ฮอลลีวู้ด อุตสาหกรรมภาพยนตร์โลก ตอนที่ 2
แรกเริ่มสร้างภาพยนตร์
ในช่วงต้นศตวรรษ 1900 (พ.ศ.2443-2452) ผู้คนพากันย้ายเข้ามาอยู่ในฮอลลีวู้ด หนึ่งในนั้นก็คือเหล่านักทำหนังทั้งหลาย
ในเวลานั้นภาพยนตร์คือสิ่งแปลกใหม่และกำลังได้รับความนิยมครับ จุดเริ่มต้นมาจากภาพยนตร์เรื่อง “The Great Train Robbery” ภาพยนตร์ในปีค.ศ.1903 (พ.ศ.2446)
ภาพยนตร์เรื่องนี้มีฉากแอ็คชั่นที่น่าตื่นเต้น และยังเป็นภาพยนตร์ที่มีความยาวที่สุดในยุคนั้น คือ 12 นาที
The Great Train Robbery (1903)
ในเวลานั้น การสร้างภาพยนตร์มักจะสร้างในสตูดิโอที่ทึบ น่าอึดอัด ฉากที่ได้ก็ไม่สมจริง เหล่าผู้กำกับและผู้อำนวยการสร้างจึงต้องการจะถ่ายภาพยนตร์โดยใช้ฉากจริงๆ ถ่ายนอกโรงถ่าย
แอลเอดูจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดครับ อากาศก็ดี ภูมิทัศน์ก็หลากหลาย ข้อสำคัญที่สุดก็คือ แอลเอนั้นอยู่ไกลจากเมนโล พาร์ค สำนักงานใหญ่ของเอดิสัน
ทุกๆ ท่านน่าจะรู้จักโทมัส อัลวา เอดิสัน (Thomas Alva Edison) เขาเป็นนักประดิษฐ์ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุด ในปีค.ศ.1877 (พ.ศ.2420) เอดิสันได้ประดิษฐ์เครื่องบันทึกเสียงได้สำเร็จ และต่อมา ในปีค.ศ.1879 (พ.ศ.2422) เขาก็ได้ประดิษฐ์หลอดไฟฟ้า
โทมัส อัลวา เอดิสัน (Thomas Alva Edison)
ในช่วงปลายทศวรรษ 1880 (พ.ศ.2423-2432) เอดิสันก็ได้มุ่งมั่นที่จะประดิษฐ์กล้องที่สามารถบันทึกภาพที่ขยับได้ ไม่ใช่เพียงภาพนิ่ง รวมถึงจอขนาดใหญ่ที่สามารถฉายภาพให้ดูได้พร้อมกันหลายๆ คน และเขาก็ทำได้สำเร็จ
เหล่าผู้สร้างภาพยนตร์อยากจะใช้กล้องของเอดิสัน ส่วนโรงภาพยนตร์ก็อยากจะใช้จอของเอดิสัน เนื่องจากในยุคนั้น การดูภาพยนตร์ จะฉายบนจอเล็กๆ ดูได้แค่ทีละคนเท่านั้นครับ
แต่ปัญหาคือเอดิสันไม่ยอมให้ใครใช้ฟรีๆ ครับ หากใครอยากใช้กล้องหรือจอของเขา ก็ต้องจ่ายเงินให้เอดิสัน ไม่อย่างนั้นก็จะถูกเอดิสันฟ้อง
เหล่านักทำหนังในยุคแรกๆ จึงหาทางเลี่ยงครับ พวกเขาจึงมุ่งมายังแอลเอ เนื่องจากแอลเอนั้นอยู่ห่างจากสำนักงานใหญ่ของเอดิสัน หากเอดิสันส่งทนายมาฟ้องร้อง กว่าจะหาตัวพวกเขาเจอ ก็คงจะใช้เวลานาน
หนึ่งในนักทำหนังที่มายังฮอลลีวู้ดคือซีซิล บี เดอมิลล์ (Cecil B. Demille) เขาเป็นผู้เขียนบทละครและผู้กำกับสารคดีในนิวยอร์ก โดยเดอมิลล์ ได้ย้ายมาฮอลลีวู้ดในปีค.ศ.1913 (พ.ศ.2456)
ซีซิล บี เดอมิลล์ (Cecil B. Demille)
เดอมิลล์ได้วางแผนจะสร้างภาพยนตร์เรื่องยาว โดยวางแผนจะทำหนังคาวบอย แต่การจะถ่ายหนังคาวบอยในนิวยอร์กคงเป็นไปไม่ได้เนื่องจากนิวยอร์กเป็นเมืองใหญ่ เขาต้องการฉากที่เป็นธรรมชาติ ภูเขา ชนบท ซึ่งแอลเอในตอนนั้นนับว่าเหมาะที่สุดครับ
ภาพยนตร์ของเดอมิลล์นั้นชื่อว่า “The Squaw Man” เป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับชายชาวอังกฤษที่เดินทางมายังตะวันตกและได้แต่งงานกับชาวอเมริกันพื้นเมือง
นี่นับว่าเป็นความแปลกใหม่ในยุคนั้นครับ เนื่องจากมีหนังไม่กี่เรื่องที่แสดงเนื้อหาเกี่ยวกับการแต่งงานที่ต่างเชื้อชาติ แต่ภายหลังออกฉาย ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ถูกติงว่าเป็นภาพยนตร์ที่เหยียดเชื้อชาติ
The Squaw Man (1914)
เดอมิลล์กับผู้กำกับร่วมของเขา ได้จัดการตั้งศูนย์ใหญ่ของสำนักงานพวกเขาในโรงนาในฮอลลีวู้ด พวกเขาไม่รู้เลยว่า ต่อมาภายหลัง โรงนาแห่งนี้จะกลายเป็นศูนย์กลางภาพยนตร์ของโลก
เดอมิลล์เริ่มถ่ายทำ The Squaw Man ในวันที่ 29 ธันวาคม ค.ศ.1913 (พ.ศ.2456) เดอมิลล์เป็นคนคิดพล๊อตเรื่อง ส่วนออสการ์ แอพเฟล (Oscar Apfel) ผู้กำกับร่วมของเขา ถนัดในการเล่นกล้อง ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายโคลสอัพ ซูมออก หรือถ่ายในระดับต่างๆ ทำให้ภาพยนตร์ดูไม่น่าเบื่อ
ในยุคนั้น ภาพยนตร์จะเป็นภาพยนตร์เงียบครับ ผู้ชมต้องอ่านคำบรรยายสลับภาพเพื่อรับรู้เรื่องราว แต่ในโรงภาพยนตร์ก็มักจะมีวงดนตรีคอยทำเสียงประกอบฉากต่างๆ
ในที่สุด The Squaw Man ก็ถ่ายทำเสร็จและออกฉายในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1914 (พ.ศ.2457) หนังเรื่องนี้มีความยาวถึง 74 นาทีและได้รับการยอมรับว่าเป็นหนังเรื่องยาวเรื่องแรกของฮอลลีวู้ด และภาพยนตร์เรื่องนี้ยังประสบความสำเร็จและโด่งดังเป็นอย่างมาก
นับเป็นการเปิดประตูบานแรกของฮอลลีวู้ดและส่งให้ฮอลลีวู้ดเป็นศูนย์กลางภาพยนตร์ของโลก
ตอนหน้า ผมจะมาเล่าต่อนะครับว่าอุตสาหกรรมภาพยนตร์นั้นรุ่งเรืองอย่างไรต่อ รวมถึงสถานการณ์และเหตุการณ์ต่างๆ ในฮอลลีวู้ดที่ต้องบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยนะครับ
- 25
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
