนสนิทกับจิวยี่ทำทีเข้าไปเยี่ยมเยียนจิวยี่ จิวยี่ซึ่งรู้ทันว่าโจโฉส่งมาก็ทำการเลี้ยงรับรองอย่างดี แต่ปากก็ว่าวันนี้ดีใจพบเพื่อนเก่ากินกันให้เต็มที่แต่ห้ามพูดถึงการศึก ใครพูดเรื่องการศึกต้องโดนประหาร ทำให้เพื่อนของจิวยี่ได้แต่กินเลี้ยงอย่างเงี่ยบๆไม่กล้าพูดถามเรื่องการศึก
เสร็จแล้วจิวยี่ก็แกล้งเมาหลับไป โดยจิวยี่ได้วางกลไว้ดักเพื่อนผู้นี้กับโจโฉไว้แล้ว โดยทำหนังสือปลอมลายมือซัวมอ ว่าซัวมอส่งหนังสือขอมาสวามิภักดิ์กับกังตั๋ง เมื่อเจอจดหมายสายลับในคราบเพื่อนผู้นี้ก็รีบขโมยจดหมายหนีกลับไปหาโจโฉ
เมื่อโจโฉเห็นจดหมายฉบับนี้ประกอบกับผลการฝึกซ้อมทหารเรือไม่เป็นผลเท่าไหร่ โจโฉก็คิดว่าสงสัยท่าจะจริงซัวมอดูไม่ค่อยตั้งใจฝึกซ้อมทหารเท่าไหร่ สงสัยจะมีใจเข้ากับกังตั๋ง จึงสั่งประหารซัวมอทันที ทางซัวมอก็ได้แต่งงว่าอยู่ดีๆตนทำไมถูกสั่งประหาร
เมื่อเห็นอาการงุนงงของซัวมอโจโฉก็เข้าใจแล้วว่าตนเองนั้นโดนจิวยี่ต้มเข้าแล้ว เมื่อซัวมอโดนประหารไปทีนี้โจโฉก็พบปัญหาหนักเนื่อจากขาดแม่ทัพเรือไป แล้วทีนี้ใครจะฝึกซ้อมทหารเรือให้โจโฉ
ในระหว่างที่โจโฉกำลังกลุ้มใจอยู่นั้น จิวยี่ก็ดำเนินแผนการขั้นต่อไปโดยการร่วมมือกับอุยกายนายทหารใหญ่ที่อยู่ในองค์กรกังตั๋งมาตั้งแต่สมัยซุนเกี๋ยน เป็นบุคลากรอาวุโส โดยอุยกายแกล้งทำเป็นไม่พอใจจิวยี่ที่ได้รับหน้าที่เป็นแม่ทัพใหญ่ในการสู้ศึกกับโจโฉ และยังทำตัวมองข้ามอุยกายที่อาวุโสกว่า หลังจากมีปากเสียงกันบ่อยๆ จิวยี่ก็ได้สั่งลงโทษโบยอุยกาย แบบนายทหารทุกนายช่วยกันห้ามก็ไม่สำเร็จ
อุยกายแสร้งทำเป็นทั้งโกรธทั้งอายที่ได้รับการลงโทษอย่างรุนแรง จากนั้นก็ใช้คนส่งหนังสือไปขอสวามิภักดิ์กับโจโฉ โดยจะลักลอบย้ายครอบครัวไปอยู่กับโจโฉหลังจากหายเจ็บ
ทางโจโฉหลังจากเห็นหนังสือของอุยกายก็โมโหว่าจิวยี่แต่งกลมาหลอกลวงตัวอีกแล้ว แต่ก็เปลี่ยนใจเชื่อเมื่อไส้ศึกที่ตนส่งไปหาข่าวในกังตั๋งส่งข่าวมาบอกว่า จิวยี่ลงโทษอุยกายจริงๆ
โจโฉเลยยินดีส่งหนังสือกลับไปว่าให้อุยกายพร้อมเมื่อไหร่ก็ให้นัดวันมาได้เลยตนยินดีต้อนรับเป็นอย่างยิ่ง เพราะโจโฉต้องการแม่ทัพเรือเพื่อสู้กับทัพเรือกังตั๋ง
เมื่อแผนอุยกายสำเร็จ จิวยี่ก็ดำเนินการขั้นต่อไปโดยการส่งบังทอง ไปแนะแผนผูกเรือแก่โจโฉ บังทองผู้มีฉายาหงส์น้อยนั้นเป็นนักปราชญ์ที่มีชื่อเสียงในระดับเดียวกับขงเบ้ง
เมื่อบังทองเสนอตัวเข้าช่วยโจโฉ โจโฉก็ให้การต้อนรับอย่างดี แผนของจิวยี่กับบังทองคือแนะนำให้โจโฉยึดเรือทุกลำไว้ด้วยกันจะได้เผาสะดวกๆ
ข้อดีสำหรับโจโฉคือ เมื่อเรือทุกรำยึดติดกันก็จะเป็นเหมือนฐานทัพเรือขนาดใหญ่ เรือจะไม่โคลง สามารถนำม้ามาวิ่งบนเรือได้ ลดความเสียเปรียบของทหารโจโฉลง
แต่ข้อเสียคือถ้าถูกโจมตีด้วยไฟก็จะเผาทีเดียวหมดเพราะเรือแต่ละลำถูกนำมาโยงติดกัน แผนนี้จึงเป็นเหมือนดาบสองคม
แต่โจโฉเองก็ศึกษาและตรวจสอบสภาพแวดล้อมเป็นอย่างดีแล้วเชื่อมั่นว่า ฤดูกาลนี้มีแต่ลมพัดจากเหนือลงใต้ ถ้าจิวยี่ใช้ไฟๆก็จะโหมพัดกลับใส่ทางกังตั๋ง จึงสั่งให้ดำเนินการใข้แผนผูกเรือได้
เมื่อปัจจัยทุกอย่างพร้อม สิ่งที่ตอนนี้จิวยี่ต้องการมีเพียงลมอาคเนย์ ลมที่จะพัดจากกังตั๋งไปทางโจโฉ
ปัจจัยแพ้ชนะของศึกนี้จึงอยู่ที่ว่าขงเบ้งจะสามารถเรียกลมอาคเนย์มาได้หรือไม่
ทางขงเบ้งเองนั้นหาใช่ผู้วิเศษ เพียงแต่เป็นผู้ที่ทำรีเสิช ทำวิจัยเก็บสถิติพื้นที่ลมฟ้าอากาศดินแดนแถบนี้มาเป็นอย่างดี
ขงเบ้งรู้ว่าช่วงฤดูกาลนี้ลมจะพัดจากเหนือลงใต้ เพียงแต่จะมีช่วงเวลาอยู่ไม่กี่วันที่ลมจะเปลี่ยนทิศพัดย้อนไปทางโจโฉ และขงเบ้งก็รู้ถึงช่วงเวลาที่ว่านั้น
ขงเบ้งก็เลยให้ทางจิวยี้จะทำแท่นให้ตนประกอบพิธีกำเรียกฝน และเมื่อมีเค้าลางให้ขงเบ้งรับรู้ถึงวันที่แน่นอนที่ลมจะพัดย้อนขงเบ้งก็แจ้งแก่จิวยี้เพื่อให้อุยกายนัดวันไปหาโจโฉ
เมื่อถึงวันนัด อุยกายก็นำกองเรือส่วนหนึ่งออกไปหาโจโฉ ซึ่งกองเรือนี้บรรจุเชื้อเพลิงเต็มลำ โจโฉเองก็เข้าใจว่าอุยกายจะเข้ามาร่วมทัพก็ไม่ได้เตรียมการป้องกันอะไร เมื่อกองเรืออุยกายประชิดทัพเรือโจโฉ อุยกายก็จุดเพลิงเผากองเรือให้ปะทะกับกองทัพเรือโจโฉ จากนั้นเมื่อลมอาคเนย์พัดย้อนมาตามนัด ลมก็พัดโหมลุกลามใส่กองทัพเรือโจโฉ
ส่วนจิวยี่นั้นเมื่อพบว่าขงเบ้งเรียกลมได้จริงทั้งดีใจทั้งตื่นกลัวในความสามารถของขงเบ้ง
รีบสั่งกองทัพเรือกังตังบุกไล่ตีกองทัพโจโฉที่กำลังหนีตาย ทั้งยังรีบส่งทหารไปจัดการขงเบ้งไม่ให้มีขีวิตรอดออกไปจากกังตั๋ง
แต่ขงเบ้งก็เตรียมการไว้เรียบร้อยแล้วสั่งให้จูล่งมารับที่แท่นพิธีไว้ก่อนแล้ว เมื่อทหารจิวยี่มาถึงขงเบ้งก็ไปจากแท่นพิธีแล้ว
ส่วนทางโจโฉนั้นเมื่อรับรู้ถึงสถานะการณ์ก็ได้แต่ทอดถอนใจที่ฟ้าไม่เป็นใจ ส่งลมพัดย้อมมาเผาทัพเรือตน และสั่งทหารทุกนายถอยทัพกลับฮูโต๋เมืองหลักของโจโฉในทันที
ในระหว่างที่ทหารโจโฉถอยทัพกลับฮูโต๋นั้น ทหารกังตั๋งก็ไล่ตามตีทหารโจโฉได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก
ในขณะที่ทหารของเล่าปี่นั้นได้นัดแนะแผนการและกำหนดการจากขงเบ้งล่วงหน้าแล้วได้เตรียมการลอบยึดเมืองในเขตเกงจิ๋วพื้นที่เดิมของเล่าเปียวคืนมาจากโจโฉทั้งหมด โดยไม่ต้องใข้กำลังพลมาก เพราะทหารโจโฉถอยทัพกลับฮูโต๋ ในขณะทหารกังตั๋งก็ติดพันกับการรุกไล่ทหารโจโฉ
กว่าจิวยี่จะรู้ตัวเกงจิ๋วก็ตกเป็นของเล่าปี่เรียบร้อยไปแล้ว อีกทั้งประชาชนในเมืองเกงจิ๋ว และเหล่าทหารเก่าของเล่าเปียวก็ให้การสนับสนุนเล่าปี่ เพราะเป็นผู้ที่เล่าเปียวฝากไว้ ทั้งยังมีศักดิ์เป็นถึงพระเจ้าอา มีชื่อเสียงเรื่องคุณธรรม ทำให้การเข้ายึดเกงจิ๋วของเล่าปี่ในคราวนี้นั้นเหมาะสมทุกประการ แถมยังได้ขุนพลเก่าของเล่าเปียวมาอีก ทั้งฮองตงและ อุยเอี๋ยน ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญกับเล่าปี่ในภายหน้า
นอกจากการยึดเกงจิ๋วแล้ว ขงเบ้งยังมองออกถึงเส้นทางการถอยทัพของโจโฉ จึงส่งทหารไปดักไว้ล่วงหน้า โจโฉถอยทัพไปทางใดก็เจอแต่ทหารเล่าปี่โห่ร้องออกมาจู่โจม ทำให้กำลังพลของโจโฉลดลงจนเหลือไม่กี่คน ในด่านสุดท้ายนั้นขงเบ้งได้ส่งกวนอูไปดักโจโฉ
ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่กวนอูโจโฉย่อมไม่รอดไปจากด่านนี้ แต่ขงเบ้งตั้งใจส่งกวนอูไป โดยหวังผล 2 ประการ เพราะรู้ว่ากวนอูจะต้องปล่อยโจโฉไปแน่ๆ ผลประการที่ 1 คือ ขงเบ้งต้องการให้โจโฉรอดไป เพื่อจะได้กลับไปรักษาดุลยภาพยุทธศาสตร์ 3 ก๊กที่ขงเบ้งวางไว้
หากโจโฉตาย องค์กรวุยก๊กของโจโฉต้องระส่ำ ในขณะที่องค์กรของเล่าปี่พึ่งเข้าครอบครองเกงจิ๋วหมาดๆยังไม่มั่นคง กังตั๋งที่ยังพร้อมรบที่สุดสามารถบุกมายึดเกงจิ๋วได้ แต่ถ้าโจโฉยังอยู่กังตั๋งก็ยังต้องดูเชิงจากทางโจโฉด้วย
ผลประการที่ 2 คือในเมื่อต้องการให้โจโฉรอดแล้ว ก็ควรส่งกวนอูไปปล่อยโจโฉ เพื่อที่จะได้สะสางชดใช้บุญคุณที่เคยมีต่อกันให้หมดสิ้นกันไป
สรุป บทที่ 24
ในศึกผาแดงนี้เป็นศึกที่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของ Information (ข้อมูลข่าวสาร) ศึกนี้เป็นการชิงชัยกันในข้อมูลและแผนการของบุคคล 3 คน คือ
1 โจโฉ Big Boss แห่งองค์กรวุยก๊ก ผู้ที่ทุ่มทุนนำทัพกว่า 100 หมื่น มาด้วยตนเอง หมายมั่นตั้งใจที่จะยึดพื้นที่ทางตอนล่างของแผ่นดินจีน(กังตั๋ง)ให้ได้
โจโฉนั้น เก่งกาจในพิชัยสงคราม เชี่ยวชาญด้านแผนการรบ แม้นกำลังพลจะมากกว่ามาก แต่ก็ไม่ได้บุ่มบ่ามเข้าไปยึด แต่ใช้การฑูตเข้าไปเจรจากดดันให้ทางกังตั๋งนั้นยอมแพ้ โดยใช้จุดแข็งของตนที่มีทุนหนากว่ามากเข้าข่ม และยังใช้การจารกรรมข้อมูล สืบแผนการณ์ในการรบของกังตั๋ง ในขณะเดียวกันก็ค่อยๆเตรียมความพร้อมในการรบทางเรือ โดยให้ซัวมอแม่ทัพเรือเก่าของเกงจิ๋วเป็นผู้ฝึกให้ทหารราบของตนสามารถรบทางน้ำได้
2 จิวยี่ หัวเรือใหญ่ chief marketing officer ผู้รับผิดชอบเรื่องการตลาด(การรบกับภายนอก) ขององค์กรกังตั๋ง ผู้ที่ฉลาดหลักแหลมในแผนการ ประสบความสำเร็จตั้งแต่ยังหนุ่ม สามารถพาซุนเซ็กครอบครองดินแดนแถบกังตั๋งมาได้
จากการที่เป็นเจ้าตลาดในแถบนี้ ทำให้มีความมั่นใจว่ากังตั๋งนั้นสามารถต่อสู้กับทุนที่หนากว่าของโจโฉได้ เพราะมีชัยภูมิที่ได้เปรียบ และเชี่ยวชาญในพื้นที่มากกว่า ทำให้ลดความเสียเปรียบในเรื่องของกำลังทุนที่ต่างกัน และก็ยังสามารถคิดแผนการที่สร้างความได้เปรียบให้กับกังตั๋งเพิ่มขึ้นได้ ทั้งการให้ข้อมูลผิดย้อนกลับสายลับที่มาจารกรรมข้อมูลทำให้โจโฉต้องเสียแม่ทัพเรือคนสำคัญไป ทั้งยังส่งบังทองไปแนะแผนกลผูกเรือแก่โจโฉ ทั้งยังแสดงละครแกล้งลงโทษอุยกายหลอกไปเข้ากับโจโฉ ทำให้กังตั๋งมีความได้เปรียบมากกว่าโจโฉ
แต่ถึงอย่างไรในการรบนั้นสิ่งที่สามารถกำจัดข้าศึกจำนวนมากได้ดีที่สุดก็คือไฟ ในศึกนี้ยิ่งมีกำลังพลมากเท่าไหร่ถ้าโดนไฟเผาก็ยิ่งเสียหากมากขึ้นเท่านั้น ติดอยู่ปัจจัยเดียวคือช่วงฤดูนี้ฝั่งโจโฉเป็นต้นลม ลมพัดมาทางกังตั๋ง ถ้ามีการใช้ไฟ ลมก็จะพัดย้อนมาทำให้ทหารฝั่งกังตั๋งโดนเผาแทน ด้วยปัจจัยนี้ จิวยี่ก็รู้ โจโฉก็รู้ เพียงแต่ไม่รู้ว่าจะมีลมพัดย้อนจริงมั้ยแล้วถ้ามีลมจะพัดย้อนเมื่อไหร่
3 ขงเบ้ง กุนซือหนุ่มไฟแรง ของเล่าปี่ ผู้ที่กุมชะตาของศึกนี้ไว้ เนื่องจากเป็นผู้เดียวที่รู้กาลละฟ้า ที่จะชี้ขาดสงครามนี้ได้
เพราะเป็นผู้เดียวที่มีข้อมูลรู้ว่าจะมีลมอาคเนย์จะพัดย้อนไปในวันไหน เมื่อรู้วันที่ลมจะพัดย้อน ก็เท่ากับว่าขงเบ้งย่อมรู้ผลลัพของศึกนี้ว่าทางกังตั๋งจะเป็นฝ่ายมีชัยและโจโฉจะต้องเสียหายยับเยินแน่นอน
ทั้งยังรู้วันเวลาที่แน่นอนทำให้สามารถเตรียมการก้าวต่อไปได้ก่อนใคร ในขณะที่สองฝ่ายเตรียมรบกันตามคำแนะนำของขงเบ้ง ขงเบ้งก็เตรียมการขั้นต่อไป ให้เล่าปี่และเหล่าขุนผลต่างๆแบ่งกำลังกันไปพร้อมที่เข้ายึดเมืองต่างๆในเขตเกงจิ๋ว
เมื่อโจโฉโดนลมอาคเนย์เผาจนแพ้ยับเยินหนีกลับฮูโต๋ เหล่าขุนพลของเล่าปี่ก็ฉวยจังหวะเข้ายึดเกงจิ๋วเรียบร้อย กลายเป็นตาอยู่ความพุงปลาไปกิน
*เมิ่งจื๊อกล่าวว่า การจะรบให้ชนะนั้นต้องมีพร้อมด้วย 3 ปัจจัย
1 คือ กาละฟ้า (ปัจจัยภายนอกสภาพแวดล้อมเป็นใจ)
2 คือ ชัยภูมิดิน (ปัจจัยภายในมีความพร้อม)
3 คือ ประชากรหนุน (ผู้บริโภคให้การยอมรับ)
ฝ่ายใดถึงพร้อมทั้ง 3 ปัจจัยนี้ ฝ่ายนั้นเป็นผู้ชนะสงคราม โดย เมิงจ๊อ ยกความสำคัญของแต่ละปัจจัยไว้ดังนี้ กาละฟ้าไม่สู้ชัยภูมิดิน ชัยภูมิดินไม่สู้ประชาการหนุน นั้นหมายความว่า การจะรบนั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือ 1 ผู้บริโภคให้การยอมรับหรือไม่ 2 เรามีความพร้อมเพียงพอหรือไม่ 3 สภาพแวดล้อมโอกาสเป็นใจให้เราหรือไม่
จากเหตุการศึกผาแดงนี้ มีขงเบ้งผู้เดียวที่ล่วงรู้ถึงกาละฟ้าและรู้แบบแน่นอน จึงสามารถวางแผนการได้อย่างเหนือใคร จึงทำให้องค์กรของเล่าปี่ได้รับผลประโยชน์อย่างสูงที่สุดจากเหตุการณ์
ขอบพระคุณที่ติดตามอ่าน
รังสรรค์ ใจอารีย์
@3kokstartup
บันทึก
8
4
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
สามก๊ก ฉบับ startup
8
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย