14 พ.ค. 2019 เวลา 02:45 • สุขภาพ
ประโยชน์ของมะละกอ ผลไม้เพื่อสุขภาพ ต้านโรคได้
น้ำมะละกอปั่น - วิธีทำ พร้อมสูตรเด็ด
มะละกอ ผลไม้ที่สามารถทานได้ทั้งดิบและสุก ซึ่งก็มีรสชาติอร่อย และสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย
ไม่ว่าจะเป็นการทานแบบสดๆ นำมาทำส้มตำ หรือเป็นส่วนประกอบของอาหารก็ตาม และนอกจากการนำมาใช้ประโยชน์แล้ว
มะละกอก็ยังมีประโยชน์อีกมากมายที่จะช่วยบำรุงสุขภาพให้แข็งแรงและต้านโรคร้ายได้อีกด้วยประโยชน์​ทางยา
ต้านมะเร็ง
จากการวิจัยพบว่า มะละกอมีสารไลโคปีน ที่จะช่วยในการต้านมะเร็งได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก
จึงควรทานมะละกอให้มากขึ้น นอกจากนี้ก็พบว่าเมล็ดมะละกอสามารถนำมาใช้ในการรักษาโรคมะเร็งได้อีกด้วย จึงมีการนำเมล็ดมะละกอมาสกัดเพื่อเป็นยาบรรเทาอาการมะเร็งนั่นเอง
บำรุงหัวใจ
มะละกอ มีส่วนช่วยในการบำรุงหัวใจให้แข็งแรง และสามารถป้องกันการเกิดไขมันอุดตันเส้นเลือด หรือโรคหัวใจขาดเลือดได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ในคนที่เป็นโรคหัวใจอยู่แล้ว การทานมะละกอบ่อยๆ ก็สามารถบรรเทาอาการของโรคหัวใจได้เหมือนกัน แม้จะไม่สามารถทำให้หายขาดได้ แต่เมื่อทานควบคู่ไปกับการรักษาทางแพทย์ ก็จะให้ผลลัพธ์ที่ดีไม่น้อย
ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น
เนื่องจากมะละกอเป็นผลไม้ที่ย่อยง่าย จึงทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้นและสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของระบบย่อยอาหารได้เป็นอย่างดี
อีกทั้งสารอาหารและวิตามินในมะละกอ ก็สามารถถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย จึงให้ประโยชน์ต่อร่างกายได้เต็มที่สุดๆ
เสริมสร้างความจำและบำรุงสมอง
มะละกอ อุดมไปด้วยวิตามินและสารอาหารมากมาย ที่จะช่วยเสริมสร้างความจำและบำรุงสมองได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ความจำดีขึ้น
แถมลดความเสี่ยงการเป็นอัลไซเมอร์และช่วยให้สมองเกิดความผ่อนคลายอีกด้วย
โดยเฉพาะวัยเรียนและวัยทำงานที่ต้องใช้สมองและความคิดมากเป็นพิเศษไม่ควรพลาดที่จะทานมะละกอเด็ดขาด
บรรเทาอาการท้องผูก
มะละกอมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ และมีเส้นใยสูง จึงสามารถบรรเทาอาการท้องผูกได้ดี แถมยังลดความเสี่ยงการเป็นโรคริดสีดวงทวารอีกด้วย
ดังนั้นสำหรับใครที่มีปัญหาท้องผูกเป็นประจำ การทานมะละกอก็จะช่วยแก้อาการท้องผูกได้อย่างดีเยี่ยม
และสามารถปรับระบบการขับถ่ายให้เป็นปกติได้ดี
สรรพคุณของมะละกอ
1. มีส่วนช่วยกระตุ้นให้มารดามีน้ำนมมากขึ้น
2. มะละกอมีส่วนช่วยในการบำรุงประสาทและสมอง
3. มะละกอมีเอนไซม์ที่เป็นยาช่วยย่อยอาหาร
4. ช่วยป้องกันลักปิดลักเปิดหรือเลือดออกตามไรฟันได้
5. ช่วยรักษาอาการขัดเบา ด้วยการใช้รากสดประมาณ 1 กำมือ รากแห้งอีกครึ่งกำมือ หั่นแล้วนำมาต้มกับน้ำ แล้วนำน้ำมาดื่มวันละ 3 ครั้งก่อนมื้ออาหาร
6. เป็นยาระบายอ่อน ๆ แก้อาการท้องผูก ด้วยการกินเนื้อมะละกอสุก
7. ช่วยในการย่อยอาหาร
8. ใช้ฆ่าพยาธิ ด้วยการใช้ยางจากผลดิบซึ่งเป็นยาช่วยย่อยโปรตีน
9. ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ แก้ขัดเบา จากรากมะละกอ
10. ช่วยป้องกันการเกิดโรคนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ
11. ช่วยรักษาอาการเท้าบวม ด้วยการนำใบมะละกอสด ๆ มาตำให้ละเอียดแล้วผสมกับเหล้าขาว นำมาพอกบริเวณนั้น ๆ
12. ช่วยแก้อาการเคล็ดขัดยอก ด้วยใช้รากมะละกอนำมาตำให้แหลกแล้วผสมกับเหล้าขาว นำมาทาบริเวณนั้น ๆ
13. ใช้รักษาอาการผดผื่นคันขึ้นตามลำตัว ด้วยใช้ใบมะละกอ 1 ใบ เกลือ 1 ช้อนชา น้ำมะนาวจำนวน 2 ผล นำมาตำรวมกันให้ละเอียดแล้วนำมาทาบริเวณที่เป็นผดผื่น
14. ช่วยรักษาโรคกลาก เกลื้อน เท้าเปื่อย ด้วยการใช้ยางมะละกอดิบมาทาวันละ 3 ครั้ง จะสามารถช่วยฆ่าเชื้อราได้
15. ช่วยรักษาอาการคันอันเกิดมาจากพิษของหอยคัน ด้วยการใช้ยางมะละกอดิบ ๆ นำมาทาทั้งเช้าและเย็น
16. หากโดนเสี้ยนหรือหนามตำหรือหนามหักคาเนื้อใน หากนำยางมะละกอดิบมาทา หนามจะหลุดออกมา แต่ให้บ่งเปิดปากแผลก่อน
17. หากโดนตะปูตำเท้าเป็นแผล ให้นำผิวของลูกมะละกอดิบมาตำแล้วนำมาพอกแผล โดยเปลี่ยนใหม่วันละ 2 ครั้ง
18. ช่วยรักษาแผลพุพอง อักเสบ ด้วยการใช้ใบมะละกอที่แห้งกรอบนำมาบดให้เป็นผง นำไปผสมกับน้ำกะทิผสมให้พอเหนียว แล้วนำมาทาแผลวันละ 3 ครั้ง
19. ใช้รักษาแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก ด้วยการใช้เนื้อมะละกอดิบ ๆ ต้มจนเปื่อย นำมาตำแล้วพอกบริเวณบาดแผล
20. ใช้รักษาอาการปวดหลังปวดข้อต่าง ๆ ด้วยการรับประทานมะละกอสุกอย่างต่อเนื่องจะช่วยบรรเทาอาการดังกล่าวได้
21. ช่วยรักษาอาการปวดกล้ามเนื้อหรือกล้ามเนื้อไม่มีแรง ด้วยการใช้รากมะละกอตัวผู้นำมาแช่เหล้าขาวทิ้งไว้ 7 วัน
และกรองเอาน้ำมาทาบริเวณที่กล้ามเนื้อหรือบริเวณที่กล้ามเนื้ออ่อนแรง
22. ช่วยลดอาการปวดบวม ด้วยการนำใบมะละกอสด ๆ ไปย่างไฟหรือใช้น้ำร้อนลวก แล้วนำมาประคบบริเวณที่มีอาการ
หรือนำมาตำให้พอพยาบแล้วห่อด้วยผ้าขาวบาง นำมาทำเป็นลูกประคบก็ใช้ได้เหมือนกัน
26. ช่วยป้องกันการเกิดอาการตับโตหรือโรคที่เกี่ยวกับตับ
27. เป็นยาช่วยบำรุงหัวใจให้แข็งแรง
28. มีงานวิจัยมะละกอพบว่าการรับประทานมะละกอเป็นประจำมีส่วนช่วยในการต่อต้านโรคมะเร็งได้
ประโยชน์ของมะละกอ
1. มะละกอเป็นผลไม้ที่หากินได้ง่าย มีขายตามท้องตลาดทั่วไป
จัดเป็นผลไม้ที่มีส่วนช่วยในการบำรุงประสาทและสมองได้เป็นอย่างดี
2. เป็นผลไม้ที่มีส่วนช่วยในการย่อยอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เนื่องจากเป็นผลไม้ที่มีเอนไซม์คอยเป็นยาช่วยในการย่อยอาหารนั่นเอง
3. การทานมะละกอจะมีส่วนช่วยในการป้องกันโรคลักปิดลักเปิดหรือโรคเลือดออกตามไรฟัน
และยังมีส่วนช่วยในการป้องกันการเกิดโรคนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะได้
4. มะละกออุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระหลากหลายชนิด
ซึ่งสารดังกล่าวมีส่วนช่วยในการทำให้สุขภาพร่างกายของคนเรามีความแข็งแรง
แค่ทานมะละกอเป็นประจำ ก็จะช่วยบำรุงสุขภาพให้แข็งแรงขึ้นได้ และสามารถต้านโรคร้ายต่างๆ ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะโรคมะเร็ง
และเพื่อให้ได้ประโยชน์ของมะละกอมากที่สุด ควรทานมะละกอสุกมากกว่ามะละกอดิบ เนื่องจากจะมีวิตามินและสารอาหารสูงกว่า
แถมทานง่าย ย่อยง่ายและอุดมไปด้วยเส้นใยอาหารอีกด้วย
ดังนั้นเพื่อสุขภาพที่ดี หันมาทานมะละกอบ่อยๆ กันเถอะ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน
ข้อควรระวัง
1. ควรเลือกทานมะละกอที่มีคุณภาพ โดยเลือกมะละกอสุกที่มีผิวสีเหลืองบางส่วนหรือเหลืองทั้งหมด และผลของมะละกอตรงบริเวณขั้วที่ติดกับลำต้นไม่ควรนิ่มเหลว
2. ไม่ควรทานมะละกอที่เน่าเสีย ผิวเหี่ยวย่นและช้ำ รวมทั้งมะละกอที่มีเนื้อนุ่มเหลวเละ เพราะอาจทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกายได้
3. ไม่ควรทานมะละกอที่ดิบจนเกินไป ซึ่งผลที่ดิบเกินไปจะมีเปลือกนอกสีเขียวและมีเนื้อที่แข็งมาก
4. ควรทานมะละกอในปริมาณที่พอดีเพื่อความปลอดภัยของร่างกาย ไม่ควรทานในปริมาณที่มากจนเกินไป เพราะเสี่ยงต่อการทำให้เกิดปัญหาสุขภาพได้
5. หลีกเลี่ยงไม่ให้ผิวหนังสัมผัสกับยางมะละกอ เพราะอาจเสี่ยงทำให้เกิดปัญหาต่อผิวหนังได้
6. สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์นั้น ควรหลีกเลี่ยงการทานมะละกอ เพราะมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์จากงานวิจัยชี้ให้เห็นว่า สารเคมีพาเพนที่อยู่ในมะละกอ อาจเป็นพิษต่อทารกน้อยในครรภ์ได้ รวมทั้งอาจทำให้เกิดภาวะพิการแต่กำเนิด ดังนั้นหากคุณแม่ตั้งครรภ์ต้องการทานมะละกอมากๆ ก็ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อความชัวร์และปลอดภัยทั้งคุณแม่และทารกในครรภ์
7. สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ควรระมัดระวังในการทานมะละกอ โดยเฉพาะมะละกอที่ผ่านการดองอาจส่งผลทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงต่ำลงได้ ดังนั้นก่อนทานมะละกอ ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรปรึกษาแพทย์เพื่อเช็คและควบคุมระดับน้ำตาลให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
8. ผู้ที่มีอาการแพ้สารพาเพน ควรหลีกเลี่ยงการทานมะละกอ เนื่องจากในมะละกอจะมีสารชนิดนี้อยู่
9. ผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดไม่ควรทานมะละกอ โดยเฉพาะมะละกอที่ผ่านการดอง อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดต่ำลงได้ ซึ่งนั่นอาจทำให้เกิดผลกระทบต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดในระหว่างและหลังการผ่าตัด ทั้งนี้ผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดควรหยุดทานมะละกออย่างน้อยประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด
10. สำหรับคุณแม่หลังคลอดที่ต้องการเพิ่มน้ำนมให้ลูกน้อย ควรทานมะละกอในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่ควรทานมากจนเกินไป ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีข้อพิสูจน์ใดๆ ที่เสนอเกี่ยวกับผลกระทบต่อแม่และลูกน้อย แต่ก็ควรป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายของทั้งคุณแม่และลูกน้อยที่อาจเสี่ยงได้รับสารเคมีต่างๆ ผ่านทางน้ำนมได้ การทานผลไม้ต่างๆ โดยเฉพาะมะละกอ ที่ถือว่าเป็นผลไม้ที่หลายๆ คนมองว่ามันให้ประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายของคนเราอย่างมาก แต่ทั้งนี้ก็ควรใส่ใจในการทานอย่างเหมาะสม ไม่ควรทานมากจนเกินไป เพราะแทนที่จะทานเพื่อเป็นยาและส่งผลดีต่อสุขภาพ อาจทำให้กลายเป็นการสร้างผลเสียต่อร่างกายและทำให้เกิดอันตรายต่างๆ ตามมาได้ ดังนั้นการใส่ใจในการทานผลไม้ทุกชนิดถือว่าสำคัญมากเลยทีเดียว
วิธีมำน้ำมะละกอปั่น
1. เนื้อมะละกอสุกหั่นเป็นชิ้นๆ 1 ถ้วย
2. น้ำเย็น 1/2 ถ้วย
3. น้ำแข็ง 1/2 ถ้วย
4. น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
5. น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ
6. เกลือป่น 1 หยิบมือ
7. มะนาวฝานบางๆ (ตกแต่ง)
8. ใ บสะระแหน่ (ตกแต่ง)
วิธีปรุง
1. ปอกเปลือกมะละกออย่าปอกกินเนื้อมะละกอจนเกินไป เพราะเนื้อส่วนใต้เปลือกมะละกอมีประโยชน์ต่อร่างกาย แล้วจึงหั่นเนื้อมะละกอเป็นชิ้นเล็กๆ ใช้เนื้อประมาณ 1 ถ้วย
2. ใส่น้ำแข็ง เนื้อมะละกอ น้ำเย็น น้ำมะนาว น้ำผึ้ง เกลือป่นลงในโถปั่น ปั่นจนเนื้อเนียนละเอียดเข้ากัน
3. เทเครื่องดื่มใส่แก้วที่เตรียมไว้ ตกแต่งด้วยมะนาวฝานบางๆกับใบสะระแหน่
เพื่อให้ร่างกายได้รับคุณค่าทางสารอาหารจากมะละกอได้อย่างครบถ้วนควรดื่มทันทีหลังจากปั่นเสร็จ
และที่บอกว่าไม่ควรปอกเปลือกมะละกอลึกกินเนื้อเกินไปนั้น ก็เพราะว่าบริเวณใต้ผิวเปลือกมะละกอสุก
จะมีสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
ดูแลรักษา​สุขภาพ​ด้วยนะค่ะ
ปรารถนาดี​จาก "มนุษย์​ขาดผัก"
#นิสัยรักสุขภาพทำให้คนข้างๆสุขภาพดีไปด้วย
#นิสัยรักสุขภาพ เป็นโรคติดต่อชนิดใหม่
แหล่งอ้างอิง : วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี (EN)
โฆษณา