บทที่ 27 อำนาจบ่อนทำลายใจคน ความประมาทคือหนทางแห่งความตาย (The End of Han)
ค.ศ.215
โจโฉรบชนะเตียวล่อ ยึดได้เมืองฮันต๋ง และได้บังเต๊กเป็นพวก
ซุนกวนรบโจโฉที่หับป๋าตามคำขอของเล่าปี่เพื่อแลกกับเมืองเตียงสา กังแฮ และฮุยเอี๋ยง
ค.ศ.216 เล่าปี่อายุ 56 ปี โจโฉอายุ 62 ปี ซุนกวนอายุ 35 ปี ขงเบ้งอายุ 34 ปี
โจโฉขึ้นเป็นวุยอ๋อง
ค.ศ.217
เล่าปี่เปิดศึกชิงเมืองฮันต๋ง
โจโฉตั้งโจผีเป็นทายาท
โลซกตาย ลิบองรับตำแหน่งแทน
ค.ศ.219
ฮองตงสังหารแฮหัวเอี๋ยน แม่ทัพของโจโฉ
เล่าปี่ยึดได้ฮันต๋งและตั้งตนเป็นฮันต๋งอ๋อง
เล่าปี่ตั้งกวนอู เตียวหุย จูล่ง ฮองตง และม้าเฉียวเป็นขุนพลห้าทหารเสือ
กวนอูตีเมืองอ้วนเซีย
กวนอูและกวนเป๋ง ถูกซุนกวนจับได้ และถูกประหาร
ลิบองยึดเมืองเกงจิ๋วของกวนอู
ค.ศ.220
โจโฉถึงแก่อนิจกรรมที่เมืองลกเอี๋ยง โจผีขึ้นเป็นวุยอ๋อง
โจผีปลดพระเจ้าเหี้ยนเต้และสถาปนาตนขึ้นเป็นฮ่องเต้
ค.ศ.221
เล่าปี่สถาปนาตนเป็นฮ่องเต้แห่งจ๊กก๊ก
พระเจ้าเล่าปี่จัดทัพเตรียมโจมตีซุนกวน แก้แค้นให้กวนอู
เตียวหุยถูกฮอมเกียงและเตียวตัดผู้เป็นลูกน้องลอบสังหาร
ซุนกวนขึ้นเป็นง่ออ๋อง ขออ่อนน้อมต่อพระเจ้าโจผี
ค.ศ.222
พระเจ้าเล่าปี่โจมตีง่อก๊กของซุนกวน
พระเจ้าเล่าปี่พ่ายแพ้ต่อกลอุบายของลกซุน ถูกเผาทัพที่อิเหลง
พระเจ้าเล่าปี่เสด็จหนีไปเมืองเป๊กเต้
ซุนกวนแยกตัวเป็นอิสระจากพระเจ้าโจผี
ค.ศ.223
พระเจ้าเล่าปี่สวรรคตที่เมืองเป๊กเต้
เล่าเสี้ยนได้ขึ้นเสวยราชย์
ค.ศ.215-216 เมื่อแผ่นดินจีนถูกแบ่งออกไปเป็นสามส่วน แต่ละส่วนต่างก็พยายามหาจังหวะชิงความได้เปรียบกัน โดยใช้การฑูตเป็นสำคัญ
ซุนกวนนั้นมีความต้องการอยากได้เกงจิ๋วมาก ใช้จูกัดกิ๋นพี่ชายขงเบ้งเป็นฑูตไปเจรจาขอเกงจิ๋วทั้งกับเล่าปี่ ขงเบ้ง กวนอู ก็ไม่สำเร็จ ใช้อุบายให้โลซกเชิญกวนอูข้ามน้ำมากินเลี้ยงที่กังตั๋งหมายจะมอมเหล้าลอบสังหารกวนอูแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรกวนอูได้
จากนั้นเมื่อโจโฉเห็นว่าเล่าปี่เข้าครองเสฉวนได้แล้วก็ส่งฑูตนัดหมายกับซุนกวนให้บุกเกงจิ๋วแต่ซุนกวนนิ่งเฉยดูท่าที ส่วนโจโฉนั่นเคลื่อนพลบุกฮันต๋งเมื่อได้ฮันต๋งแล้วก็หมายจะบุกเสฉวนต่อ ทำให้ขงเบ้งต้องรีบส่งฑูตไปหาซุนกวนให้ช่วยยกทัพบุกโจโฉทางหัปปา แล้วจะยกหัวเมืองเกงจิ๋วให้ซุนกวน 3 หัวเมือง ซุนกวนตกลงเมื่อได้เมืองแล้วจึงยกทัพบุกโจโฉ โจโฉก็ต้องมาดูแลการรบทางหับป๋าแทนไม่สามารถบุกเสฉวนต่อได้
โจโฉรบกับซุนกวนอยู่นานหลายเดือนต่างฝ่ายต่างก็สูญเสียกำลังพลไปมากจึงทำสัญญาสงบศึกกันโดยทางกังตั๋งจะส่งบรรณาการไปให้โจโฉทุกปี
ค.ศ.217-219 เหตุการระหว่างโจโฉและซุนกวนสงบลงหลังจากสูญเสียไปมากโจโฉจึงริเริ่มระบบนาทหารตามคำแนะนำของสุมาอี้ โดยการให้ทหารทำนาเพื่อแก้ปัญหาเสบียงในระยะยาว วางรากฐานวุยก๊กให้พร้อมทำศึก
ระหว่างที่องค์กรวุยก๊กและองค์กรง่อก๊กกำลังฟื้นฟูภายใน องค์กรจ๊กก๊กของเล่าปี่ที่เข้มแข็งที่สุดในตอนนี้ก็ยกทัพบุกตีฮันต๋ง
ฝ่ายจ๊กก๊กนำทีมโดย เตียวหุย ม้าเฉียว ฮองตง งันเหงียมและอุ๋ยเอี๋ยน
ฝ่ายวุยก๊ก โจโฉส่ง โจหอง เตียวคับ แฮหัวเอี๋ยน แฮหัวเต๊ก ฮันโฮ และ เบ้งตัด มารับมือ
เตียวหุยแกล้งเมาหลอกเตียวคับหลงเชื่ออุบายมาตีค่าย จึงถูกเตียวหุยซ้อนกลตีเตียวคับแตกทัพกลับไป
ทางด้านเตงกุนสัน ฮองตงกับเงียมหงัน ขุนพลเฒ่าก็ปล่อยให้แฮหัวเอี๋ยนท้ารบกลางแดดจนล้า จากนั้นจึงเข้าบุกตีแฮหัวเอี๋ยนยามเผลอ ฮองตงใช้ง้าวจัดการสังหารแฮหัวเอี๋ยน ส่วนเงียมหงันก็ใช้ทวนแทงแฮหัวเต๊กถึงแก่ความตาย
เมื่อทางวุยก๊กแพ้ศึกติดๆกันโจหองก็ขอความช่วยเหลือจากโจโฉยกทัพมารับมือด้วยตัวเอง แต่ก็ไม่สามารถแก้ไขสถานะการณ์ได้ต้องยอมเสียฮันต่งให้องค์กรของเล่าปี่ เมื่อได้ฮันต๋งเล่าปี่ก็ตั้งตัวขึ้นเป็นอ๋อง
ประกาศตำแหน่ง 5 ขุนพลพยัค ได้แก่ กวนอู เตียวหุย จูล่ง ฮองตง ม้าเฉียว ชื่อเสียงเลื่องลือไปไกล
จากนั้นไม่นานโจโฉก็หมายจะตีเอาฮันต๋งคืน ก็ส่งฑูตไปชักชวนให้ซุนกวนตีเกงจิ๋วของกวนอู แต่จูกัดกิ๋นแนะนำซุนกวนว่าให้ผูกมิตรกับทางเล่าปี่ดีกว่า
จึงอาสาไปขอลูกสาวกวนอูมาแต่งงานกับลูกชายซุนกวน แต่ก็เจอกวนอูที่ตอนนั้นหลงไปกับชื่อเสียงและความยิ่งใหญ่ของตนจนลืมนโยบายที่ขงเบ้งวางไว้ว่า
ให้ผูกมิตรกับซุนกวนต้านโจโฉ
ด่าไล่จูกัดกิ๋นไปว่าลูกสาวของพยัคจะไปแต่งกับลูกชายของสุนัขได้อย่างไร
เรื่องนี้ทำให้ซุนกวนโกรธแค้นมาก หมายจะจัดการตีเกงจิ๋วของกวนอู จึงส่งหนังสือถึงโจโฉว่าให้โจโฉบุกตีกวนอูทางด้านเหนือ แล้วซุนกวนจะบุกจากทางด้านใต้
ข่าวเรื่องโจโฉกับซุนกวนเป็นพันธมิตรกันนั้นรู้ไปถึงขงเบ้งจึงส่งหนังสือมาถึงกวนอูให้บุกยึดเมืองอ้วนเสีย เมืองหน้าด่านทางตอนเหนือของเกงจิ๋วไว้ก่อนเพื่อกุมความได้เปรียบ
โจโฉก็ส่งอิกิ๋มกับบังเต็กมารับมือ แต่ก็ไม่สามารถรับมือกวนอูได้ กวนอูวางแผนทดน้ำท่วมทัพอิกิ๋มจนแตกทัพยับเยิน บังเต็กเองก็ถูกทหารกวนอูจับได้และกวนอูก็สั่งประหารชีวิต
หลังจากศึกนี้ชื่อเสียงของกวนอูก็ยิ่งเป็นที่ครั้นครามไม่มีใครกล้าจะมาต่อกรกับกวนอู
ทางกังตั๋งนั้น หลังจากจิวยี่ตาย โลซกก็ขึ้นมาแทน พอโลซกตาย ลิบองก็ขึ้นมาแทน แต่ลิบองนั้นเมื่อได้รับคำสั่งให้บุกตีเกงจิ๋วก็ได้แต่แกล้งป่วย
เพราะการป้องกันเกงจิ๋วของกวนอูเข้มแข็งมาก แต่มีลกซุนนักปราชญ์ระดับด็อกเตอร์อายุน้อยอีกคนของกังตั๋งที่เข้าใจอาการป่วยของลิบอง
จึงเข้าไปให้คำแนะนำลิบองว่าการตีหักยึดเกงจิ๋วนั้นใช้กับกวนอูไม่ได้ ต้องทำให้กวนอูตายใจ คลายการป้องกันลงจึงจะสามารถลอบยึดเกงจิ๋วได้
จึงให้ลิบองแสร้งว่าป่วยหนักไปเลยส่วนตนรักษาการแทน
เมื่อลกซนรักษาการเมืองชายแดนติดกับเกงจิ๋วแทนลิบอง ลกซุนก็เริ่มแผนการด้วยการส่งของกำนันไปหากวนอูเรื่อยๆ พร้อมทั้งส่งหนังสือขอพึ่งบารมีจากกวนอู ว่าตนนั้นอายุน้อยได้รับหน้าที่สำคัญขอให้กวนอูช่วยดูแลด้วย ทำให้กวนอูที่กำลังหลงระเริงกับชื่อเสียงและบารมีของตนคลายใจ ลดการป้องกันเกงจิ๋วลงแล้วไปมุ่งการศึกที่ทางเมืองอ้วนเสีย
เมื่อกวนอูออกจากเกงจิ๋วไป ทางลงซุกก็ให้ลิบองและทหารปลอมเป็นพ่อค้าลอบเข้ายึดเมืองเกงจิ๋วได้โดยง่าย
กว่ากวนอูจะรู้ตัวก็เสียเกงจิ๋วให้ลกซุนไปแล้ว เมืองอ้วนเสียก็ยังยึดไม่ได้ กลับมาตีเกงจิ๋วคืนก็สู้ลิบองที่วางการป้องกันไว้อย่างดีแล้วไม่ได้
กวนอูจึงกลายเป็นเจ้าไม่มีศาลต้องไปตั้งหลักอยู่เมืองเล็กๆชื่อเมืองเป๊กเสีย ซึ่งก็ถูกทัพของลิบองล้อมกดดันทั้งสี่ด้าน จนสามารถจับตัวได้ทั้งกวนอูและกวนเป๋งลูกชาย
ซุนกวนไม่สามารถพูดจาชักชวนคนอย่างกวนอูให้เข้าเป็นพวกได้จึงตัดสินใจประหารกวนอู แต่การประหารกวนอูนั้นกลับเป็นจุดสำคัญที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเล่าปี่กับซุนกวนนั้นแตกหักแบบไม่สามารถอยู่ร่วมโลกกันได้
กว่าซุนกวนจะคิดได้ว่าการสั่งประหารกวนอูนั้นจะนำภัยมาสู่ตนก็สายไปเสียแล้ว
แม้จะใช้กลอุบายแกล้งส่งหัวของกวนอูไปให้โจโฉนัยว่าเป็นคำสั่งโจโฉ แต่โจโฉไม่เล่นด้วยสั่งจัดงานศพกวนอูอย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งใครๆเองก็รู้ว่าโจโฉนั้นรักชอบในตัวกวนอูไม่มีทางที่จะสั่งประหารกวนอูแน่ จึงทำให้ความผิดพลาดนี้ติดตัวซุนกวนแบบแก้ไม่ได้
ค.ศ.220 หลังจากกวนอูตายไม่นานโจโฉที่มีอาการปวดหัวเป็นโรคประจำตัวก็อาการทรุดหนักขึ้นจนถึงแก่ความตายด้วยวัย 66 ปี
หลังจากโจโฉตายโจผีขึ้นเป็นวุยอ๋องแทนโจโฉ ทำให้การเมืองในวุยก๊กเปลี่ยนแปลงอย่างหนักผู้ที่อยู่ฝ่ายโจผีก็ขึ้นมามีอำนาจ หลังจากได้อำนาจมาแล้วโจผีก็จัดการเหล่าน้องๆของตนทุกคนเพื่อป้องกันการแย่งชิงอำนาจในหมู่พี่น้องแบบสกุลอ้วน
หลังจากนั้นโจผีก็ยังปลดพระเจ้าเหี้ยนเต้ออกจากตำแหน่งฮ่องเต้ แล้วยกตัวเองขึ้นเป็นฮ่องเต้แทน โดยยกโจโฉให้เป็นฮ่องเต้คนแรกของราชวงศ์ ส่วนเหี้ยนเต้ก็โดนเนรเทศออกจากเมืองหลวงเป็นการสิ้นสุดราชวงศ์ฮั่นที่อยู่มานานกว่าสี่ร้อยปี
ค.ศ.221 หลังจากโจผีปลดเหี้ยนเต้แล้วขึ้นเป็นราชวงศ์ใหม่ ทางองค์กรจ๊กก๊กที่มีนโยบายรักษาราชวงศ์ฮั่นจึงช่วยกันดันเล่าปี่ตั้งราชวงศ์ฮั่นขึ้นมาใหม่
โดยมีเล่าปี่เป็นฮ่องเต้ หลังจากเล่าปี่ขึ้นเป็นฮ่องเต้แล้วโครงการแรกของเล่าปี่คือ บุกตีกังตั๋งแก้แค้ให้กวนอูน้องร่วมสาบาน
ซึ่งทั้งขงเบ้งและจูล่งต่างก็ช่วยกันคัดค้าน เนื่องจากว่าเหตุการณ์ตอนนี้ที่เล่าปี่ขึ้นเป็นฮ่องเต้เพราะต้องการรักษาราชวงศ์ฮั่น ประชาชนให้การสนับสนุนเล่าปี่เพราะนโยบายนี้
ถ้าเล่าปี่บุกตีวุยก๊กก็จะสมควรเพราะประชาชนกำลังโกรธแค้นโจผีที่ปลดพระเจ้าเหี้ยนเต้
ถ้าเล่าปี่ทำการบุกตีโจผีก็จะชนะได้โดยง่ายเนื่องจากมีแรงมวลชนหนุนส่ง
แต่เล่าปี่เมื่อได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้แล้วก็ไม่ฟังคำทักท้วงของทีมงาน มุ่งดำเนินโครงการแก้แค้นส่วนตัว
แม้จะลังเลอยู่บ้างแต่เมื่อเตียวหุยร้องไห้เข้ามาบอกว่าคนผู้อื่นนั่นไม่ได้ร่วมสาบานกับเรา ถ้าท่านไม่ไปข้าพเจ้าจะไปเองแม้นตายก็จะไม่มาให้ท่านเห็นหน้า
เมื่อเจอประโยคนี้ของน้องคนเล็กเล่าปี่ก็ตัดสินใจบุกกังตั๋งแบบไม่ฟังคำผู้ใด เตรียมกำลังผล 75 หมื่นนายบุกกังตั๋งด้วยตนเอง
โดยเป้าหมายในการบุกคราวนี้ไม่ได้ต้องการขยายดินแดนยึดกังตั๋ง เป้าหมายหลักมีเพียงอย่างเดียวคือสังหารซุนกวนแก้แค้นให้กวนอู
แต่ยังจะไม่ได้ทักบุกกังตั๋งเล่าปี่ก็ต้องพบข่าวร้ายให้เสียใจอีกข่าว เตียวหุยผู้ใจร้อนเร่งรีบอยากจะบุกกังตั๋งแก้แค้นให้กวนอู สั่งลูกน้องให้เตรียมการณ์บุกด้วยทัพม้าขาวธงขาวซึ่งลูกน้องเตรียมให้ไม่ได้ เตียวหุยซึ่งดื่มเหล้าเมาก็ไม่สนใจเหตุผลสั่งโบยลูกน้องแล้วคาดโทษตายแก่ลูกน้องให้เวลาหนึ่งวันให้ไปเตรียมมาให้ได้ลูกน้องเตียวหุยที่คิดว่าตนยังไงก็ตายแน่ๆ เพราะสิ่งที่เตียวหุยสั่งนั้นไม่สามารถเตรียมได้ในเวลาวันเดียว ไหนๆก็ต้องตายแล้วจึงชิงลงมือฆ่าเตียวหุยตอนหลับแล้วตัดหัวเตียวหุยไปให้ซุนกวนเพื่อขอหนีเข้าไปอยู่ในกังตั๋ง
เมื่อสิ้นเตียวหุย เล่าปี่ก็นำทัพ 75 หมื่น บุกเดี่ยวสู่กังตั๋ง ทางซุนกวนก็ส่งทัพมาสู้ก็สู้ไม่ได้ แตกทัพแพ้มาเรื่อยๆจนเล่าปี่ใกล้จะประชิดกังตั๋ง
ซุนกวนทั้งกลัวทั้งกลุ้มใจส่งฑูตไปเจรจาขอสงบศึกโดยจะคืนเกงจิ๋วให้เล่าปี่ คืนนางซุนฮูหยินให้ พร้อมทั้งส่งคืนหัวของเตียวหุยกับลูกน้องสองคนที่สังหารเตียวหุยให้เล่าปี่ หวังว่าเล่าปี่จะคลายโกรธ รับข้อเสนอ
แต่กลับกลายเป็นว่าเมื่อเล่าปี่เห็นศรีษะของเตียวหุยกับยิ่งโกรธบอกไปว่าน้องทั้งสองของตนตายไปแล้วไม่มีทางที่ จะญาติดีกันได้อีก
ซุนกวนก็ยิ่งเครียดว่าจะทำเช่นไรดี ก็มีขุนนางให้คำแนะนำว่ากังตั๋งยังมีปราชญ์ที่เก่งกล้าอยู่อีกคนคือลกซุนผู้ที่วางแผนยึดเกงจิ๋วมาได้ ซุนกวนจึงส่งคนไปเชิญลกซุนมารับศึกเล่าปี่
เมื่อลกซุนมาแล้วก็ขอให้ซุนกวนพระราชทานดาบอาญาสิทย์ให้แก่ตนและต้องทำพิธีมอบต่อหน้าขุนพลนายทหารทุกคนเพื่อให้ทุกคนยอมรับฟังคำสั่งของลกซุนจึงจะดำเนินการได้สะดวก เนื่องจากลกซุนอายุยังน้อยขุนพลนายทหารที่อาวุโสกว่าอาจจะไม่ยอมฟังคำสั่ง
หลังจากนั้นลกซุนก็ยกทัพออกไปตั้งค่ายสกัดทัพของเล่าปี่โดยไม่ยอมออกรบ เล่าปี่จะส่งทหารมาด่าทอเท่าไหร่ลกซุนก็ไม่รบเอาแต่ตั้งรับให้วันเวลาผ่านไป จนแม้แต่ทหารในค่ายของลกซุนเองก็ไม่พอใจ
ดีที่ลกซุนมีดาบอาญาสิทย์จึงพอจะห้ามปรามเหล่านายทหารในค่ายได้ ลกซุนแจ้งว่าทัพเล่าปี่ตอนนี้ชนะติดต่อกันมาขวัญทหารกำลังดีกำลังฮึกเหิม และนี้ก็เข้าฤดูร้อนแล้ว ให้ทหารกังตั๋งอดทนตั้งรับไว้รอจนขวัญทหารของเล่าปี่ลดลงแล้วไปตั้งค่ายหลบร้อนในแนวป่าค่อยยกทัพออกมาจัดการ
แล้วก็เป็นไปตามที่ลกซุนคาดการอากาศร้อนทำให้ขวัญทหารของเล่าปี่ลดลงอย่างรวดเร็วแล้วจากนั้นไม่นานเล่าปี่ก็ไปตั้งค่ายหลบร้อนในแนวป่าแบ่งเป็นค่ายเล็กๆตามแนวป่าเป็นทางยาว ทหารเล่าปี่คลายใจว่าทหารกังตั๋งไม่ออกมารบก็หย่อนยานวินัย พากันเล่นน้ำจับนกตกปลา
เมื่อลกซุนเห็นดังนั้นจึงสั่งให้ทหารกังตั๋งออกวางเพลิงเผาค่ายทหารเล่าปี่กลางดึกแบบค่ายเว้นค่าย ทัพเล่าปี่สับสนอลม่านบ้างฆ่าฟันกันเอง บ้างถูกไฟคลอก โชคดีที่ทัพของจูล่งมาส่งเสบียงให้เล่าปี่พอดีเห็นแสงไฟก็บุกเข้าไปตีฝ่าช่วยเล่าปี่ออกมาได้
แต่ทัพของเล่าปี่ถูกไฟไหม้แตกทัพยับเยินจาก 75 หมื่นเหลือรอดเพียง 300 คน ต้องหนีกลับไปตั้งหลักที่เมืองเป๊กเต้เสีย
ด้วยความละอายใจที่พ่ายศึกยับเยินพาผู้คนไปล้มตายจำนวนมากทำให้เล่าปี่ละอายใจไม่กล้ากลับไปสู้หน้าผู้คนที่เสฉวน ทั้งยังตรอมใจจนอาการทรุดหนักจนต้องเรียกเหล่าขุนนางมาสั่งเสียที่เมืองเป๊กเต้เสีย
ก่อนตายเล่าปี่กล่าวแก่ขงเบ้งว่า ท่านเป็นคนเก่งมีความสามารถเหนือคนทั้งแผ่นดิน ถ้าท่านเห็นว่าอาเต๊าเป็นผู้นำที่ไม่ดีไร้คุณธรรมก็ขอให้ท่านถอดอาเต๊าออกแล้วขึ้นเป็นผู้นำรักษาองค์กรจ๊กก๊กแทนเถิด
ขงเบ้งได้ยิงก็ตกใจตัวสั่นเอาหน้าผากโขกพื้นจนหน้าผากแตก บอกว่าตนไม่เคยมีความคิดเช่นนั้นจะขอดูแลอาเต๊าจนวันตายขอให้เล่าปี่สบายใจได้ เล่าปี่จึงบอกอาเต๊าและลูกๆทุกคนให้เคารพขงเบ้งเหมือนเป็นบิดา
หลังจากนั้นเล่าปี่ก็สั่งเสียกระซิบแก่จูล่งให้ดูแลอาเต๊าและลูกๆของตนด้วย หลังจากนั้นก็สั่งเสี่ยแก่ขุนนางคนอื่นๆว่าขอให้ทุกคนตั้งอยู่ในความชอบธรรมรักษาศักดิ์ศรีของตนโดยทั่วกัน หลังจากนั้นเล่าปี่ก็จากไปอย่างสงบ เหล่าขุนนางเชิญศพไปทำพิธีที่เสฉวน
หลังจากเล่าปี่ตาย อาเต๊าขึ้นเป็นฮ่องเต้แทนชื่อพระเจ้าเล่าเสี้ยนโดยมีขงเบ้งเป็นสมุหนายก ปกครององค์กรจ๊กก๊กต่อไป
สรุป บทที่ 27
คนเราเมื่อประสบความสำเร็จมากๆเข้าก็จะหลงติดกับความสำเร็จของตัวเอง มากเข้าจนกลายเป็นอีโก้ มั่นใจว่าตนนั้นเก่งตนนั้นสามารถ ไม่ฟังคำทัดทานของใคร ยิ่งพออายุมากเข้าในสังคมที่ให้ความนับถือความอาวุโสเป็นสำคัญ 3 พี่น้องผู้นำแห่งองค์กรจ๊กก๊กถึงได้พลาดจนเป็นจุดเริ่มต้ำของความตกต่ำขององค์กรจ๊กก๊ก
เริ่มที่ 1 กวนอู หลังจากได้เป็นผู้บริหารครองพื้นที่เกงจิ๋ว ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญและอันตรายที่สุด เนื่องจากเป็นจุดตัดทั้งกับองค์กรวุยก๊กของโจโฉ และองค์กรง่อก๊กของซุนกวน การจะรักษาพื้นที่นี้ไว้ได้ขงเบ้งให้ยึดนโยบายผูกมิตรกับซุนกวนต่อต้านโจโฉ ก็จะทำให้กวนอูรับศึกเพียงด้านเดียว แต่พอเวลาผ่านไปกวนอูที่ยิ่งใหญ่คับเกงจิ๋วก็หลงลืมนโยบายที่ขงเบ้งสั่งไว้ ไม่ผูกมิตรกับซุนกวนทั้งยังทำให้ซุนกวนโกรธแค้นจากการไม่ยอมยกลูกสาวให้ไปดองกับลูกชายซุนกวนทั้งยังด่าว่าซุนกวนเป็นชาติสุนัข ทำให้ต้องรับศึกสองทางทั้งจากโจโฉและซุนกวน แล้วก็ต้องมาเสียทีแก่ซุนกวนเพราะดูแคลนลกซุนแม่ทัพอายุน้อยที่ซุนกวนแต่งตั้งมา ทำให้กวนอูประมาทคลายการป้องกันจากลกซุนสุดท้ายลกซุนลอบยึดเกงจิ๋ว จนทำให้กวนอูต้องถึงแก่ความตาย
2 เตียวหุย ผู้สร้างชื่อจากการต้านทัพโจโฉที่สะพานเตียงปัน และประสบความสำเร็จที่สุดในชีวิตเมื่อนำทัพหักค่ายต่างๆจนถึงเสฉวนได้เป็นทัพแรกอย่างรวดเร็ว เพราะเชื่อฟังและทำตามในหลักการที่ขงเบ้งให้ไว้ “ครองใจคนเป็นหลัก ครองเมืองเป็นรอง กวดวินัยเข้มแข็ง ห้ามปล้นชิงชาวบ้าน ดูแลผู้สวามิภักดิ์อย่างดี รักใคร่ทหาร อดกลั้นโทสะ ห้ามเมาเหล้าตีไพร่พล” แต่เมื่อกวนอูตายเตียวหุยก็กลับไปเป็นคนเดิม ที่มุทะลุ ขี้เมา ไร้เหตุผล สั่งงานลูกน้องคาดโทษตายในสิ่งที่ลูกน้องไม่สามารถทำให้ได้ สุดท้ายจึงต้องตายด้วยมือของลูกน้องตัวเอง
3 เล่าปี่ หลังจากกวนอูตาย โจโฉตาย โจผีปลดเหี้ยนเต้ขึ้นเป็นฮ่องเต้แห่งวุยก๊ก เล่าปี่ก็ขึ้นเป็นฮ่องเต้แห่งจ๊กก๊กเพื่อรักษาราชวงศ์เล่าตามด้วยความสนับสนุนของทีมงานองค์กรจ๊กก๊ก เพื้อสร้างความชอบธรรม สร้างแรงหนุนจากประชาชน ให้สนับสนุนในการโค่นล้มวุยก๊กของโจผี วิธีนี้นับว่าได้ผลเพราะเหล่าประขาชนจำนวนมากยังสนัยสนุนฮั่นอยู่ เมื่อโจผีปลดเหี้ยเต้ก็เป็นการสร้างคลื่นใต้น้ำ ขอเพียงเล่าปี่บุกตีวุยก๊กก็จะมีผู้ออกมาสนับสนุนจำนวนมาก แต่เล่าปี่หาได้ทำเช่นนั้น
หลังจากขึ้นเป็นฮ่องเต้แห่งองค์กรจ๊กก๊กเล่าปี่เลือกที่จะแก้แค้นให้กวนอูน้องร่วมสาบานโดยการบุกกังตั๋งเพื่อสังหารซุนกวนแทน แม้ขงเบ้งหรือจูล่งจะห้ามก็ไม่ฟัง บอกว่าการบุกกังตั๋งแก้แค้นให้กวนอูนั่นเป็นการทำเพื่อส่วนตัว เวลานี้ควรจะบุกวุยก๊กจึงจะเป็นการทำเพื่อส่วนรวมจึงจะได้รับแรงหนุนประชาชนก็จะแซ่ซ้องสรรเสริญ การใหญ่ก็จะสำเร็จโดยง่าย
เมื่อปราบโจผีได้แล้ววุยก๊กสุดท้ายก็ต้องยอมแพ้แก่เล่าปี่ แต่เล่าปี่ก็ไม่ฟังคำทัดทานและเหตุผลใดๆ ตระเตรียมกองทัพได้จำนวน 75 หมื่นนาย บุกกังตั๋งรบชนะมาตลอดจนมาเจอลกซุน เหตุการณ์ตอนนี้ช่างคล้ายกับศึกเปิดตัวขงเบ้งที่ทุ่งพกบ๋อง ขงเบ้งนักปราชญ์หนุ่มอาศัยความประมาทของแฮหัวเอี๋ยนที่มีกำลงพลมาก เผาทหารฝ่ายโจโฉตายเกลี้ยงที่ทุ่งพกบ๋อง แต่เหตุการคงจะนานจนเล่าปี่ลืมไปแล้ว
เมื่อมีกำลังพลมากกว่าซ้ำยังชนะมาตลอด ก็ไม่คิดว่าตนจะแพ้ เมื่อเจอลกซุนที่อายุยังน้อย ทั้งยังเอาแต่ตั้งรับในค่ายไม่ออกรบก็คลายใจไม่ระมัดระวังลกซุนเท่าที่ควร ทั้งๆที่รู้ว่าลกซุนผู้นี้แหละที่กวนอูประมาทพลาดท่าให้จนต้องเสียเกงจิ๋วไป แล้วพอเจออากาศร้อนก็ให้ทหารตั้งค่ายในแนวป่าเป็นแนวยาว สุดท้ายก็โดนลกซุนลอบเผาค่ายทหารกว่า 75 หมื่นตายหมดในคืนเดียว เป็นความเสียหายชนิดขาดทุนย่อยยับขององค์กรจ๊กก๊ก แม้แต่ตัวเล่าปี่เองก็ยังต้องสำนึกผิดจนตรอมใจตาย
จะเห็นได้ว่าจุดจบของ 3 พี่น้องที่เก่งกล้าสามารถ สามารถสร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นมาจากศูนย์จนมาเป็น ผู้นำของ 1 ใน 3 องค์กรใหญ่ที่ปกครองจีนในขณะนั้น มาจากอีโก้และความประมาทของตนเองทั้งสิ้น ทั้งสามคน
ขอบพระคุณที่ติดตาม
รังสรรค์ ใจอารีย์
@3kokstartup
- 3
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
