ทราบไหมว่า "คะน้า" จัดว่าเป็นหนึ่งในอาหารที่มีสารอาหารหนาแน่นที่สุดในโลก
ผักคะน้าเป็นผักที่นิยมรับประทานกันมาช้านานแลเป็นผักในตระกูลกะหล่ำ เช่นกะหล่ำปลี, บรอคโคลี
คะน้าจัดได้ว่าเป็นหนึ่งใน "อาหารจากพืชที่ดีต่อสุขภาพ" และมีคุณค่าทางโภชนาการมากที่สุด
📌 ผักคะน้าอุดมไปด้วยสารประกอบที่มีประโยชน์หลากหลายประเภท ซึ่งบางชนิดมีคุณสมบัติทางยาที่จัดว่าเป็นยาที่มีประสิทธิภาพสูง
คะน้าดีต่อสุขภาพอย่างไร?
➡ 1. คะน้าเป็นหนึ่งในอาหารที่มีสารอาหารหนาแน่นที่สุดในโลก
ผักคะน้าดิบหนึ่งถ้วย (ประมาณ 67 กรัม)
** ในทีนี้ให้คำอธิบายคำว่า %DV Percent Daily Values (%DV) คือปริมาณเหมาะสมที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันเทียบเป็นเปอร์เซนต์ เท่าความต้องการพลังงานที่ 2,000 แคลอรี่ ไม่งงนะคะ
ผักคะน้าดิบหนึ่งถ้วยเล็กๆ หรือแค่ 67 กรัม
มีอะไรแค่ไหน มาดูกัน
วิตามิน A: 206% ของ DV (จากเบต้าแคโรทีน)
วิตามินเค: 684% ของ DV
วิตามินซี: 134% ของ DV
วิตามินบี 6: 9% ของ DV
แมงกานีส: 26% ของ DV
แคลเซียม: 9% ของ DV
ทองแดง: 10% ของ DV
โพแทสเซียม: 9% ของ DV
แมกนีเซียม: 6% ของ DV
นอกจากนี้ยังมี DV 3% หรือมากกว่าสำหรับวิตามินบี 1 (วิตามินบี) วิตามินบี 2 (ไรโบฟลาวิน) วิตามินบี 3 (ไนอาซิน) เหล็กและฟอสฟอรัส
แถมมีแคลอรี่ทั้งหมดแค่ 33 แคลอรี่เท่านั้น
⬇⬇ ดูรูปประกอบกันนะคะ ⬇⬇
Source: Nutrient data by USDA SR-21
Source: Nutrient data by USDA SR-21
Source: Nutrient data by USDA SR-21
Source: Nutrient data by USDA SR-21
ผักคะน้ามีไขมันน้อยมาก แต่ไขมันส่วนใหญ่ในนั้นคือกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่เรียกว่ากรดอัลฟ่าไลโนเลนิค
➡ 2. คะน้าเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพเช่น Quercetin และ Kaempferol
คะน้าก็เช่นเดียวกับผักใบเขียวอื่น ๆ ที่มีคุณสมบัติดีๆข้อนี้
📖 เจ้าสารต้านอนุมูลอิสระทราบไหมดียังไง?
➡ ตอบ มันเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญของการต่อสู้กับริ้วรอย ความชราเหี่ยวย่น และโรคต่างๆรวมถึงมะเร็ง
➡ 3. เป็นแหล่งวิตามินซีที่ยอดเยี่ยม
วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ละลายในน้ำได้ซึ่งมีหน้าที่สำคัญมากมายในเซลล์ของร่างกาย
ตัวอย่างเช่น มันจำเป็นสำหรับการสังเคราะห์คอลลาเจนซึ่งเป็นโปรตีนโครงสร้างที่มีมากที่สุดในร่างกาย
ผักคะน้ามีวิตามินซีสูงกว่าผักอื่นๆ เช่นสูงกว่าผัดโขมประมาณ 4.5 เท่า
แค่หนึ่งถ้วยคะน้า ก็มีวิตามินซีมากกว่า"ส้ม"ซะอีก
➡ 4. คะน้า ช่วยลดคอเลสเตอรอลซึ่งอาจลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ
คอเลสเตอรอลมีหน้าที่สำคัญมากมายในร่างกายตัวอย่างเช่นมันถูกใช้เพื่อสร้างกรดน้ำดีซึ่งเป็นสารที่ช่วยให้ร่างกายย่อยสลายไขมัน
ตับจะเปลี่ยนคอเลสเตอรอลเป็นกรดน้ำดีซึ่งจะถูกปล่อยออกสู่ระบบย่อยอาหารทุกครั้งที่คุณรับประทานอาหารที่มีไขมัน ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ
📖 จากการศึกษาหนึ่งพบว่า "การดื่มน้ำคะน้า" ทุกวันเป็นเวลา 12 สัปดาห์เพิ่ม HDL ("ดี") คอเลสเตอรอล 27% และลดระดับ LDL ลง 10%
➡ 5. คะน้าเป็นแหล่งวิตามินเคที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
วิตามินเคเป็นสารอาหารที่สำคัญที่ช่วยในเรื่องการแข็งตัวของเลือด
📝 คะน้าเป็นแหล่งวิตามินเคที่ดีที่สุดแหล่งหนึ่งเพียงถ้วยเดียวก็มีปริมาณแนะนำเกือบ 7 เท่าของปริมาณประจำวัน เยอะมากใช่ไหมค่ะ?
รูปแบบของวิตามินเคในผักคะน้าเป็น K1 ซึ่งจะแตกต่างกว่าวิตามิน K2 K2 พบได้ในอาหารหมักถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์จากสัตว์บางชนิด ช่วยป้องกันโรคหัวใจและโรคกระดูกพรุน
➡ 6. มีสารต่อสู้มะเร็งมากมายในผักคะน้า
คะน้านั้นเต็มไปด้วยสารที่เชื่อว่ามีฤทธิ์ป้องกันมะเร็ง หนึ่งในนั้นคือ sulforaphane ซึ่งเป็นสารที่แสดงให้เห็นว่าช่วยต่อสู้กับการก่อตัวของมะเร็งในระดับโมเลกุล
➡ 7. คะน้ามีเบต้าแคโรทีนสูงมาก
คะน้ามักจะถูกอ้างถึงว่ามีวิตามินเอสูง แต่ก็ไม่ถูกต้องทั้งหมด
เอาจริงๆแบบชัดๆเจาะจงลงไปอีก คะน้ามี "เบต้าแคโรทีน" สูงซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ร่างกายสามารถเปลี่ยนเป็น"วิตามินเอ"
ด้วยเหตุนี้คะน้าจึงเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มระดับวิตามินในร่างกายของคุณ
➡ 8. ธาตุที่คนส่วนใหญ่ไม่ได้รับเพียงพอ
คะน้ามีแร่ธาตุสูงซึ่งบางคนก็ขาดไป
คะน้าเป็นแหล่ง"แคลเซียม" ซึ่งเป็นสารอาหารที่มีความสำคัญต่อสุขภาพกระดูกและมีบทบาทในการทำงานของเซลล์ทุกประเภท
เป็นแหล่ง"แมกนีเซียม" ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่สำคัญ ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ไม่ได้รับมันอย่างเพียงพอ
ซึ่งการรับประทานแมกนีเซียมจำนวนมากอาจป้องกันโรคเบาหวานประเภท 2 และโรคหัวใจ
คะน้ายังมีโพแทสเซียม ซึ่งโพแทสเซียมจะช่วยในเรื่องการลดความดันโลหิตและลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ
➡ 9. คะน้ามีลูทีนและซีแซนทีนสูง ซึ่งเป็นสารอาหารที่มีประสิทธิภาพช่วยป้องกันดวงตาจากการเสื่อมสภาพ
นอกจากนี้ คะน้ายังช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้โดยอ้อม ผักคะน้ามีคุณสมบัติหลายอย่างที่ทำให้อาหารเป็นมิตรกับการลดน้ำหนัก
เนื่องจากแคลอรี่ต่ำและมีปริมาณน้ำสูง คะน้าจึงมีความหนาแน่นพลังงานต่ำ การรับประทานอาหารที่มีพลังงานต่ำช่วยในการลดน้ำหนัก
ทีนี้เข้าใจหรือยังว่า ทำไมถึงบอกว่า "คะน้า" จัดเป็นหนึ่งในอาหารที่มีสารอาหารที่หนาแน่นที่สุดในโลก
📌 ข้อความเตือนเรื่องการทานคะน้า
ในผักคะน้าจะมีสารชนิดหนึ่งคือ goitrogen เป็นสารที่พบในพืชตระกูลกะหล่ำ และพืชตระกูลหอม มีฤทธิ์ในการยับยั้งการสร้างฮอร์โมนในต่อมไทรอยด์ทำให้ร่างกายนำไอโอดีนในเลือดไปใช้ได้น้อยกว่าปกติ
หากรับประทานผักผลไม้ที่มีสารชนิดนี้มากเกินไปอาจจทำให้ร่างกายขาดสารไอโอดีนจนทำให้เป็นโรคคอพอกได้
แต่สารตัวนี้จะต่ำมากๆถ้าปรุงสุกค่ะ สรุปง่ายๆอย่าทานผักเหล่านี้ดิบๆ ในปริมาณมาก ก็พอจะลดความกังวลตรงนี้ได้ค่ะ
เรียบเรียงโดย สาระอัปเดต
28.02.2019
💬 ยอมรับว่าเหนื่อยกับบทความที่ยังกะมหากาพย์กันเลยทีเดียว เป็นบทความที่ตั้งใจเผยแพร่ให้ได้ทราบกัน หากบทความนี้พอมีคุณค่า
อย่าลืม กดไล้ค ให้กำลังใจกัน
กดติดตาม หรือคอมเมนท์แสดงความเห็นกัน
ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านค่ะ
โพสต์แนะนำจากเพจ
- 121
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
