6 มี.ค. 2019 เวลา 04:40
ครีมกันแดด 💥😊ทำงานอย่างไร? ตอน1/2
ดวงอาทิตย์ทำร้ายผิวของเราโดยเปร่งแสงอาทิตย์ที่มาพร้อมกับตัวการร้าย รังสีอัลตราไวโอเลต UVA และ UVB . . . แล้ว UVA และ UVB คืออะไร? แล้วมันต่างกันอย่างไร?
• รังสี UVA (UVA = aging มีอายุมากขึ้น) เป็นสาเหตุทำให้เกิดริ้วรอยจุดด่างดำ ทำให้ผิวพรรณของเราแก่ขึ้น และเป็นสาเหตุให้เกิดมะเร็งผิวหนัง (สังเกตุไหมทำไมชาวนา กรรมกร คนที่ทำงานเกี่ยวกับการขับรถ หรืออาชีพอะไรก็ตามที่ต้องโดนแดดบ่อยๆนั้น หน้าของพวกเขาส่วนใหญ่แก่กว่าวัย หมองคล้ำ ดูไม่น่ามองเท่าไหร่นัก)
UVA นอกจากจะทำร้ายผิวชั้นนอกหรือ epidermis แล้ว ยังทะลุเข้าไปทำลายคอลลาเจนและอิลาสตินที่เป็นโครงสร้างผิวในชั้น dermis อีกด้วย
• รังสี UVB (UVB = burning เกิดการเผาไหม้) UVB ทำให้ผิวเราคล้ำ แทนลง ดำลง และอาจจะถึงขั้นไหม้จนเกิดอาการ แดง แสบ คัน นอกจากนั้น UVB ยังเป็นสาเหตุสำคัญทำให้เกิดมะเร็งผิวหนัง
UVB จะทำลายเซลล์ผิวเฉพาะบนชั้น epidermis หรือผิวชั้นนอกเท่านั้น แต่เพียงแค่ชั้นนอกก็ถือว่าเป็นอันตรายแล้วเพราะ เซลล์ผิวและ DNA ก็อยู่บนผิวชั้นนอกนี้เช่นกัน
สารกรองแสงซึ่งเป็นส่วนผสมของ ผลิตภัณฑ์กันแดด ทำหน้าที่ป้องกันรังสี UV ด้วยการรวมตัวและทำงานร่วมกันของสารกรองแสง ซึ่งจะเกิดบนผิวหนังของคุณ มีทั้งแบบสะท้อนรังสีออกไปและแบบดูดซับรังสี UV
ชนิดของรังสียูวี
แสงแดดที่แทรกชั้นบรรยากาศลงมาถึงโลกของเราได้นั้น จะมีรังสีแสงแดดที่มีผลต่อผิวหนังอย่างมาก ซึ่งจะแบ่งเป็น 3 ช่วงคลื่นใหญ่ ๆ ด้วยกัน คือ
• ช่วงคลื่นระหว่าง 320-400 นาโนเมตร (คลื่นยาว) เราจะเรียกกันว่า รังสี UVA ซึ่งเป็นรังสีที่สามารถแทรกซอนถึงผิวชั้นลึก ๆ หรือผิวหนังชั้นล่างได้ ทำลายเนื้อเยื่อและดีเอ็นเอของเซลล์ผิว (สามารถทะลุผ่านเมฆและกระจกได้ด้วย) โดยเป็นตัวทำลายคอลลาเจนและความชุ่มชื้นของผิวหนัง ทำให้ผิวแห้งจนเกิดริ้วรอยลึกหรือผิวเหี่ยวย่น (++++), ทำให้เกิดฝ้า กระ (+++), มะเร็งผิวหนัง (++) และผิวหมองคล้ำ (+)
• ช่วงคลื่นระหว่าง 290-320 นาโนเมตร (คลื่นกลาง) เราจะเรียกกันว่า รังสี UVB เป็นรังสีสามารถทะลุได้ถึงชั้นหนังกำพร้าเท่านั้น จึงทำให้ผิวหนังแดงหรือผิวไหม้แดด ซึ่งเป็นตัวการหลักทำให้สีผิวของเราหมองคล้ำ หรือที่เราเรียกว่า "แดดเผา" (++++), เป็นมะเร็งผิวหนัง (+++), ทำให้เกิดริ้วรอย (++) และปัญหาฝ้า กระ (+)
Cr:patcharapa.com
โฆษณา