18 มี.ค. 2019 เวลา 04:00 • ประวัติศาสตร์
วันดีเดย์ (D-Day) ปฏิบัติการพลิกสงครามโลก ตอนที่ 3
แผนลวงของสัมพันธมิตรและการตัดสินใจที่เปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์ของไอเซนฮาวร์
1
เหล่าผู้ต่อต้านนาซีในฝรั่งเศสนั้น ได้หาทางส่งข่าวต่างๆ แจ้งกับทางสัมพันธมิตรที่อยู่ในอังกฤษ แต่ปัญหาคือการส่งข่าวนั้นต้องไม่ถูกนาซีจับได้
วิธีการของพวกเขาคือใช้พิราบสื่อสารครับ มีการนำข้อความที่ต้องการส่งให้กับทางสัมพันธมิตรผูกติดกับขาของนกพิราบและปล่อยมันบินข้ามช่องแคบอังกฤษ
1
ฝ่ายสัมพันธมิตรยังคงหลอกฮิตเลอร์ต่อไป ในเช้าตรู่ของปฏิบัติการดีเดย์ เครื่องบินของฝ่ายสัมพันธมิตรได้จัดการปล่อยทหารพลร่มนับร้อยนายในบริเวณที่ห่างไกลจากจุดที่จะโจมตีจริงๆ
ทหารพลร่มเหล่านั้นไม่ใช่ทหารจริงๆ หรอกครับ แต่เป็นตุ๊กตาที่เอามาใส่ชุด ใส่หมวกให้ดูเหมือนทหารจริงๆ ตุ๊กตาแต่ละตัวจะมีระเบิดเล็กๆ ติดอยู่ที่หลังเพื่อทำลายตัวเองเมื่อถึงพื้น
1
ตุ๊กตาทหารพลร่ม
แผนการนี้ได้ผลครับ พวกนาซีตกหลุมพรางเต็มๆ
ทหารนาซีนับร้อยต่างรีบไปยังจุดที่ตุ๊กตาทหารกระโดดร่มลงมา ซึ่งอยู่ทิศทางตรงกันข้ามกับจุดที่กองทัพสัมพันธมิตรจะบุกโจมตี
1
แผนลวงนี้ช่วยชีวิตผู้คนและทหารได้นับไม่ถ้วน
1
ผมขอย้อนไปเล่าถึงการวางแผนของปฏิบัติการวันดีเดย์ซักนิดนะครับ อันที่จริงนั้น ตามกำหนดการ ปฏิบัติการดีเดย์จะลงมือในวันที่ 5 มิถุนายน ค.ศ.1944 (พ.ศ.2487) ในระหว่างรอเวลา นักบินของฝ่ายสัมพันธมิตรก็ได้ยิงเครื่องบินของเยอรมนีตกไปกว่า 1,300 ลำ ซึ่งนี้เป็นการดีสำหรับวันที่ลงมือในปฏิบัติการดีเดย์ ทำให้ตัดกำลังของฝ่ายอักษะ
เครื่องบินทิ้งระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตรก็ทำงานกันอย่างหนักครับ พวกเขาทิ้งระเบิดยังสะพานสำคัญ รวมถึงถนนสายต่างๆ ในฝรั่งเศส เป็นการตัดเส้นทางของศัตรู ทำให้ไม่สามารถส่งกำลังเสริมมาช่วยได้โดยสะดวก แต่ก็ยังทิ้งเส้นทางบางสายไว้สำหรับให้ทหารสัมพันธมิตรเข้าโจมตี
ต้นเดือนพฤษภาคม ค.ศ.1944 (พ.ศ.2487) ทหารเกือบ 2 ล้านคนมารวมพลกันยังท่าเรือทางตอนใต้ของอังกฤษ ทหารทุกนายมาประจำการเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับปฏิบัติการดีเดย์
1
ค่ายของฝ่ายสัมพันธมิตรนั้นแน่นมากครับ แค่อาหารมื้อเดียวก็ต้องใช้พ่อครัวกว่า 4,500 คนในการทำอาหารสำหรับทหาร
1
วันที่ 3 มิถุนายน ค.ศ.1944 (พ.ศ.2487) ทหารสัมพันธมิตรต่างเตรียมขึ้นเรือที่จะไปยังนอร์มังดี ทุกอย่างเตรียมพร้อมไว้แล้ว แต่เกิดพายุเข้าครับ ทำให้ทุกอย่างล่าช้า
แต่นับเป็นโชคดีครับ เนื่องจากพายุเข้า นายพลเออร์วิน รอมเมล (Erwin Rommel) แห่งกองทัพนาซีจึงไม่คิดว่าฝ่ายสัมพันธมิตรจะบุกจู่โจม เขาจึงออกเดินทางจากนอร์มังดีเพื่อไปเยี่ยมภรรยา
1
นายพลเออร์วิน รอมเมล (Erwin Rommel)
กลับมาที่อังกฤษ นายพลไอเซนฮาวร์สั่งให้เลื่อนปฏิบัติการดีเดย์ออกไปอีก 24 ชั่วโมง
เช้าตรู่วันที่ 5 มิถุนายน ค.ศ.1944 (พ.ศ.2487) นายพลไอเซนฮาวร์เข้าพบผู้บังคับบัญชาในคฤหาสน์ทางเหนือของอังกฤษ พวกเขากำลังหนักใจกับสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจ
พวกเขากำลังฟังรายงานสภาพอากาศอย่างใจจดใจจ่อ ฝนตกหนักและพายุเข้า ดูเหมือนว่าวันที่ 6 มิถุนายนน่าจะเหมาะกว่าหากจะเข้าโจมตี
1
พวกเขาควรจะจู่โจมในวันเวลาตามแผนเดิมมั้ย? หรือควรจะรอดี? หากไม่รีบจู่โจม พวกเขาต้องรออีกหนึ่งเดือนเต็มๆ ถึงจะถึงวันที่พระจันทร์เต็มดวง
ไอเซนฮาวร์จัดประชุมเหล่านายทหารและให้ช่วยกันโหวต ผลโหวตนั้นใกล้เคียงกันมากครับ จนท้ายที่สุด คำตอบสุดท้ายอยู่ที่ไอเซนฮาวร์ จะลงมือตามแผนเดิมหรือจะเลื่อน อยู่ที่เขาคนเดียวแล้ว
ดไวท์ ดี ไอเซนฮาวร์ (Dwight D. Eisenhower)
ความกดดันทั้งหมดตกมาอยู่กับไอเซนฮาวร์ การบุกไปท่ามกลางพายุย่อมเป็นการเสี่ยงต่อชีวิตของทหารทั้งกองทัพ รวมถึงโอกาสที่แผนการจะล้มเหลวก็มีสูง
แต่หากเลื่อนปฏิบัติการนี้ออกไป พวกนาซีก็อาจจะรู้ทันถึงแผนการนี้ นั่นก็เสี่ยงอีกเช่นกัน
ในที่สุด เวลา 4.00 น. วันที่ 5 มิถุนายน ค.ศ.1944 (พ.ศ.2487) ไอเซนฮาวร์ก็ได้ให้คำตอบครับ คำตอบของเขาเป็นประโยคสั้นๆ แต่พลิกหน้าประวัติศาสตร์ไปตลอดกาล
“โอเค ลุยเลย”
1
ตอนต่อไป ผมจะเล่าถึงการลงมือในปฏิบัติการดีเดย์นะครับ เวลาลงมือมาถึงแล้ว ฝากติดตามด้วยนะครับ
โฆษณา