17 ก.พ. 2019 เวลา 10:21 • ธุรกิจ
บทที่ 28 นโยบายเชิงรุกของขงเบ้ง
ค.ศ. 224
ขงเบ้งส่งเตงจี๋ เจรจาให้จ๊กก๊กและง่อก๊กเป็นพันธมิตรกัน
ค.ศ. 225
พระเจ้าโจผีโจมตีง่อก๊กแต่ไม่สำเร็จ
ขงเบ้งยกทัพปราบชนเผ่าม่าน จับเบ้งเฮ็กหัวหน้าชาวม่านได้ 7 ครั้ง และปล่อยทั้ง 7 ครั้ง
ค.ศ.226
พระเจ้าโจผีสวรรคต
โจยอยขึ้นครองราชย์
ค.ศ.227
สุมาอี้ เสนาธิการวุยก๊ก ถูกปลดจากตำแหน่งด้วยอุบายของขงเบ้ง
ขงเบ้งยกทัพตีวุยก๊กครั้งแรก
เกียงอุยแห่งวุยก๊กสวามิภักดิ์ต่อขงเบ้ง
ค.ศ.228
สุมาอี้กลับเข้ารับราชการ
ม้าเจ๊กถูกสุมาอี้ตีแตกพ่าย เสียค่ายที่ตำบลเกเต๋ง
ขงเบ้งประหารม้าเจ๊ก
จูล่งเสียชีวิตด้วยโรคชรา
ขงเบ้งยกทัพตีวุยก๊กครั้งที่ 2 แต่พ่ายแพ้ ต้องถอยกลับจ๊กก๊ก
ค.ศ.229
ขงเบ้งยกทัพตีวุยก๊กครั้งที่ 3 ยึดได้เมืองปูเต๋าและอิมเป๋ง แต่เสบียงหมด ต้องถอยทัพกลับ
ซุนกวนสถาปนาตนเป็นฮ่องเต้แห่งง่อก๊ก
ค.ศ.230
โจจิ๋นกับสุมาอี้ยกทัพตีฮันต๋งแต่ต้องถอยทัพกลับเนื่องจากฝนตกหนัก
ค.ศ.231
ขงเบ้งยกทัพตีวุยก๊กครั้งที่ 4-5 แต่มีปัญหาเรื่องคนส่งเสบียง
เตียวคับขุนพลวุยก๊กเสียชีวิตจากการซุ่มโจมตีของขงเบ้ง
ค.ศ.232
ซุนกวนหลงระเริงในอำนาจ เกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายแย่งชิงอำนาจในราชสำนัก
ค.ศ.233
กองซุนเอี๋ยนกำเริบคิดแยกตัวจากวุยก๊ก
ค.ศ.234
ซุนกวนยกทัพไปตีวุยก๊ก แต่โจยอยป้องกันไว้ได้
ขงเบ้งยกทัพตีวุยก๊กครั้งที่ 6
ขงเบ้งก็ถึงแก่อนิจกรรม ณ ทุ่งราบอู่จ้าง ทัพจ๊กก๊กต้องถอนทัพกลับ
อุยเอี๋ยนก่อกบฏต่อจ๊กก๊ก แต่ถูกม้าต้ายสังหาร
2
ค.ศ.224 หลังจากสิ้นพระเจ้าเล่าปี่ ทางวุยก๊กก็มีการเคลื่อนไหว เพราะพระเจ้าเล่าปี่พาทหารไปตายด้วยถึง 75 หมื่นคน เป็นการเอาทุนรอนขององค์กรจ๊กก๊กไปเผาทิ้งแบบไม่ได้ประโยชน์อะไรกลับมา แม้ยอดนักปราชญ์แห่งยุคขงเบ้งจะยังอยู่แต่ทางวุยก๊กก็ไม่เกรงกลัวจัดทัพบุกจ๊กก๊ก 4 ทาง แล้วก็ส่งฑูตไปขอให้กังตั๋งบุกอีก 1 ทางรวมเป็นทั้งหมด 5 ทาง
ทำให้พระเจ้าเล่าเสี้ยนตื่นตระหนกต่อเหตุการณ์ต้องรีบไปหาขงเบ้งขอคำปรึกษา
ซึ่งขงเบ้งเองก็บอกว่าตนนั้นคิดทางป้องกันทัพจากวุยก๊กไว้แล้วทั้ง 4 ทาง แม้กำลังทหารจะน้อยกว่าอาศัยชัยภูมิที่ได้เปรียบก็สามารถป้องกันทัพทั้ง 4 ทางจากวุยก๊กได้ ส่วนทัพอีก 1 ทางจากง่อก๊ก เมื่อง่อก๊กเห็นว่าทัพวุยทั้ง 4 ทางไม่สามารถบุกเสฉวนได้ง่อก๊กก็จะไม่ยกทัพมา
แต่เราต้องส่งฑูตไปเจรจาให้ง่อก๊กกลับมาเป็นพันธมิตรกับจ๊กก๊กเพื่อผลประโยชน์ในระยะยาวในการรบกับวุยก๊ก ก็ได้เต๋งจี่เป็นฑูตไปเจรจากับซุนกวนชี้ถึงผลดีของการเป็นพันธมิตรกับจ๊กก๊ก ในยุทธศาสตร์สามก๊ก ง่อก๊กก็จะรักษาเอกราชเอาไว้ได้ถ้าง่อก๊กไปขึ้นกับวุยก๊กเมื่อวุยชนะสุดท้ายง่อก็ต้องล่มสลาย
ซุนกวนเข้าใจและอยากผูกมิตรกับจ๊กก๊กทั้งยังรู้สึกผิดพลาดทั้งกับเรื่องกวนอูและเล่าปี่ทำให้ไม่สามารถเป็นพันธมิตรกับจ๊กได้
เมื่อผู้นำของจ๊กเปลี่ยนมาเป็นขงเบ้ง ผู้ไม่ยึดติดกับเหตุการณ์ในอดีต คิดถึงผลประโยชน์ในอนาคตซุนกวนก็ยินดีจัดตั้งสหพันธรัฐระหว่างจ๊กกับง่อ
การจัดตั้งสหพันธรัฐระหว่างจ๊กและง่อทำให้พระเจ้าโจผีโกรธทางง่อก๊กเป็นอย่างมาก
เพราะง่อไม่ยอมบุกจ๊กก๊กตามที่ตกลงไว้ทั้งยังไปเข้าด้วยกับจ๊กก๊กอีก จึงยกทัพไปบุกตีง่อก๊ก
ทางง่อก๊กเมื่อรู้ถึงศึกใหญ่ก็ส่งหนังสือไปขอความช่วยเหลือจากทางจ๊กก๊ก ทำให้ระหว่างที่พระเจ้าโจผียกทัพไปรบอยู่กับง่อก๊ก ขงเบ้งก็ส่งจูล่งจัดทัพบุกวุยก๊กทำให้โจผีเสียสมาธิต้องรีบยกทัพกลับมาป้องกันลกเอี้ยง ทำให้โดนทหารฝ่ายง่อก๊กตามตีพ่ายแพ้ยับเยิน แตกทัพกลับลกเอี้ยง
ความร่วมมือเป็นสหพันธรัฐจ๊กง่อประสบความสำเร็จอย่างงดงาม
ค.ศ.225 ขงเบ้งยกทัพปราบม่านก๊ก
ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเสฉวนนั้นเป็นดินแดนของชนเผ่าที่มีอารยธรรมล้าหลัง ที่ยังบูชาภูตผีปีศาจและใช้มนต์ดำกันอยู่
ดินแดนแถบนี้ปกคลุมด้วยป่าทึบและภูเขามีทั้งสัตว์ร้ายและไข้ป่า ที่แห่งนี้อยู่กันเป็นชนเผ่าต่างๆมีผู้นำคือเบ้งเฮ้ก วันดีคืนดีก็จะรวมตัวมาตีชิงยึดพื้นที่ชายแดนของเสฉวน สร้างความวุ่นวาย
ขงเบ้งจึงต้องการจะปราบเหล่าชนกลุ่มนี้ให้อยู่หมัด ถ้าหากชายแดนตอนใต้ไม่สงบก็ไม่สามารถรุกขึ้นเหนือได้อย่างสบายใจ จึงระดมพลห้าสิบหมื่น มีขุนพลเป็นจูล่งอุยเอี๋ยน นำทัพบุกปราบชาวม่านด้วยตัวเอง
เจตนาต้องการให้พื้นที่นี้สงบ ด้วยการโชวศักยภาพที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน นโยบายในการบุกคือ ตีใจเป็นหลัก ยึดเมืองเป็นรอง ครองใจคนเป็นเอก เนื่องด้วยทั้งวัฒนธรรมและสภาพภูมิประเทศความเป็นอยู่ของชาวม่านเป็นกลุ่มชนพื้นเมืองยากแก่การปกครอง
ถึงรบชนะยึดพื้นที่มาได้ก็ไม่สามารถปกครองชาวม่านได้
วิธีที่จะสามารถทำให้ชาวม่านสงบได้คือต้องสามารถจัดการซื้อใจหัวหน้าชาวม่านได้
ดังนั้นในการบุกคราวนี้ขงเบ้งจึงไม่สนเรื่องการยึดพื้นที่ บุกมาคราวนี้ขงเบ้งตั้งใจที่จะชนะเบ้งเฮ็กผู้นำชาวม่านอย่างเด็ดขาดจนเบ้งเฮ็กยอมแพ้ด้วยตัวเอง
ซึ่งขงเบ้งก็สามารถรบชนะจับตัวเบ้งเฮ็กและปล่อยตัวเบ้งเฮ็กไปรวบรวมคนมารบใหม่จนกว่าเบ้งเฮ็กจะยอมแพ้ จนขงเบ้งจับตัวเบ้งเฮ็กเป็นครั้งที่ 7 เบ้งเฮ็กจึงเกิดความละอายใจยอมแพ้แก่ขงเบ้งอย่างหมดใจ จากนั้นตราบใดที่เบ้งเฮ็กยังเป็นผู้นำชาวม่านอยู่ขงเบ้งก็มั่นใจได้ว่าจะไม่มีชาวม่านมารบกวนชายแดนของจ๊กก๊ก
ค.ศ.226 พระเจ้าโจผีเสียชีวิตด้วยอาการป่วย ก่อนเสียชีวิตสั่งเสียความแก่ โจจิ๋น ตันกุ๋น สุมาอี้ และโจยอย หลังโจผีเสียชีวิตโจยอยขึ้นครองราชย์ หลังจากทราบว่าขงเบ้งปราบม่านก๊กสำเร็จจึงสั่งให้สุมาอี้ไปรักษาเมืองเสเหลียงพื้นที่ชายแดนวุยกับจ๊ก
เมื่อขงเบ้งรู้ว่าสุมาอี้มาอยู่ที่เสเหลียงก็ไม่สบายใจเพราะสุมาอี้เป็นคนที่เก่งมากฉลากหลักแหลม ก็ได้มาเจ๊กแนะนำให้ปล่อยข่าวลือว่าสุมาอี้เป็นกบฎก็จะทำให้สุมาอี้แตกคอกับทางเมืองหลวง ขงเบ้งเห็นชอบให้ดำเนินการปล่อยข่าวลือที่เมืองหลวงล๊กเอี้ยงก็ได้ผลสำเร็จพระเจ้าโจยอยยังพึ่งขึ้นครองราขใหม่ๆไม่ไว้ใจสุมาอี้ จึงสั่งปลดยศทางทหารและยศทางราชการทุกอย่างทำให้สุมาอี้ต้องออกจากราชการกลับไปเป็นสามัญชนคนธรรมดา
ค.ศ.227-228 ขงเบ้งบุกวุยก๊กครั้งที่ 1
เมื่อขงเบ้งเห็นว่าภายในองค์กรวุยก๊กกำลังวุ่นวายจากการเปลี่ยนประธานองค์กรจากโจผีมาเป็นโจยอยซ้ำ ผู้บริหารมือฉมังอย่างสุมาอี้ยังโดนพิษการเมืองในองค์กรเล่นงานสั่งปลดทุกตำแหน่ง ทำให้เป็นโอกาสดีที่จะบุกง่อก๊ก
ขงเบ้งจึงถวายฏีกาขอออกรบต่อพระเจ้าเล่าเสี้ยนแม้ขุนนางคนอื่นจะไม่เห็นด้วยเนื่องจากทหารยังเหนื่อยล้าจากการบุกม่านก๊กแต่ก็ไม่สามารถขัดเหตุผลของขงเบ้งได้ ขงเบ้งจึงจัดทัพสามสิบหมื่นยกไปฮันต๋งเตรียมการบุกวุยก๊ก
ทางพระเจ้าโจยอยส่งแฮหัวหลิมคุมทหารยี่สิบหมื่นมาตั้งรับ แฮหัวหลิมผู้นี้เป็นลูกของแฮหัวตุ้นขุนผลเอกคู่กายโจโฉ ทำให้มีเส้นสายได้เป็นขุนนางใหญ่ทั้งๆที่จริงไม่มีความสามารถไม่สามารถรบสู้ขงเบ้งได้
แต่การบุกของขงเบ้งต้องสะดุดเพราะที่เมืองเทียนซุยมีทหารเอกชื่อเกียงอุยที่รู้ทันกลศึกของขงเบ้งซ้ำยังมีฝีมีการรบพุ่งสูสีกับจูล่ง
แม้ขงเบ้งจะรบชนะจับตัวแฮหัวหลิมได้แต่ก็ยังไม่สามารถขนะผ่านไปได้ จนขงเบ้งต้องใช้อุบายปล่อยแฮหัวหลิมไปและทำให้ทุกฝ่ายเข้าใจว่าเกียงอุยทรยศต่อวุยก๊ก จนสุดท้ายเกียงอุยต้องโดดเดี่ยว
จากนั้นขงเบ้งจึงเข้าไปเกลี้ยกล่อมเกียงอุยมาเข้าพวกจนสำเร็จโดยรับเกียงอุยเป็นศิษเอกเพื่อถ่ายทอดวิชาความรู้ทั้งหมดของตนเองให้
การใช้อุบายปล่อยแฮหัวหลิมไปแล้วได้เกียงอุยมาทำให้ขงเบ้งดีใจว่าเหมือนเสียเป็ดแต่ได้หงส์มา
จากนั้นขงเบ้งก็รุกเข้ามาได้ถึงแนวเขากิสานใกล้เมืองเตียงอัน พระเจ้าโจผีส่งทัพหลวงมาอีกนำโดยโจจิ๋นกับอองลองขุนนางเฒ้าวัย 76 โดยอองลองขอเป็นผู้มาเจรจากับขงเบ้งให้ถอยทัพกลับไปด้วยเหตุผล
แต่โดนเหตุผลของขงเบ้งสวนกลับว่าอองลองเป็นทรราชในวัย76 เดิมเป็นขุนนางในราชวงฮั่นแต่เห็นดีมาเข้ากับกบฏสกุลโจถึงตายไปก็จะต้องไปเจอกับผีเจ้านายราชวงศ์ฮั่นทั้งหลายเล่นงาน
อองลองโดนขงเบ้งด่าถึงกับจุกอกกระอักเลือดตายทำให้ทหารทัพวุยเสียขวัญอย่างมาก เมื่อรบกันโจจิ๋นก็สู้ขงเบ้งไม่ได้แพ้แตกทัพไป
การชนะทัพหลวงติดๆกันทำให้สถานะการของขงเบ้งได้เปรียบมาก เบ้งตัดเจ้าเมืองซงหยงทางใต้ราชธานีลกเอี้ยงจึงแปรพักย้ายค่ายส่งหนังสือขอมาอยู่กับขงเบ้งโดยจะยกทัพไปตีเมืองหลวงช่วยขงเบ้ง
ขงเบ้งเองก็ยินดีที่เบ้งตัดมาเข้าร่วม เมื่อสถานะการของวุยก๊กคับขันในที่สุดพระเจ้าโจผีก็ไปตามสุมาอี้กลับมารับราชการ
สุมาอี้เมื่อได้รับตราตั้งแล้วก่อนที่จะไปรับราชโอการเข้าเฝ้าที่เมืองหลวงสุมาอี้ที่รู้ข่าวว่าเบ้งตัดไปเข้ากับขงเบ้งก็ตรงไปจัดการเบ้งตัดที่เมืองซงหยงก่อน การมาของสุมาอี้เบ้งตัดไม่ทันตั้งตัวจึงโดนสุมาอี้ชิงตัดไฟแต่ต้นลมจากนั้นจึงค่อยกลับไปเข้าเฝ้า
เมื่อสุมาอี้กลับมาการที่คิดว่าจะง่ายก็ยากขึ้นมา ขงเบ้งต้องระวังการเดินทัพอย่างละเอียดโดยเฉพาะจุดชี้เป็นชี้ตายของศึกนี้ที่ตำบลเกเต๋งเพราะเป็นเส้นทางส่งเสบียงถ้ารักษาจุดนี้ไว้ไม่ได้ก็ไม่สามารถบุกวุยก๊กได้
ระหว่างที่ขงเบ้งกำลังคิดหนักก็เป็นม้าเจ๊กที่ปรึกษาคนสนิทขงเบ้งเสนอตัว
ซึ่งขงเบ้งก็เห็นว่าม้าเจ็กแม้จะไม่เคยทำงานใหญ่แต่ก็เป็นคนฉลาดมีความรู้ เรียกได้ว่าเก่งทฤษฏีแต่ยังไม่มีประสบการณ์
ขงเบ้งจึงให้ม้าเจ๊กนำทัพใหญ่ไปยึดตำบลเกเต๋งพร้อมส่งอองเป๋งทหารที่มีประสบการณ์รบสูงแต่รู้หนังสือเพียงสิบตัวไปเป็นที่ปรึกษาโดยหวังว่าประสบการณ์ของอองเป๋งจะช่วยม้าเจ๊กได้
แต่แล้วม้าเจ๊กก็พลาดงานใหญ่ที่หน้างาน ตำบลเกเต๋งไม่มีค่ายคูสำหรับตั้งทัพต้านศึกอองเป๋งใช้ประสบการณ์แนะนำว่าควรตั้งค่ายคลุมเส้นทางส่งเบียงแต่ม้าเจ๊กไม่ฟังเลือกตั้งค่ายบนเขาตามทฤษฏีที่ว่าตั้งค่ายบนที่สูงย่อมได้เปรียบกว่าผู้ที่อยู่ต่ำกว่า
แต่ความเป็นจริงเมื่อสุมาอี้มาถึงสุมาอี้ก็ทำการล้อมเขาตัดเส้นทางน้ำม้าเจ้กจนทัพม้าเจ้กขาดน้ำจากนั้นจึงจุดไฟเผาคลอกบนเขาทำให้ทัพม้าเจ้กหมดทางสู้ต้องพยายามตีฝ่าลงมา
ยังดีที่อองเป๋งไม่ยอมตั้งค่ายบนเขาแยกตัวมาตั้งค่ายด้านนอกพยายามตีฝ่าเข้าช่วยเหลือ
ทางขงเบ้งเมื่อได้รับม้าเร็วจากอองเป๋งเรื่องการตั้งค่ายของม้าเจ้กก็ได้แต่ร้องออกมาว่าการใหญ่ของเราเสียเพราะม้าเจ๊กแล้ว
สั่งให้จูล่งอุยเอียนยกทัพไปช่วยอองเป๋งกับม้าเจ๊ก หลังจากนั้นให้ถอยทัพกลับมาตั้งหลักที่ฮั่นต๋ง แม้สุดท้ายม้าเจ๊กจะรอดมาได้แต่ความผิดพลาดใหญ่หลวงถึงขงเบ้งจะรักชอบม้าเจ๊กเป็นการส่วนตัวแต่ก็สั่งประหารม้าเจ๊กทั้งน้ำตา
ค.ศ.228-229 ทางด้านง่อก๊กพอเห็นว่าทางจ๊กก๊กเสียเปรียบวุยก๊กก็ปรึกษากันทำอุบายช่วยเหลือโดยหลอกให้วุยก๊กยกทัพมาตีกังตั๋ง
แต่ไม่อาจตีสำเร็จได้เพราะกังตั๋งมีลกซุนที่เตรียมพร้อมรับมืออยู่ทำให้ทัพวุยก๊กแตกทัพยับเยินไม่สามารถบุกใครได้อีกพักใหญ่ จากนั้นซุนกวนจึงส่งหนังสือบอกทางจ๊กก๊กว่าวุยก๊กเสียหายหนักให้ฉวยโอกาสบุกวุยก๊ก ซึ่งทางขงเบ้งก็จัดเตรียมทัพบุกวุยก๊ก ครั้งที่ 2
ระหว่างที่เตรียมการอยู่ขงเบ้งก็ได้รับข่าวร้ายว่า จูล่งยอดขุนพลแห่งจ๊กก๊กเสียชีวิตอย่าสงบด้วยโรคชรา ก็เสียใจเป็นอันมาก
จากนั้นเมื่อระดมกำลังได้สามสิบหมื่น ขงเบ้งก็รีบรุดบุกวุยก๊กทางเขากิสาน ก็มาติดขัดที่ตำบนตันฉองจุดยุทธศาสตร์สำคัญจุดหนึ่งของเขากิสาน แม้จะเป็นตำบลเล็กแต่เฮ็กเจียวทำการป้องกันตำบลตันฉองอย่างสุดความสามารถ
ขงเบ้งให้อุยเอี๋ยนบุกล้อมตีอยู่ห้าวันก็ไม่สามารถตีฝ่าได้ จนขงเบ้งโกรธจะลงโทษอุยเอี๋ยนข้อหาทำการศึกล่าช้าแต่ถูกขัดไว้
จากนั้นขงเบ้งลงมือตีเองอีกยี่สิบวันตันฉองก็ยังไม่แตก
จึงต้องให้ทัพอุยเอี๋ยนล้อมตันฉองไว้ส่วนที่เหลือยกทัพลัดเลาะไปทางอื่น แต่ก็ไม่ได้การเพราะเสียเวลาตีตันฉองอยู่นานสุมาอี้คาดการณ์ไว้แล้วจึงสั่งป้องกันทุกเส้นทางอย่างแน่นหนา หวังให้ขงเบ้งที่เตรียมการอย่างเร่งด่วนเสบียงหมดถอยทัพกลับไป
ก็เป็นไปตามที่สุมาอี้คาดการณ์
ระหว่างที่ขงเบ้งกำลังกลุ้มใจกับการป้องกันที่แข็งแกร่งของเฮ็กเจียวที่ตำบลตันฉ่อง ก็มีข่าวดีมาว่าเฮ็กเจียวป่วยตาย ทำให้ขงเบ้งรีบจัดทัพรุกวุยก๊กอีกครั้งหนึ่ง เป็นการบุกวุยก๊กครั้งที่ 3
ขงเบ้งบุกไปทางเขากิสานอีกครั้งสามารถตีผ่านตำบลตันฉ่องมาได้ สามารถบุกยึดได้เมืองปูเต๋าและอิมเป๋ง อีกสองเมืองจนรุกมาถึงเตียงอันที่ทางวุยก๊กส่งสุมาอี้มารอตั้งรับกลศึกของสุมาอี้ไม่สามารถสู้กลศึกของขงเบ้งได้
สุมาอี้จึงสั่งทหารให้ตั้งรับเพียงอย่างเดียว สุมาอี้ตั้งรับได้หนึ่งเดือนขงเบ้งทำอุบายว่าเสบียงหมดถอยทัพ สุมาอี้นั้นไม่หลงกลแต่เตียวคับและเหล่าทหารร้องขอให้ตามตีติดกับอุบายขงเบ้งทหารล้มตายจำนวนมากสุดท้ายจึงกลับมาตั้งรับตามเดิม
ส่วนขงเบ้งแม้การศึกจะได้เปรียบแต่ได้รับข่าวร้ายว่าเตียวเปาลูกชายเตียวหุยเสียชีวิตก็ทุกข์ใจเกิดอาการป่วยกำเริบกระอักเลือดออกมานับจากนั้นสุขภาพขงเบ้งก็ไม่ดีจึงสั่งถอยทัพกลับฮันต๋ง แม้เหล่าทหารโดยเฉพาะอุยเอี๋ยนจะไม่เห็นด้วยก็ตาม
ค.ศ.230 ผ่านไปหนึ่งปีทหารวุยก๊กมีความพร้อมมากขึ้น โจจิ๋นเสนอพระเจ้าโจยอยว่าตราบใดที่องค์กรจ๊กก๊กยังอยู่องค์กรวุยก๊กไม่มีทางสงบ สมควรจะบุกไปกำราบจ๊กก๊ก พระเจ้าโจยอยเห็นชอบ อนุมัติทัพสี่สิบหมื่นให้โจจิ๋นนำไปปราบองค์กรจ๊กก๊ก
เมื่อขงเบ้งรู้ข่าวก็ขำว่าโจจิ๋นนั้นช่างไม่รู้จักจังหวะเวลาและดินฟ้าอากาศ ฤดูฝนกำลังจะมาฝนกำลังจะตกหนักทหารของวุยก๊กที่ยกมาจะต้อเจอกับทุกข์หนัก
จึงส่งทหารไปตั้งรับที่ตำบลตันฉ่องพอเป็นพิธีเพียงหนึ่งพันนาย แล้วก็เป็นตามที่ขงเบ้งคาดทหารวุยก๊กทั้งสี่สิบหมื่นต้องเผชิญกับฝนตกน้ำท่วม ข้าวของเสบียงยุทธปกรณ์จมน้ำเสียหายหมด เหล่าทหารได้รับความทุกข์แสนสาหัสไม่มีกำลังใจจะรบพุ่งทราบเรื่องถึงพระเจ้าโจยอยมีรับสั่งให้ถอยทัพกลับ
ค.ศ.231 ขงเบ้งบุกวุยก๊กครั้งที่ 4 สุมาอี้ก็เตือนโจจิ๋นว่าให้ระวังไว้หลังน้ำลดขงเบ้งจะต้องยกทัพมาแน่ แต่ว่าโจจิ๋นไม่เชื่อบอกว่าหลังน้ำลดหนทางลำบากยากที่ขงเบ้งจะยกทัพมา
1
สุมาอี้นั้นตั้งค่ายอยู่ที่บริเวณเขากิสาน แต่แบ่งกันดูแลคนละบริเวณกับโจจิ๋น สุมาอี้ตั้งค่ายกวดวินัยอย่างแข็งขัน ในขณะที่โจจิ๋นประมาทเพราะคิดว่าขงเบ้งจะไม่ยกทัพมา แต่ขงเบ้งก็ยกทัพมาจริงๆ
เมื่อขงเบ้งตีค่ายทางสุมาอี้ไม่แตกก็ย้ายไปตีทางโจจิ๋นแตกโดยง่าย แต่สุมาอี้ก็ยกทัพมาเข้าช่วยโจจิ๋นไว้ได้เพราะคาดการณ์ไว้แล้ว แต่ทางองค์กรณ์วุยก๊กก็เสียเขากิสานให้ขงเบ้งอีกครั้ง
ขงเบ้งบุกจนถึงฝั่งแม่น้ำฮวงโหใกล้ประชิดเตียงอัน ทหารของสุมาอี้สู้กลศึกของขงเบ้งไม่ได้ ระหว่างที่กำลังได้เปรียบทางการรบขงเบ้งก็เจอปัญหาเรื่องเสบียงอีกครั้งนายเสบียงชื่อกิอั๋นส่งเสบียงล่าช้าเพราะเอาแต่เมาสุรา ขงเบ้งโกรธมากจะสั่งประหารก็โดนขัดไว้ว่ากิอั๋นนั้นเป็นคนของลิเงี่ยมคนคุมคลังเสบียงคนโปรดตั้งแต่สมัยพระเจ้าเล่าปี่
ขงเบ้งจึงละเว้นโทษตายแต่ลงโทษโบยกิอั๋น กิอั๋นนอกจากไม่สำนึกผิดยังไปเข้ากับทางสุมาอี้ ให้ทำอุบายกลับไปปล่อยข่าวที่เมืองหลวงแก่เหล่าขันทีว่าขงเบ้งก่อกบฎทำให้พระเจ้าเล่าเสี้ยนเรียกตัวขงเบ้งกลับทั้งๆที่กำลังได้เปรียบในการรบ
เมื่อกลับไปถึงเมืองหลวงพระเจ้าเล่าเสี้ยนละอายใจที่หูเบาเรียกขงเบ้งกลับมา
ในขณะที่กิอั๋นลี้ภัยการเมืองไปอยู่กับสุมาอี้แล้ว
ขงเบ้งจึงหันมาลงโทษเหล่าขันทีที่ยุแหย่พระเจ้าเล่าเสี้ยนให้เรียกตนกลับมาแทน
จากนั้นจึงตั้งลิเงียมเป็นคนส่งเสบียงแทน เมื่อแก้ไขปัญหาภายในได้ในระดับหนึ่งขงเบ้งก็พาทหารไปฮันต๋งอีกสิบหมื่นสมทบกับทหารที่ฮั่นต๋งบุกวุ๊ยก๊กเป็นครั้งที่ 5 แต่ก็ประสบปัญหาเดิมการส่งเสบียงล่าช้า ลิเงี่ยมส่งเสบียงช้าจึงแสร้งทำหนังสือส่งมาหลอกขงเบ้งว่าที่ช้าเพราะกังตั๋งเตรียมบุกวุยก๊กทางเสฉวนจึงวุ่นวาย
ขงเบ้งตกใจกับข่าวนี้ต้องถอยทัพกลับระหว่างถอยทัพเตียวคับออกตามตีทัพของขงเบ้งต้องกลอุบายขงเบ้งถึงแก่ความตาย
พอกลับถึงฮันต๋งรู้ความจริงว่าเป็นข่าวหลอกขงเบ้งโกรธมากสั่งประหารลิเงี่ยมแต่ก็ถูกเหล่าขุนนางคอยห้ามว่าเป็นคนสนิทเก่าแก่ตั้งแต่สมัยพระเจ้าเล่าปี่ ขงเบ้งจึงทำได้เพียงถอดลิเงี่ยมออกจากตำแหน่ง แล้วตั้งลิหวมลูกชายลิเงี่ยมขึ้นแทนตำแหน่ง
ค.ศ.234 ผ่านไป 3 ปีขงเบ้งเตรียมทหารและเสบียงบุกวุยก๊กเป็นครั้งที่ 6
แต่พระเจ้าเล่าเสี้ยนและเหล่าขุนนางในวังไม่เห็นด้วยกับขงเบ้งบอกว่าบ้านเมืองกำลังสงบทำไมขงเบ้งต้องไปบุกวุยก๊กให้ลำบากกันทุกฝ่าย จนขงเบ้งต้องไปจุดธูปร้องไห้ต้องหน้าหลุมศพพระเจ้าเล่าปี่
ขงเบ้งต้องอ้างเหตุผลถึงอุดมการณ์ของพระเจ้าเล่าปี่จนพระเจ้าเล่าเสี้ยนและเหล่าขุนนางยอมให้ขงเบ้งนำทัพสี่สิบหมื่นบุกวุยก๊กพร้อมทั้งส่งจดหมายถึงพระเจ้าซุนกวนให้ยกทัพบุกวุยก๊กอีกทาง
การศึกครั้งนี้สุมาอี้ก็นำทัพสี่สิบหมื่นมาตั้งค่ายที่เขากิสานตั้งทัพป้องกันขงเบ้ง สุมาอี้ใช้หลักการว่าขงเบ้งยกทัพมาไกลสิ้นเปลืองพลังงานและเสบียงเมื่อขงเบ้งเสบียงหมดขงเบ้งก็ต้องยกทัพกลับไป
เมื่อสุมาอี้ไม่ยอมออกรบนานเข้าขงเบ้งจึงใช้อุบายล่อสุมาอี้ออกมาได้สำเร็จ สุมาอี้ต้องกลขงเบ้งไปตีสถานที่ๆเข้าใจผิดว่าเป็นคลังเสบียงของขงเบ้งแต่ขงเบ้งสุมเชื้อเพลิงรอไว้เผาทัพสุมาอี้ทหารของวุยก๊กตายเกลื่อน
ในระหว่างที่สุมาอี้กับลูกชายทั้งสองสุมาสูและสุมาเจียวติดอยู่ในกองเพลิงและกับลังจะตายอยู่ๆก็มีพายุฝนตกใหญ่ลงมาทำให้เพลิงดับสุมาอี้และลูกสามารถหนีไปจากกับดักได้ ขงเบ้งถึงกับถอนใจว่าคนบัญชาไม่สู้ฟ้าบันดาล จากนั้นสุมาอี้ก็เอาแต่ตั้งรับไม่ออกรบกับขงเบ้งอีก
ทางขงเบ้งเมื่อพลาดโอกาสงามก็ได้รับข่าวว่าทางกังตั๋งนั้นไม่สามารถบุกตีวุยก๊กได้พระเจ้าโจยอยมาสู้ศึกด้วยตัวเอง ทำให้ทหารง่อต้องถอยทัพกลับกังตั๋งยิ่งทำให้ขงเบ้งเศร้าหมอง สุขภาพของขงเบ้งทรุดลงเรื่อยๆจากการตรากตรำทำงานหนักออกรบมาตลอด
สุมาอี้ที่ทราบดีว่าขงเบ้งนั้นทำงานหนักมารายละเอียดเล็กน้อยทุกอย่างขงเบ้งก็ตรวจดูด้วยตัวเอง ไม่ดูแลสุขภาพกินก็น้อยนอนก็น้อย สุมาอี้จึงมั่นใจว่าขงเบ้งน่าจะใกล้ถึงวาระสุดท้ายแล้ว จึงสั่งทหารห้ามออกรบเด็ดขาดให้รอจนกว่าขงเบ้งจะป่วยตายไปเอง
ขงเบ้งเมื่อรู้ตัวว่าใกล้จะตายแล้วได้แต่เสียใจที่ไม่อาจทำการใหญ่ให้สำเร็จดังที่เคยให้สัญญาไว้กับพระเจ้าเล่าปี่ ว่าจะฟื้นฟูราชวงศ์ฮั่นขึ้นมาใหม่
เรื่องขงเบ้งป่วยรู้ถึงเมืองหลวงพระเจ้าเล่าเสี้ยนส่งลิฮกไปเยี่ยมขงเบ้งแทนตน ให้ลิฮกไปฟังคำสั่งเสียจากขงเบ้ง ขงเบ้งจึงทำจดหมายลาพระเจ้าเล่าเสี้ยนพร้อมสั่งการต่างๆว่า
หลังจากเราตายอย่าให้ทหารนุ่งขาวห่มขาวให้ทำเหมือนเราไม่เป็นอะไรแล้วเลิกทัพกลับเสฉวนฝ่ายข้าศึกไม่รู้ก็จะไม่ตามมาตี แต่ถ้าสุมาอี้ยกทัพตามมาก็ให้เอาหุ่นแต่งเป็นเรานั่งรถออกมาก็จะหลอกสุมาอี้ถอยทัพกลับไปได้
เรื่องการศึกให้เอียวหงีดูแลการทหาร ทำการสิ่งใดให้ปรึกษาเกียงอุย ส่วน อองเป๋ง ม้าต้าย เลียวฮัว เตียวเอ็ก เตียวหงีล้วนไว้ใจได้ แต่อุ๋ยเอี๋ยนจะก่อการกบฏ ขงเบ้งจึงมอบคำสั่งลับให้ม้าตายคอยติดตามดูแล้วจัดการอุ่ยเอี๋ยน เรื่องกิจการภายในหลังจากสิ้นขงเบ้งให้เจียวอ้วนขึ้นเป็นสมุหนายก จากเจียวอ้วนเป็นบิฮุย จากนั้นขงเบ้งก็สิ้นใจ
สรุป บทที่ 28
ในช่วงนี้เป็นช่วงที่แผ่นดินจีนแบ่งเป็นสามองค์กรใหญ่ ทำให้เป็นการชิงไหวชิงพริบกันระหว่างองค์กร 3 องค์กรว่าใครจะสามารถบริหารกิจการภายใน ใช้การฑูต และรบด้วยการใช้ทรัพยากรณ์ที่มีอยู่ได้อย่างคุ้มค่าที่สุด
วุยก๊กเป็นองค์กรที่ครองพื้นที่ใหญ่สุด แต่การที่มีพื้นที่มากก็ทำให้วุยก๊กนั้นต้องรบในหลาย segment พื้นที่ๆจะต้องป้องกันมีมากเหลือเกิน ต้องใช้ความสามารถในการจัดการซึ่งวุยก๊กแม้จะต้องรับศึกสองด้านแต่ก็สามารถทำได้ดีรักษาตัวรอดจากสถาณะการณ์คับขันมาได้ตลอด ด้วยนโยบายเชิงรับที่แข็งแกร่งและอดทนอย่างยอดเยี่ยมของสุมาอี้
ในขณะที่จ๊กก๊กนั้นเริ่มต้นยุค 3 ก๊ก ได้ไม่ดีเนื่องจากเสีย กวนอู เตียวหุย เหล่าทหารเอก และพระเจ้าเล่าปี่อย่างต่อเนื่อง ทั้งยังสูญเสียทหารถึง 75 หมื่นนายพร้อมยุทโธปกรณ์ ในศึกที่อิเหลง
แต่ขงเบ้งก็สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างยอดเยี่ยม
เริ่มต้นด้วยการอาศัยชัยภูมิที่ได้เปรียบ กันการบุก 4 ทางจากวุยก๊ก ใช้การฑูตสร้างสหพันธรัฐกับง่อก๊ก ทำให้องค์กรจ๊กก๊กกลับมาอยู่ในตำแหน่งที่สามารถแข่งขันกับก๊กอื่นๆได้อีกครั้ง
จากนั้นก็แก้ไขปัญหาหลังบ้านที่ชาวม่านลอบโจนตีด้วยการทุ่มทุนลงไปกำราบม่านก๊กครั้งใหญ่
จากนั้นเมื่อภายในองค์กรมีความพร้อม ก็หาจังหวะที่วุยก๊กมีปัญหาภายในบุกเข้ายึดพื้นที่วุยก๊กเป็นระยะๆ
ด้วยนโยบายเชิงรุกของขงเบ้ง จ๊กก๊กบุกวุยก๊กถึง 6 ครั้ง สูญเสียทรัพยากรณ์อันมีค่าทั้งทรัพยากรณ์บุคคล ทั้งยุทโธปกรณ์ ตลอดจนเสบียงต่างๆไปมากมาย แต่ก็บุกไปได้ถึงเข้ากิสานเท่านั้น
ทุกครั้งที่ได้เปรียบมักจะมีเหตุที่ทำให้ต้องถอยทัพกลับ ปัจจียส่วนใหญ่ที่ทำให้ขงเบ้งต้องถอยทัพกลับนั้นคือเรื่องของเสบียง
หรือก็คือเงินเดือนที่ต้องจ่ายทหารเพื่อเลี้ยงปากท้อง จ๊กก๊กไม่มีทุนพอที่จะทำศึกไกลบ้านในระยะยาว ทั้งการส่งเสบียงก็ยังล่าช้า เพราะด้วยการเดินทางที่ไม่สะดวก
ทำให้ขงเบ้งต้องมีปัญหากับมือไฟแนนซ์ใหญ่ของจ๊กก๊กคนโปรดสมัยเล่าปี่ที่ใหญ่มากขนาดขงเบ้งยังทำอะไรไม่ได้
ทำให้มองเห็นถึงจุดอ่อนขององค์กรจ๊กก๊ก ที่ภายในไม่เข้มแข็งแบ่งฝักแบ่งฝ่าย
ขงเบ้งไม่มีอำนาจมากพอที่จะสั่งการจัดการได้ทุกอย่าง และระบบการสืบทอดตำแหน่งให้ลูกหลานก็เป็นตัวการทำให้องค์กรจ๊กก๊กอ่อนแอลง
เพราะตำแหน่งหน้าที่การงานสืบทอดไปสู่ทายาท ไม่ได้รับตำแหน่งด้วยความสามารถ องค์กรจ๊กก๊กจึงเหมือนองค์กรที่มีขงเบ้งคนเดียวที่มุ่งจะลากองค์กรไปข้างหน้าด้วยการพลาญทรัพยากรณ์ขององค์กรอย่างมากมาย
ในขณะที่ฝ่ายอื่นๆในองค์กรโดยเฉพาะตัวผู้นำพระเจ้าเล่าเสี่ยนนั้นรักสงบไม่เห็นด้วยกับนโยบายเชิงรุกของขงเบ้งเท่าใดนัก ทำให้องค์กรอยู่ในสภาพจะมุ่งไปให้สุดก็ทำไม่ได้ ทำได้แค่เกือบจะสำเร็จเท่านั้น
ส่วนองค์กรง่อก๊กของซุนกวนนั้นเป็นองค์กรที่ปรับตัวได้ดีตามโอกาส เมื่อจ๊กก๊กเผลอก็จัดการกวนอูชิงเกงจิ๋วมาเมื่อสิ้นพระเจ้าเล่าปี่ก็กลับมาเป็นสหพันธรัฐกับจ๊กก๊กตามเดิม ด้วยนโยบายลู่ตามลมนี้ทำให้ง่อก๊กเป็นองค์กรที่สบายที่สุด เพราะจ๊กกับวุยรบกันต่างสูญเสียทรัพยากรณ์กันไปทั้งคู่ ทำให้ง่อก๊กมีความพร้อมที่สุด ง่อก๊กเพียงแค่รุกรับบ้างตามโอกาสก็อยู่รอดไปได้แบบสบายๆ รอเพียงฝ่ายใดเพี่ยงพล้ำค่อยฉวยโอกาสเข้าซ้ำเติมก็มีโอกาสจะได้ชัยชนะในที่สุด
ขอบพระคุณที่ติดตาม
รังสรรค์ ใจอารีย์
@3kokstartup

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา